ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4620 เหลิงจนลืมตัว2
ชายคนนั้นถอนหายใจ: “ถ้าจะไปลาสเวกัส ต้องรอให้หม่าหลันอะไรนั่นไปถึงเกาะฮ่องกางก่อน…”
จงชิวฮวาพูดอย่างเรียบนิ่ง “จะทำสำเร็จหรือเปล่า เราจะรู้ได้อย่างช้าที่สุดก็ในคืนพรุ่งนี้”
พูดจบ เธอก็หยิบมือถือออกมาโทรออก
สายโทรศัพท์ถูกกดรับอย่างรวดเร็ว และจงชิวฮวาก็เอ่ยถามเธอว่า “หม่าหลันตรวจสัมภาระแล้วหรือยัง?”
ผู้หญิงที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ ทำทีเป็นนักท่องเที่ยว กำลังนังพักอยู่ข้างเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินที่หม่าหลันต้องนขึ้นเครื่อง
มองเผินๆอาจจะเหมือนว่าเธอกำลังเล่นโทรศัพท์ แต่จริงๆแล้วเธอกำลังสังเกตการณ์ตรงเคาน์เตอร์เช็คอิน รอให้หม่าหลันปรากฏตัว
เมื่อครึ่งนาทีที่แล้ว เธอเห็นหม่าหลันลากกระเป๋าเดินทางสองใบ เธอจึงต้องคอยจดจ้องการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเอาไว้
สำหรับกลุ่มของพวกเขา มีอุปสรรคสองอย่างที่ต้องผ่าน เพื่อหลอกลวงมือใหม่ให้ช่วยขนย้ายสินค้าผิดกฎหมาย หนึ่งคือจุดตรวจที่จุดออกเดินทาง และอีกหนึ่งคือจุดตรวจที่ปลายทาง
ซึ่งเธอมาอยู่ที่นี่เพื่อเฝ้าดูเพื่อให้แน่ใจว่า หม่าหลันสามารถจัดการกับสินค้าของพวกเขาได้ด้วยตาของเธอเอง
ท้ายที่สุด พวกเขายังกังวลว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องคนขนสินค้าลอบแว้งกัด
พวกเขาเคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าพวกเขามอบกระเป๋าเดินทางให้ ก็เกิดอาการโลภ จึงออกจากสนามบินพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง เจ้าหน้าที่ติดต่อที่ปลายทางรอเครื่องบินมาถึงก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่น สุดท้ายพอกลับมาตรวจสอบ ก็พบว่าถูกแว้งกัดเสียแล้ว
ดังนั้นตั้งแต่นั้นมา จงชิวฮวาและคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนวิธีการของพวก โดยพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงตัวเองว่าเป็นเศรษฐีแนวหน้า และให้สัญญากับอีกฝ่ายว่าจะได้รับประโยชน์ต่างๆ พยายามเป่าหูไม่ให้อีกฝ่ายมีความคิดที่จะหอบสินค้าหนี
ตราบใดที่หม่าหลันมอบสัมภาระให้พนักงานเพื่อเช็คอิน หม่าหลันก็จะเอาสัมภาระไปไม่ได้ ที่เหลือก็ภาวนาให้เจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบของเถื่อนที่พวกเขาซ่อนไว้ เมื่อตอนที่ต้องตรวจสัมภาระ. .
ในเวลานี้เอง หม่าหลันก็มาถึงเคาน์เตอร์ VIP ของผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสแล้ว เธอยื่นหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ หลังจากเจ้าหน้าที่เช็กข้อมูล ก็เอ่ยถามด้วยความเคารพว่า “คุณหม่า มีกระเป๋าเดินทางต้องโหลดกี่ใบครับ”
หม่าหลันชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางใหญ่ๆสองใบ แล้วพูดว่า “สองใบ”
กระบวนการตรวจสอบสัมภาระเช็คอินที่สนามบิน ไม่ค่อยเหมือนกระบวนการตรวจสอบสัมภาระที่ต้องพกขึ้นเครื่อง
สัมภาระที่ต้องพกขึ้นเครื่องจะดำเนินการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ ในขณะที่สัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องจะถูกส่งไปยังสถานที่พิเศษ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยผ่านสายพานลำเลียง หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการเช็คอิน
ในเวลานี้ หม่าหลันไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
หลังจากที่เธอตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบแล้ว เธอก็หยิบบอร์ดดิ้งพาส และเดินไปที่จุดตรวจ
ทางผู้หญิงที่เฝ้าดูเธออยู่ใกล้ๆ เมื่อเห็นเธอเช็คอินและกระเป๋าเดินทางของเธอก็ถูกส่งไปโดยสายพานลำเลียง ก็โล่งใจและลุกขึ้นเดินออกไปจากสนามบินทันที
หม่าหลันหอบHermesของเธอ ไปที่ช่องตรวจวีไอพีอย่างสบาย ๆ เมื่อแสดงบอร์ดดิ้งพาสชั้นเฟิร์สคลาส เธอก็ได้รับการบริการที่อบอุ่นจากพนักงานทันที
ในขณะที่คนอื่นๆ ยังคงเข้าคิวรอตรงจุดตรวจ หม่าหลันก็เสร็จสิ้นการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงไปยังห้องรับรอง ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อพักผ่อน
ในเวลาเดียวกัน กระเป๋าเดินทางสองใบที่เธอเช็คอิน ก็เข้าคิวเพื่อผ่านเครื่องตรวจความปลอดภัยที่สนามบินทีละใบ
ในระหว่างขั้นตอนนี้ หากไม่พบสิ่งผิดปกติ กระเป๋าก็จะถูกส่งขึ้นไปยังห้องโดยสาร แต่ถ้าพบความผิดปกติ เจ้าหน้าที่จะเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบทันที
โดยทั่วไปแล้วของเถื่อนที่ซ่อนไว้ โดยพื้นฐานแล้วจะถูกปกปิดไว้อย่างดี นอกจากนี้ ความเสี่ยงในการออกนอกประเทศยังน้อยกว่าการเข้าประเทศมาก ดังนั้น ข้อนี้จะค่อนข้างผ่อนคลาย และโอกาสที่จะทำสำเร็จอย่างน้อยก็มีถึง50% ถ้าหากผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทางออกได้สำเร็จ