ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4510 อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน 1
เย่เฉินเห็นดังนี้ จึงควักยาช่วยหัวใจออกมาแล้วตั้งใจเดินเข้าไปยื่นให้เฉินจ้างโจง แล้วเอ่ยว่า: “ลุงโจงยาอายุวัฒนะเม็ดนี้น่าจะสามารถรักษาแม่ของลุงได้ ลุงเอาไปป้อนให้ท่านเถอะ”
เฉินจ้างโจงมองดูยาอายุวัฒนะ อยู่ๆ ก็ราวกับนึกอะไรขึ้นได้ จึงยื่นมือไปลูบกระเป๋ากางเกงตนเองตามสัญชาตญาณ ล้วงเอากล่องไม้ขนาดเล็กออกมา แล้วเอ่ยอย่างจริงจังว่า: “คุณชายเย่ ยาอายุวัฒนะที่คุณเคยให้ผม ผมพกมันติดตัวตลอด เม็ดนี้สามารถรักษาแม่ของผมให้หายดีได้ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยว่า: “ได้ ก่อนหน้านี้ตาของผมก็ป่วยหนักเกินเยียวยา ก็มียาอายุวัฒนะตัวนี้แหละที่ช่วยให้เขามีชีวิตรอดกลับมาได้”
เฉินจ้างโจงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยอย่างดีใจขึ้นมา: “ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย ขอบคุณครับคุณชายเย่ เดี๋ยวผมจะให้แม่ผมกินยานี้!”
สิ้นเสียงก็เปิดกล่องไม้ แล้วหยิบยาช่วยหัวใจจากข้างในออกมา
เย่เฉินก็ไม่ได้พยายามต่อ เก็บยาอายุวัฒนะของตนกลับคืนอย่างเงียบๆ
เฉินจ้างโจงรีบนำหน้ากากออกซิเจนของแม่ออก แล้วหันไปพูดกับน้องชายว่า: “ไอ้จู่ นายช่วยฉันประคองคุณแม่ขึ้นมาหน่อย”
น้องชายรีบทำตาม เข้าไปประคองร่างส่วนบนของนายหญิงใหญ่ขึ้นมาเบาๆ
เฉินจ้างโจงป้อนยาอายุวัฒนะที่เย่เฉินเคยให้ตนเข้าปากนายหญิงใหญ่ จากนั้นก็จ้องนายหญิงใหญ่ตาไม่กะพริบ รอคอยให้ปาฏิหาริย์บังเกิด
ยาช่วยหัวใจไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าสีเหลืองซีดของนายหญิงใหญ่ก็เริ่มมีเลือดฝาด ลมหายใจที่แผ่วเบาโรยราก็เริ่มมีแรงขึ้นมา จากนั้นนายหญิงใหญ่ก็ขยับเปลือกตาเล็กน้อย แล้วก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ
อาจเป็นเพราะยังปรับสายตาเข้ากับแสงไม่ได้ ตอนแรกนายหญิงใหญ่ยังมองอะไรไม่ชัด จึงเอ่ยอย่างสับสนว่า: “ไอ้จู่…เมื่อกี้แม่ฝันไป…ฝันว่าพี่ใหญ่ลูกกลับมาแล้ว…”
ทั้งลูกชายลูกสาวตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก ใครก็คิดไม่ถึงว่ายาอายุวัฒนะของเย่เฉินจะได้ผลขนาดนี้ แค่สิบวินาทีเท่านั้น คนที่หมดสติลึกก็ฟื้นขึ้นมาได้แล้ว!
จากคำพูดแรกหลังจากฟื้นขึ้นของผู้เป็นมารดา ก็ทำให้เฉินจ้างโจงร้องไห้ออกมาทันที เขาสะอื้นแล้วเอ่ยว่า: “แม่ ผมคือไอ้โจงเอง ผมกลับมาแล้วครับ!”
“ไอ้…ไอ้โจงงั้นเหรอ?!”
นายหญิงใหญ่ตะลึงงันไปชั่วขณะ ค่อยยกมือขึ้นมาถูดวงตาของตนเอง
การมองเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ภาพเบื้องหน้าชัดเจนขึ้นแล้ว ก็เบิกตากว้างจ้องเฉินจ้างโจงเป็นเวลานาน ทันใดนั้นก็ยื่นมือไปตบบ้องหูเขา แล้วด่าทออย่างโมโห: “ไอ้สารเลว ใครให้แกกลับมา!”
สิ้นเสียง เธอก็จ้องไปยังลูกชายรองและลูกสาวสองคนของตนด้วยสายตาที่ฉุนเฉียว พร้อมถามว่า: “ใครให้พวกแกเรียกพี่ใหญ่พวกแกกลับมา? ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ต่อให้ฉันตายก็ห้ามบอกเขา! ถ้าเขากลับมาที่เกาะฮ่องกางเมื่อไหร่ ไอ้คนที่แซ่หลิวนั่นก็จะมาปลิดชีวิตเขา!”
เฉินจ้างโจงรีบเอ่ยว่า: “แม่ครับ ไม่ต้องห่วงนะ ผมกับคุณหลิวเราปรับความเข้าใจกันแล้ว ไม่มีใครจะมาเอาชีวิตผมไปได้!”
“เป็นไปได้ยังไง?” นายหญิงใหญ่ไม่อยากจะเชื่อ เอ่ยว่า: “ครั้งที่แล้วเจียซินมาเยี่ยมฉัน ยังตั้งใจให้ฉันกำชับแกอีกว่าห้ามกลับเกาะฮ่องกางเป็นอันขาด บอกว่าคนที่แซ่หลิวไม่ยอมปล่อยแกไปทั้งที่ผ่านไปนานหลายปีแล้ว เพราะแกไปทำให้เขาขายขี้หน้าต่อทั้งเกาะฮ่องกาง เขาเลยเกลียดแกเข้ากระดูก จะคืนดีกับแกได้ยังไง?”
เฉินจ้างโจงกลับหลังหัน ชี้ไปยังเย่เฉิน แล้วพูดกับนายหญิงใหญ่: “แม่ครับ ต้องขอบคุณคุณชายเย่แท้ๆ ที่ช่วยผมให้ผมคลี่คลายเรื่องนี้ได้ หลิวเจียฮุยเองก็เห็นแก่หน้าเขาเลยคืนดีกันกับผมครับ”
สิ้นเสียง เฉินจ้างโจงก็พูดขึ้นอีก: “จริงสิครับแม่ ที่แม่ฟื้นขึ้นมาได้ ก็ต้องขอบคุณยาอายุวัฒนะของคุณชายเย่เหมือนกัน”
นายหญิงใหญ่มองไปยังเย่เฉิน เมื่อเห็นเย่เฉินที่กำลังหนุ่มยังแน่น ก็ประหลาดใจมาก ทว่าก็ยังคงเอ่ยอย่างเคารพนบนอบว่า: “คุณชายเย่ ฉันขอเป็นตัวแทนของครอบครัวขอบพระคุณในบุญคุณและความดีงามของคุณ!”