ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4595 เยี่ยมเยือนถึงบ้าน 1
หลังจากหม่าหลันกลับมาถึงห้องสูทของโรงแรมฮิลตัน เมื่อเข้ามาในประตู เธอถามเซียวชูหรันและเย่เฉินทันทีว่า “ชูหรัน ลูกเขยที่ดี คืนพรุ่งนี้พวกคุณสองคนว่างไหม?”
เซียวชูหรันถามด้วยความสงสัย “คุณแม่ มีอะไรเหรอคะ?”
หม่าหลันอธิบายว่า “แม่มีเพื่อนสนิทอยู่ในกลุ่มเดินวิบาก เธออยากเชิญครอบครัวพวกเราไปเป็นแขกที่บ้าน เพื่อนคนนี้อพยพจากหัวเซี่ยมาที่สหรัฐอเมริกามาหลายปีแล้ว เธอบอกว่าไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทมากนัก และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอคนที่คุยถูกคออย่างแม่ และแม่ก็กำลังจะกลับหัวเซี่ยแล้ว ก่อนที่แม่จะกลับ เธอเลยอยากเชิญแม่ไปทานข้าวที่บ้าน ถือเป็นการเลี้ยงอำลา”
เซียวชูหรันถามด้วยความประหลาดใจ “คุณแม่…..คุณแม่ยังสามารถหาเพื่อนที่คุยถูกคอได้ด้วยเหรอ?”
หม่าหลันเบ้ปาก “โอ้ ดูฟังเข้าสิ หนูคิดว่าแม่ไม่มีเพื่อนเลยเหรอ? เมื่อก่อนป้าจ้าว ป้าซุน และป้าหลิว พวกเธอก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่ไม่ใช่เหรอ?”
เซียวชูหรันถามด้วยความอึดอัดว่า “พวกเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณแม่เหรอ? หนูจำได้ว่าพวกคุณเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันบ่อย ๆ แล้วไปร้านเสริมสวยด้วยกัน ต่อมาก็เลิกคบกันโดยไม่รู้เป็นเพราะอะไร”
หม่าหลันรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยและรีบโบกมือ “พวกนั้นเป็นเรื่องเก่าแล้ว อย่าพูดถึงมันอีกเลย!”
ความจริงแล้ว เหตุผลที่เพื่อนเหล่านั้นเลิกคบหม่าหลัน เป็นเพราะหลังจากที่เธอขโมยบัตรธนาคารของเย่เฉินแล้วโอนเงินเข้าบัญชีตนเอง เธอรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นเศรษฐีแล้ว ก็เลยดูถูกเพื่อนสนิทพวกนั้นทันที
ตอนนั้นหม่าหลันยังด่าพวกเธอทางโทรศัพท์ แต่นึกไม่ถึงว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นทำให้ตนเองเข้าไปที่สถานกักกัน และสัมผัสชีวิตภายในกำแพงสูงเป็นเวลาหลายวัน
สามารถกล่าวได้ว่าคนอย่างหม่าหลันเป็นผู้หญิงปากร้ายอันดับต้น ๆ ของหัวเซี่ย
ประการแรกคือประจบสอพลอคนที่มีเงินและอำนาจ ใครก็ตามที่มีเงินก็ถือเป็นพ่อ ไม่ว่าเขาจะให้เงินตนเองหรือไม่ก็ตาม เธอก็จะประจบสอพลอไว้ก่อน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเธอคอยประจบสอพลอนายหญิงใหญ่เซียวและเฉียนหงเย่นต่าง ๆ นานา ช่วงสามปีแรกที่เย่เฉินแต่งงานกับเซียวชูหรัน เธอต้องการให้เซียวชูหรันหย่ากับเย่เฉิน แล้วแต่งงานกับเศรษฐีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องพวกนี้สามารถบอกถึงนิสัยของเธอได้ดีที่สุด
นอกจากนี้ หม่าหลันยังเป็นคนที่ใจแคบมาก สรุปง่าย ๆ ได้เพียงหนึ่งประโยคคือ “อิจฉาเมื่อตนเองด้อยกว่าคนอื่น และหัวเราะเยาะคนอื่นที่ด้อยกว่าตนเอง”
ดังนั้น หม่าหลันจึงไม่มีเพื่อนสนิทจริง ๆ
ถึงแม้ว่าเซียวชูหรันจะเป็นคนที่ไม่ฉลาดมาก แต่เธอก็รู้จักแม่ของตนเองเป็นอย่างดี เธอรู้สึกว่าคนอย่างแม่ไม่มีเพื่อนสนิทหรือเพื่อนหรอก
ขณะนี้ หม่าหลันรู้ว่าลูกสาวมีความสงสัย เธอจึงกล่าวแบบไม่ธรรมชาติว่า “ชูหรัน ลูกจะมองแม่เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ ลูกต้องมองแม่ด้วยสายตาที่พัฒนา เมื่อก่อนแม่เป็นคนที่คบยากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนเหล่านั้นหรือกับเย่เฉินก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก แต่ลูกไม่รู้สึกหรือว่าตอนนี้แม่อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น?”
หลังจากนั้น หม่าหลันกล่าวต่อด้วยความสะเทือนใจเล็กน้อย “ลูกพูดสิ ตอนนี้แม่ปฏิบัติต่อเย่เฉินอย่างไร? แม่จริงใจจนแทบจะควักหัวใจออกมาแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าแม่มีความสะเทือนใจเล็กน้อย เซียวชูหรันพยักหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “คุณแม่พูดถูก เป็นเพราะสายตาของหนูไม่พัฒนา……”
หลังจากนั้น เธอรีบเปลี่ยนเรื่องและถามว่า “จริงสิ คุณแม่ เพื่อนของคุณแม่ทำอาชีพอะไร?”
หม่าหลันรีบกล่าวว่า “เธออพยพมาพร้อมกับลูกชายและลูกสะใภ้ และช่วยพวกเขาเลี้ยงลูก”
หม่าหลันอธิบายต่อไปว่า “จริงสิ เพื่อนคนนี้ยังบอกแม่ว่าเป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน! บ้านเกิดของเธออยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณยายของลูก