ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4571 ไม่ควรลำเอียง (2)
หลิวเจียฮุยรีบพูดขึ้น “คุณเย่ ของพวกนี้ต่อให้แพงแค่ไหน มันก็ไม่เพียงพอที่จะแสดงความขอบคุณที่ผมมีต่อคุณ ดังนั้นคุณอยากได้เกรงใจผมเลย”
เย่เฉินพยักหน้า เห็นผู้คนที่ยืนอยู่ด้านนอกรถ แต่ยังคงไม่เห็นเงาของหลิวม่านฉง ในใจอดไม่ได้ที่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
แต่เขาก็ไม่ได้ถามหลิวเจียฮุยอีก จากนั้นก็พูดขึ้น “คุณหลิว ใกล้ถึงเวลาแล้ว เราออกเดินทางกันเถอะ”
หลิวเจียฮุยมองดูเวลา แล้วรีบพูดขึ้น “คุณเย่ ยัยหนูม่านฉงไม่รู้เป็นอะไร โทรศัพท์ก็โทรไม่ติด คุณโปรดรอสักครู่ ผมลองโทรหายัยหนูอีกครั้ง”
พูดจบ หลิวเจียฮุยก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กำลังจะโทร ก็ได้ยินเสียงของหลิวม่านฉงดังมาจากไกล “พ่อ!”
เย่เฉินหันกลับไปโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่เขาเห็นหลิวม่านฉง ความผิดหวังที่ยากจะควบคุมของเมื่อกี้ ก็สลายไปในทันที
หากวันนี้ก่อนที่จะไปจากฮ่องกง ไม่ได้เห็นหลิวม่านฉงเป็นครั้งสุดท้าย ในใจเขาต้องมีความรู้สึกที่เสียดายอยู่บ้าง
ขณะนี้สีหน้าของหลิวเจียฮุยแสดงออกอย่างดีใจ มองไปทางหลิวม่านฉงแล้วกวักมือเรียก ปากก็อดไม่ได้ที่จะบ่น “ลูกไปไหนมา? ทุกคนรอลูกอยู่ ลูกก็น่าจะโทรบอกพ่อหน่อย!”
หลิวม่านฉงพูดด้วยน้ำเสียงที่หอบ “มีเพื่อนรักคนหนึ่งเพิ่งจะกลับมาจากญี่ปุ่น……หนูฝากเขาช่วยซื้อของ….ดังนั้นจึงไปเอาของกับเธอก่อน……แต่ว่าไฟล์บินของเธอล่าช้า หนูได้ของ ก็รีบมาที่นี่ทันที วิ่งมาตลอดทาง ไม่ทันสังเกตมือถือ
ขณะพูด หลิวม่านฉงก็มาถึงข้างกายหลิวเจียฮุย มองเย่เฉินกับเฟ่ยเข่อซิน กล่าวอย่างขอโทษ “คุณเย่ คุณหนูเฟ่ย ขอโทษด้วยค่ะที่ให้คุณทั้งสองต้องรอ”
เฟ่ยเข่อซินยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว “ไม่เป็นไร พวกเราก็เพิ่งจะถึง อีกอย่างเราก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร ไม่รีบร้อนค่ะ”
ขณะที่พูด เธอเห็นในมือหลิวม่านฉง ถือไว้ด้วยกล่องที่มีขนาดเท่ากับกล่องเอกสาร ก็ถามด้วยความสงสัย “คุณม่านฉง คุณถืออะไรอยู่เหรอ? ดูแล้วเหมือนจะหนักมาก”
หลิวม่านฉงเหลือบมองกล่องที่อยู่ในมือ ก็อดไม่ได้ที่จะมองเย่เฉินที่อยู่ด้านข้าง พูดด้วยน้ำเสียงที่เขินอายเล็กน้อย “มันคือของขวัญที่ฉันให้เพื่อนช่วยซื้อมาฝากคุณเย่”
พูดจบ สองมือของเธอก็ได้ยื่นกล่องไปตรงหน้าของเย่เฉิน พูดอย่างคาดหวัง “คุณเย่ อันนี้คือของที่ระลึกที่จะให้คุณ หวังว่าคุณจะไม่รังเกียจ”
เย่เฉินคิดไม่ถึง หลิวม่านฉงจะเตรียมของขวัญให้ตัวเองเป็นพิเศษ มองดูสีหน้าที่คาดหวังของเธอ เย่เฉินก็ไม่ได้เกรงใจหลิวม่านฉง พูดอย่างขอบคุณ “งั้นผมก็ต้องขอบคุณน้ำใจของคุณม่านฉงแล้ว”
ขณะพูด เขาก็ได้ยื่นมือไปรับกล่องมา คิดไม่ถึงว่ากล่องจะมีน้ำหนักที่หนักพอสมควร
หลิวม่านฉงเห็นเขารับไว้ ก็ยิ้มอย่างสดใส และดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบกำชับ “ใช่แล้วค่ะ คุณเย่ ของขวัญนี้ให้เปิดหลังจากที่คุณขึ้นเครื่องแล้วนะคะ”
เย่เฉินตอบตกลง “ได้ครับ”
เฟ่ยเข่อซินที่อยู่ด้านข้างจงใจถาม “คุณม่านฉง คุณเตรียมของขวัญให้คุณเย่คุณเดียวเหรอ? แบบนี้เหมือนจะเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนแล้วนะ”
หลิวม่านฉงก็เขินอายในทันที พูดอย่างเก้อเขิน “ขอโทษด้วยค่ะคุณหนูเฟ่ย ของขวัญนี้ฉันบังเอิญเห็นมันในเน็ทเมื่อคืน และมันก็มีแค่ชิ้นเดียว ดังนั้นจึงรบกวนให้เพื่อนช่วยซื้อมา……ของขวัญของคุณเดี๋ยวจะส่งไปให้ในภายหลัง!”
เฟ่ยเข่อซินหัวเราะอย่างมีความสุข “ฉันก็แค่แกล้งคุณ ล้อเล่นกับคุณเท่านั้นเอง คุณอย่าคิดเป็นจริงจังเลยค่ะ”
ขณะที่พูด เธอก็รีบหันไปพูดกับเย่เฉิน “คุณเย่ ให้ม่านฉงนั่งรถคันเดียวกับคุณละกัน เดี๋ยวฉันยังต้องนั่งเครื่องกับคุณอีกสิบสองชั่วโมง ตอนนี้ก็ไม่อยากแย่งเวลาส่วนตัวของเธอกับคุณแล้ว”