ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4675 แทรงแซงก่อนกำหนด 1
และในเวลานี้ เย่เฉินเพิ่งจะกินอาหารเย็นที่ตระกูลเฟ่ยเสร็จ
ลูกน้องของว่านพั่วจวิน ยังคงกำลังตามสืบเบาะแสของเหมยอวี้เจินและจงชิวฮวา และภายในเรือนจำ สำนักว่านหลงก็ได้มอบหมายให้นักรบหญิงสามเข้าไปเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ว่านักรบหญิงสามคนนั้นขณะนี้ไม่ได้อยู่ห้องขังเดียวกันกับหม่าหลัน
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้าสายหนึ่งจากท้องถิ่นของนครนิวยอร์ก เย่เฉินแทบจะเดาออกในทันทีว่าน่าจะเป็นหม่าหลันแม่ยายที่โทรมาจากในเรือนจำ ดังนั้นจึงกดปุ่มรับสาย เอ่ยถามอย่างเสแสร้งสับสน: “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่านั่นใครครับ?”
อีกด้านของปลายสาย เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหม่าหลันลอยมา: “ลูกเขยที่แสนดี……เป็นแม่เองลูกเขยที่แสนดี……แม่อยู่ในเรือนจำน่าเวทนายิ่งนัก…….ลูกจะต้องช่วยแม่ออกไปนะ……”
หม่าหลันร้องไห้สะอึกสะอื้นในโทรศัพท์จนไม่เป็นเสียง
เธอนำเรื่องที่ตั้งแต่ตนเองโดนโคลอี้ทุบตี จนถึงถูกโคลอี้บังคับให้บีบเท้าแปดคน แล้วก็เรื่องที่ถูกโคลอี้และเจสสิก้าร่วมมือกันรีดไถ นำเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบบอกแก่เย่เฉินฟังอย่างละเอียด เมื่อพูดเรื่องเหล่านี้จบ นางก็ยิ่งทั้งโมโหทั้งไม่ได้รับความยุติธรรม เอ่ยกล่าวทั้งกำลังร้องไห้: “ลูกเขยที่แสนดี ถ้าหากลูกไม่ซื้อบุหรี่สองคอตตอนจากผู้คุมคนนั้น พรุ่งนี้ม่าคาดว่าจะต้องถูกพวกเธอตีจนตายแน่แล้ว……”
เมื่อเย่เฉินรู้ถึงความอำมหิตของผู้คุมประเทศสหรัฐอเมริกา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะอำมหิตจนถึงขนาดนี้
เดิมทีเขาเพียงแค่หวังว่าหลังจากหม่าหลันเข้าไปแล้ว สามารถได้รับบทเรียนตามธรรมชาติสภาพความเป็นจริงเล็กน้อยจากในเรือนจำของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อได้ยินหม่าหลันบรรยายเช่นนี้ เหมือนกับว่าบทเรียนตามสภาพความเป็นจริงจะทารุณโหดร้ายเกินไปสักหน่อย
ดังนั้นเขาจึงเอ่ยกล่าวกับหม่าหลัน: “คุณแม่วางใจ ผมจะให้ลูกค้าช่วยซื้อบุหรี่ให้เดี๋ยวนี้”
หม่าหลันถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบเอ่ยกว่า: “ใช่แล้วลูกเขยที่แสนดี พวกเธอพูดว่าต่อไปจะต้องซื้อวันละสองคอตตอน……ในเวลาแบบนี้ลูกอย่าได้เสียดายเงินนะ……”
”เย่เฉินรับปากอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย กล่าวด้วยความจริงจัง: “แม่ เงินที่ควรจ่ายผมจะไม่ประหยัดเลยสักบาท ยิ่งไปกว่านั้นคือเกี่ยวโยงไปถึงความปลอดภัยของร่างกายของแม่”
หม่าหลันซาบซึ้งจนถึงขีดสุดกล่าวอย่างสะอึกสะอื้น: “ลูกเขยที่แสนดี อย่างไรเสียลูกก็ดีที่สุด……ชีวิตแก่ๆของแม่ก็คงจะต้องพึ่งพาลูกแล้ว……”
เย่เฉินกล่าวปลอบโยน: “แม่ ผมได้ไหว้วานให้คนจัดให้ฝ่ายตำรวจไปจับกุมเฉินลี่ผิงและจงชิวฮวาคนนั้นเรียบร้อยแล้ว จะต้องคืนความบริสุทธิ์ให้แม่แน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ถ้าอย่างนั้นก็ดี!” อารมณ์ของหม่าหลันตื่นเต้นและผ่อนคลายลงเล็กน้อย รีบเอ่ยกล่าว: “ลูกเขยที่แสนดี แม่ไม่คุยกับลูกต่อแล้ว อย่างไรเสียลูกรีบจัดการให้คนไปหาน้องสาวของเจสสิก้าคนนั้นเพื่อซื้อบุหรี่เถอะ!”
“ได้ครับ” เย่เฉินตอบรับหนึ่งคำ นึกอะไรบางอย่างออก ก็กล่าวกำชับอีก: “ใช่แล้วแม่ จะต้องพยายามช่วยแม่ออกมาจากในเรือนจำให้เร็วที่สุด ผมมาที่นครนิวยอร์กคนเดียวเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ชูหรันอยู่ที่พรอวิเดนซ์คนเดียว ดังนั้นทางที่ดีแม่โทรศัพท์หาชูหรัน บอกเธอว่าแม่อยู่ในเรือนจำนั้นสบายดีมาก ให้เธอไม่ต้องเป็นห่วงมากเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะทันทีที่เธอเป็นห่วง ก็จะรีบมานครนิวยอร์กแล้วสร้างปัญหา”
เมื่อหม่าหลันได้ยินว่าเย่เฉินกลับมาที่นครนิวยอร์กอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือตนเอง ภายในใจของตนเองนั้นซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
อีกทั้งภายในใจของเธอเองก็ชัดเจนเป็นอย่างมาก ตนเองพบเจอเรื่องราวแบบนี้ เซียวชูหรันลูกสาวคงจะช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าหากให้เธอรู้จริงๆว่าตนเองถูกรังแกอยู่ภายในเรือนจำ ต่อให้เธอช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ก็จะต้องมาที่นครนิวยอร์กอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นไม่แน่ว่าอาจจะสร้างปัญหาให้เย่เฉินจริงๆก็ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอจึงเอ่ยกล่าวโดยฉับพลัน: “ลูกเขยที่แสนดีลูกวางใจ แม่จะโทรศัพท์หาชูหรันเดี๋ยวนี้!”
“ได้ครับ” เย่เฉินวางใจลง แล้วกล่าว: “แม่ ผมจะไปแก้ไขปัญหาเรื่องบุหรี่ แม่โทรศัพท์หาชูหรัน รายงานว่าปลอดภัยเถอะ”
“ได้ได้ได้”
หม่าหลันตกปากรับคำ หลังจากวางสายโทรศัพท์ของเย่เฉิน ก็รีบโทรศัพท์ไปหาเซียวชูหรันลูกสาวทันที