ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4523 คำพูดและการกระทำต้องตรงไปตรงมา 1
คำพูดของเฟ่ยเข่อซิน ทำให้ภายในใจของหลิวม่านฉงตกใจอย่างมาก
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า เฟ่ยเข่อซินที่เป็นคนคัดท้ายเรือของทั้งตระกูลเฟ่ย ในด้านความรู้สึกแล้ว จะรักผู้ชายที่มีภรรยาแล้วอย่างไม่สะทกสะท้านได้แบบนี้
และก็ จากคำพูดของเธอ ก็ยังฟังออกถึงความรู้สึกต่ำต้อยได้อย่างง่ายดาย
จู่ๆ เธอก็ชื่นชมความไม่สะทกสะท้านของเฟ่ยเข่อซินนี้ เธอรู้สึกว่า ตัวเองเทียบกับเฟ่ยเข่อซินแล้ว ห่างกันอย่างมากจริงๆ
แต่ว่า ในใจเธอก็ยังสงสัย จึงถามเธอว่า:“คุณหนูเฟ่ย ในเมื่อเย่เฉินแต่งงานแล้ว แต่คุณยังรักเขาขนาดนี้ ไม่เป็นห่วงว่าอนาคตจะไม่เกิดอะไรขึ้นเลยงั้นหรือคะ?”
เฟ่ยเข่อซินยิ้ม พูดนิ่งๆ ไปว่า:“เรื่องความรักห้ามกันไม่ได้หรอก ก็เหมือนของบางสิ่ง คุณควบคุมตัวเองไม่ไปกินได้ แต่คุณควบคุมความอยากกินของตัวเองไม่ได้”
พูดไป เฟ่ยเข่อซินก็จ้องเธอ พูดอย่างล้อเล่นว่า:“ใช่สิ คุณก็รู้ว่าเขาเคยแต่งงานแล้ว หรือว่าตั้งแต่นี้ไปคุณสามารถไม่รู้สึกดีๆ กับเขาได้อีกแล้ว?ถ้าคุณทำได้ ก็ได้โปรดสอนฉันด้วย”
หลิวม่านฉงฟังก็ตกตะลึง ก้มหน้าลงทันที พูดอย่างหงุดหงิดว่า:“ฉันทำไม่ได้……”
“ใช่ไง”เฟ่ยเข่อซินยักไหล่:“ในเมื่อทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ตัวเองลำบากใจ ชอบเขา ก็ชอบอย่างกล้าหาญ อยากเจอเขา ก็พยายามสร้างโอกาส ถ้าไม่ชอบเข้าไปยุ่งกับชีวิตแต่งงานของคนอื่น งั้นก็อย่าให้เขารู้ว่าคุณชอบเขาตลอดไป”
พูดถึงตรงนี้ เฟ่ยเข่อซินเปลี่ยนเรื่องคุย พูดด้วยสายตากระปรี้กระเปร่าเล็กน้อย:“ถ้ารู้สึกว่าความรู้สึกสำคัญต่อตัวเอง มากกว่าศีลธรรม งั้นก็ต้องพยายามเพื่อความสุขของตัวเอง ถึงจะแทรกแซงชีวิตแต่งงานของคนอื่น ฉันคิดว่าก็ไม่ใช่ความผิดที่รุนแรงอะไร ทุกคนมาที่โลกใบนี้แค่ชีวิตเดียว งาน โอกาส ความมั่งคั่ง ล้วนได้มาจากความสามารถ แล้วทำไมถึงมีความสุขไม่ได้ล่ะ?”
หลิวม่านฉงพูดโพล่งไปว่า:“แต่ว่าเขาแต่งงานแล้ว……ถ้าคนอื่นเข้ามาแทรกแซงชีวิตแต่งงานของเขา ก็ไม่ยุติธรรมต่อภรรยาเขามาก……”
เฟ่ยเข่อซินส่ายหน้า:“ความรู้สึกที่เธอและฉันปรารถนาร่วมกัน ก็ควรจะใช้กฎธรรมชาติที่ใครดีใครอยู่แพ้คัดออก ไม่ใช่ว่าใครมาก่อนคนนั้นก็จะนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น”
พูดไป เฟ่ยเข่อซินก็พูดอีกว่า:“ฉันถามย้อนนะ ถ้าคุณมีแฟนอยู่แล้ว แต่ไปรักเย่เฉิน คุณจะทำอย่างไร?แกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรต่อไป ดูภายนอกสนิทสนมกันดีกับแฟนของคุณต่อไป หรือว่าเลิกกับเขา แล้วไปไล่ตามรักแท้ของตัวเองมา?”
“ฉัน……”หลิวม่านฉงตะลึง ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ครุ่นคิดไปมา เธอก็กัดริมฝีปากล่าง พูดอย่างจริงจังว่า:“ฉันน่าจะเลือกอย่างหลัง อย่างน้อยก็ให้ความเคารพแฟนฉันมากพอ”
“ความเคารพ?”เฟ่ยเข่อซินถามด้วยความประหลาดใจ:“คุณคิดว่า สำหรับคนที่รักคุณแล้ว คุณทำเป็นสนิทสนมกันดีกับเขา นอนข้างเขาทุกวัน แต่คิดถึงผู้ชายคนอื่น นี่คือเคารพเขางั้นหรือ?แล้วถ้าเป็นแฟนของคุณตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่น นอนอยู่ข้างคุณทุกวัน จินตนาการว่าคุณเป็นอีกคน คุณคิดว่านี่คือความเคารพที่มีต่อคุณงั้นหรือ?”
“ฉัน……”เผชิญหน้ากับคำถามอันเฉียบคมของเฟ่ยเข่อซิน หลิวม่านฉงก็ยิ่งพูดไม่ออก
ด้านหนึ่ง เธอคิดว่าเฟ่ยเข่อซินพูดมีเหตุผล แต่อีกด้าน เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงแม่ นึกถึงสิ่งต่างๆ ที่ตอนนั้นพ่อทำกับฟางเจียซิน
เฟ่ยเข่อซินเห็นเธอนิ้งไป จึงพูดต่อว่า:“ม่านฉง ฉันบอกคุณให้ ถ้าฉันเจอปัญหาแบบนี้ ฉันจะทำอย่างไร”
เฟ่ยเข่อซินเงียบไป แล้วก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า:“อย่างแรก รักคนอื่นไม่น่ากลัว ที่สำคัญที่สุดก็คือคำพูดและการกระทำต้องตรงไปตรงมา!ดังนั้น ฉันจะสารภาพกับแฟนฉันอย่างไม่ลังเลเลย สารภาพว่าฉันชอบคนอื่นแล้ว นี่ไม่ใช่แค่เคารพเขา แต่ยังเคารพตัวเองด้วย”