ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4509 ทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล 2
เฉินจ้างโจง เร่งเดินบึ่งไปยังห้องผู้ป่วยของแม่ตามการชี้แนะ
เมื่อมาถึงหน้าห้อง เขาก็หยุดฝีเท้า แล้วเคาะประตู
ด้านในมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาทันที: “เชิญค่ะ”
เฉินจ้างโจงผลักเปิดประตูห้องผู้ป่วย ด้านในมีเตียงผู้ป่วยอยู่หนึ่งเตียงเท่านั้น นายหญิงใหญ่ใส่เครื่องช่วยหายใจ นอนบนเตียงด้วยสภาพอิดโรยสุดๆ และข้างๆ นายหญิงใหญ่ก็มีผู้ชายสามคนหญิงสองคน คนวัยกลางคนห้าคน และเด็กสิบกว่าขวบสองสามคน
เมื่อคนวัยกลางคนทั้งหาเห็นเฉินจ้างโจงตรงหน้าประตู แต่ละคนต่างก็อึ้งไปกับที่ราวกับโดยฟ้าผ่า ผู้หญิงที่อายุเยอะหน่อยในกลุ่มนั้นเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจขีดสุด: “พี่ใหญ่?! เป็นพี่ใหญ่จริงๆ เหรอ?!”
เฉินจ้างโจงมองหน้าเธอ พร้อมเอ่ยถามโดยปกปิดความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่: “เธอ…เธอคือเสี่ยวเหลียน?!”
ผู้หญิงคนนั้นเมื่อได้ยินเฉินจ้างโจงเรียกชื่อตน ก็น้ำตาไหลพรากออกมาทันที รีบวิ่งเข้ามากอดเฉินจ้างโจงทันที พูดพลางร้องไห้ไป: “พี่ใหญ่ พี่กลับมาได้ยังไง คนที่แซ่หลิวอยากฆ่าพี่มาโดยตลอด พี่กลับมาเวลานี้ ถ้าเขารู้เข้าจะต้องไม่ปล่อยพี่ไว้แน่ๆ …”
ชายหญิงอีกคนก็เดินเข้ามาพร้อมกัน พร้อมกอดเฉินจ้างโจงเอาไว้แน่น ร่ำไห้และถามคำถามเดียวกัน
ชายหญิงคู่นี้ ก็คือน้องชายและน้องสาวของเฉินจ้างโจง
ปีนั้น เฉินจ้างโจงหนีไปกับฟางเจียซิน น้องชายน้องสาวที่อายุมากสุดยังเรียนหนังสืออยู่ ที่เล็กที่สุดก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
เพียงเวลาชั่วพริบตาเดียว ยี่สิบปีก็ผ่านไปแล้ว น้องชายที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่เลยในปีนั้น ตอนนี้อายุสี่สิบกว่าปีแล้ว และน้องสาวคนเล็กที่ยังเรียนหนังสืออยู่ในตอนนั้น ได้แต่งงานเรียบร้อยแล้ว
และนอกเหนือจากน้องชายน้องสาวของเขาแล้ว ผู้ชายอีกสองคนก็คือสามีของน้องสาวทั้งสองคน ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอเช่นกัน
เฉินจ้างโจงซ่อนตัวที่สหรัฐอเมริกาตั้งนานหลายปี แม้จะติดต่อกับคนในครอบครัวทางอีเมลอยู่เรื่อย ทว่าตั้งหลายปีแบบนี้ เขาไม่เคยได้เจอหน้าคนในครอบครัวเลย
แม้คนในครอบครัวจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไชน่าทาวน์ นิวยอร์ก แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของเขา ไม่มีใครกล้ามาเยี่ยมเขาที่นิวยอร์กเลย
อีกทั้ง ปัจจุบันนี้พวกเขาอาศัยที่เกาะฮ่องกาง ถือว่าใช้ชีวิตระดับชั้นล่าง ซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ต่อเรื่องภายนอกน้อยมาก ไม่เคยได้รับข่าวสารว่าเฉินจ้างโจงจะถูกส่งตัวกลับมา
ดังนั้น เมื่อเห็นเฉินจ้างโจงกลับมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว นอกจากตื่นเต้นแล้ว ก็เป็นห่วงมากกว่า เป็นห่วงว่าเฉินจ้างโจงกลับมาครานี้ หลิวเจียฮุยจะมาปลิดชีวิตเขา
เฉินจ้างโจงอดกลั้นน้ำตาเอาไว้ เอ่ยปลอบใจพวกเขา: “พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันกับคุณหลิวได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว”
สิ้นเสียง ก็รีบเอ่ยถามว่า: “ตอนนี้อาการของคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?”
น้องชายของเฉินจ้างโจงร้องไห้ไปเอ่ยไปว่า: “พี่ใหญ่ คุณแม่หมดสติไปลึกแล้ว หมอบอกตั้งนานแล้วว่าแม่จะไม่ตื่นขึ้นมาอีก ตอนเช้าหมอเพิ่งโทรมาบอกเราว่า คุณแม่น่าจะอยู่ได้แค่วันสองวันนี้เท่านั้น…”
เฉินจ้างโจงได้ยินดังนี้ จึงรีบบึ่งไปยังเตียงผู้ป่วย กุมมือของนายหญิงใหญ่เอาไว้ ร้องไห้พร้อมพูดว่า: “แม่ครับ ผมเอง ไอ้โจงไง…ผมกลับมาเยี่ยมแม่แล้ว แม่ลืมตามองผมได้ไหมครับแม่!”
นายหญิงใหญ่ตอนนี้ไม่มีความสามารถในการรับรู้ใดๆ แล้ว พลังชีวิตแทบจะอ่อนแรงมากๆ
เฉินจ้างโจงแยกยากมารดามายี่สิบปี บัดนี้ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่า แม่จะใกล้จากไปแล้ว แม้กระทั่งมองหน้าเขาสักนิดก็ยากมาก
นึกย้อนกลับไป ยี่สิบปีมานี้ ตนยังไม่ได้แสดงความกตัญญูต่อมารดาก่อนจากไปเลย เฉินจ้างโจงก็รู้สึกย่ำแย่ขีดสุด เขากุมมือมารดาร่ำไห้ราวกับเด็กน้อย
น้องชายน้องสาวเห็นเขาแบบนี้ ก็ร้องไห้อยู่รอบเตียงมารดาตามๆ กัน