ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4591 ไม่แสดงน้ำใจสักนิดเลยเหรอ? 2
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว” คุณท่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณเย่มีบุญคุณต่อตระกูลเฟ่ยมากเหมือนดั่งภูเขา การที่พวกเราสามารถทำงานให้เขาได้ ถือเป็นเกียรติของพวกเราแล้ว”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ คุณท่านอยากถามเฟ่ยเข่อซินว่าคราวนี้หลังจากเธอช่วยเย่เฉินแล้ว เย่เฉินได้แสดงน้ำใจอะไรหรือไม่”
แต่คำพูดแบบนี้ เขาไม่สามารถถามตามตรงได้ ดังนั้นเขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เข่อซิน รีบเข้าบ้านกันเถอะ แล้วเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางไปเกาะฮ่องกงคราวนี้ให้ปูฟัง”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวทักทายคนอื่น ๆ จากนั้นเดินไปห้องหนังสือพร้อมเฟ่ยเจี้ยนจง
ห้องหนังสือในคฤหาสน์หลักของตระกูลเฟ่ย ซึ่งเฟ่ยเจี้ยนจงใช้ห้องนี้มาตลอด
ห้องหนังสือมีพื้นที่มากกว่าหนึ่งร้อยตารางเมตร ภายในตกแต่งหรูหรามาก แม้แต่ห้องหนังสือของจักรพรรดิโบราณก็ยากที่จะเทียบได้
และที่นี่เป็นสถานที่ที่เฟ่ยเจี้ยนจงใช้ทำงานมาโดยตลอด การตัดสินใจครั้งสำคัญหลายอย่างที่ส่งผลต่อตระกูลเฟ่ยก็เกิดขึ้นที่นี่
ตอนนี้ถึงแม้ว่าเฟ่ยเข่อซินจะกลายเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ยแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ครอบครองห้องหนังสือของคุณท่าน ที่นี่ก็ยังคงเป็นของคุณท่าน
แต่วันนี้สถานการณ์แตกต่างเล็กน้อย
หลังจากเฟ่ยเข่อซินกับคุณท่านเข้ามาแล้ว เธอกำลังจะไปที่ที่นั่งตรงหน้าโต๊ะตามสัญชาตญาณ แต่คุณท่านยื่นมือออกไปห้าม กล่าวกับเธอว่า “เข่อซิน ไปนั่งด้านใน”
โต๊ะหนังสือของเฟ่ยเจี้ยนจงโต๊ะนี้ ประมูลมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง โต๊ะนี้ทำจากไม้หวงฮวาหลีคุณภาพสูงของมณฑลไหหลำ ฝีมือประณีตมาก และมีประวัติยาวนานกว่าห้าร้อยปี ได้รับการสืบทอดอย่างมีระเบียบมาสองราชวงศ์ ได้แก่ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง แล้วยังเคยตกไปอยู่ในมือของขุนนางในราชสำนักอีกด้วย ซึ่งมันเป็นโต๊ะที่เฟ่ยเจี้ยนจงชื่นชอบมาก
ที่ด้านในของโต๊ะหนังสือ เฟ่ยเจี้ยนจงวางเก้าอี้ที่ทำจากไม้หวงฮวาหลีของมณฑลไหหลำ ซึ่งเป็นที่นั่งของเขา ส่วนด้านนอกโต๊ะหนังสือ มีเก้าอี้ที่เล็กกว่าเล็กน้อยสามตัววางอยู่
โดยปกติแล้ว ในห้องหนังสือของเขา คนของตระกูลเฟ่ยมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถนั่งหน้าโต๊ะนี้ได้ เมื่อเฟ่ยเข่อซินมาที่ห้องหนังสือ เธอจะเลือกนั่งเก้าอี้หนึ่งในสามตัวนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่วันนี้ เฟ่ยเจี้ยนจงให้เธอนั่งด้านใน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน
เมื่อเฟ่ยเจี้ยนจงเห็นท่าทางประหลาดใจของเฟ่ยเข่อซิน เขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เข่อซิน ตอนนี้หลานเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ยแล้ว นั่งตำแหน่งนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ”
เฟ่ยเข่อซินรีบกล่าวว่า “คุณปู่ นี่คือห้องหนังสือคุณปู โต๊ะหนังสือของคุณปู่ ถึงแม้ว่าหนูจะเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ย แต่หนูก็เป็นหลานสาวของคุณปู่ ถ้าอยู่ในกลุ่มบริษัท การที่หนูนั่งในห้องประธานเพราะเป็นหน้าที่ แต่ถ้าอยู่ที่บ้าน หนูจะนั่งตำแหน่งนี้ได้อย่างไร……”
เฟ่ยเจี้ยนจงโบกมือและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ตระกูลเฟ่ยเป็นตระกูลที่ทำธุรกิจ ตระกูลก็คือธุรกิจ ธุรกิจก็คือตระกูล หลานเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ย สถานะนี้ไม่เพียงแค่เป็นประธานของเฟ่ยซื่อกรุ๊ปเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำทั้งหมดของตระกูลเฟ่ยอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นปู่ ก็จะอยู่ภายใต้คำสั่งและเชื่อฟังคำสั่งของหลาน”
หลังจากนั้น ไม่รอให้เฟ่ยเข่อซินพูด เขานั่งบนเก้าอี้หนึ่งในสามตัวก่อน แล้วกล่าวกับเฟ่ยเข่อซินว่า “เข่อซิน เชิญนั่งเถอะ”
เฟ่ยเข่อซินรู้สึกกดดันทันที แต่พยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะคุณปู่”
หลังจากกล่าวจบ เธอก็นั่งตรงข้ามเฟ่ยเจี้ยนจงด้วยความระมัดระวัง
เฟ่ยเจี้ยนจงถึงได้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางไปเกาะฮ่องกงคราวนี้ให้ปู่ฟังเถอะ”
เฟ่ยเข่อซินก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เล่าเกือบทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอกับเย่เฉินจะขึ้นเครื่องบิน