ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4682 ไม่ใช่ว่าใจอ่อนแล้วนะ?1
บทที่ 4682 ไม่ใช่ว่าใจอ่อนแล้วนะ?1
ก็สามารถพูดได้ว่าคนแบบนี้ความจริงแล้วถึงจะเป็นที่อ่อนแอที่สุด ได้เจอคนอ่อนแอ เธอโหดเหี้ยมยิ่งกว่าใคร แต่พอได้เจอคนที่แข็งแกร่ง เธอกลับกลายเป็นคนที่ประจบสอพลอกว่าใคร
โคลอี้ในตอนนี้ ได้ยอมรับว่าทั้งหมดได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอรู้ว่าตัวเองในเรื่องราวตอนนี้ไม่มีตำแหน่งใดหลงเหลือ ดังนั้นเธอไม่ลังเล เก็บสถานะความเป็นหัวใหญ่ของเมื่อก่อน
ตอนนี้คิดเพียงว่าสิ่งที่จะรักษาเอาไว้ได้ เป้าหมายข้อแรกคือไม่ทำให้หญิงสาวทั้งสามคนนี้ไม่พอใจ อีกทั้งเป้าหมายข้อสองคือหาวิธีที่จะกลายเป็นคนที่หญิงสาวทั้งสาวคนนี้ไว้ใจ
เหมือนที่เคยเป็นมา อย่างน้อยตัวเองก็ยังสามารถกดคนอื่นที่อยู่ในห้องขังนี้ได้
แต่ว่า หญิงสาวชาวเอเชียคนนั้นหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา อ้าปากพูดว่า:“ขอโทษด้วย ฉันไม่เลี้ยงหมามาก่อน อีกทั้งต่อให้เลี้ยงเลี้ยงหมาก็ไม่เลี้ยงแก หมาขยะแบบนี้!”
โคลอี้ได้ยินคำพูดนี้ ทั้งร่างทันใดใบหน้าซีดขาว ไม่เพียงแค่หวาดหวั่น
ทั้งๆที่ตัวเองวางศักดิ์ศรีลง ขอร้องอีกฝ่ายให้ยกโทษให้แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธในทันที นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับเธอนัก
จากนั้น เธอรีบยกมือที่หักมาวางไว้ตรงหน้าอก พูดออกมาด้วยความเคารพจริงใจอย่างมาก:“ถ้าใต้เท้าสงสัยในความซื่อสัตย์ของโคลอี้ โคลอี้ยินยอมสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า ทั้งชีวิตนี้ขอฟังคำสั่งจากท่านเพียงแต่ผู้เดียว ถ้าผิดคำสาบานนี้ ยินดีรับการลงโทษจะพระผู้เป็นเจ้า!”
หญิงสาวคนนั้นยิ้มออกมาอย่างเย็นชา:“ขอโทษด้วย ฉันเป็นคนไม่นับถือเทพเจ้า ไม่เชื่อในพระเจ้า”
โคลอี้ได้ยินคำพูดนี้ รีบร้อนพูดออกมา:“ขอเพียงใต้เท้าเชื่อในความจริงใจของโคลอี้ ต่อไปนี้โคลอี้จะปฏิบัติตามคำสั่งของใต้เท้าทุกอย่าง……”
“อ๋อ”หญิงสาวเผยรอยยิ้ม พูดว่า:“นี่ไม่ใช่ว่ากลับไปยังคำถามในเมื่อสักครู่เหรอ? ฉันบอกแกไปแล้ว ฉันไม่อยากเลี้ยงหมา”
โคลอี้ตกอยู่ในภาวะสองจิตสองใจ เธอทั้งอยากประจบทั้งอยากจะตบหญิงสาวชาวเอเชีย แต่ทว่าอีกฝ่ายเหมือนกับกำแพงเหล็ก ทำให้เธอไม่สามารถหาทางออกได้
ในตอนที่โคลอี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี หม่าหลันที่อยู่ไม่ไกลคิดอะไรดีๆออก รีบเดินหน้าออกมา:“สาวน้อย!พวกคุณพึ่งจะมาถึง แน่นอนว่าคงต้องการคนที่เข้าใจสถานการณ์ มาช่วยจัดการปัญหาต่างๆ”
พูดไป เธอตบหน้าอกของตัวเอง พูดอย่างจริงจังว่า:“สาวน้อย ถ้าคุณไม่รังเกียจละก็ คุณดูซิฉันเป็นอย่างไร?”
หญิงสาวชาวเอเชียคนนั้นที่เป็นล่ามให้กับโคลอี้อยู่ตลอด เวลานี้เสนอตัวอย่างกล้าหาญ อ้าปากพูดออกมาทันที:“พวกคุณอย่าไปเชื่อเธอ เมื่อวานเธอพึ่งจะเข้ามาให้ห้องขังนี้ ฉันอยู่ในห้องขังแห่งนี้มาครึ่งปีกว่าแล้ว ฉันเข้าใจต่อสถานการณ์ในนี้ค่อนข้างดีกว่า !ถ้าทุกท่านต้องการทำความเข้าใจที่นี่ หรือว่าต้องการลูกน้อง ฉันเหมาะสมที่สุดแล้ว!”
หญิงสาวมองไปแวบหนึ่ง ยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยาม พูดอย่างเย็นชา:“ฉันไม่อยากรู้ว่าพวกคุณเป็นใคร และฉันก็ไม่อยากรู้สถานการณ์ของพวกคนแต่ละคน ยิ่งไม่อยากรู้ว่าเมื่อก่อนพวกคุณมีกฎเกณฑ์อะไร!จะสรุปให้หนึ่งประโยค ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กฎของที่นี่มีเพียงข้อเดียว ไม่ว่าพวกคุณคนใดคนหนึ่งทำให้ฉันไม่พอใจ ฉันต่างจะตีเธอให้ตาย ตีจนกว่าฉันจะพอใจ!”
หญิงสาวคนนั้นได้เห็นว่าอีกฝ่ายแข็งกร้าว ทันใดก็เหมือนกับบอลยางที่รั่ว ก้มหน้าลงไม่กล้าส่งเสียงใดออกมา
เวลานี้หม่าหลันผิดหวังนิดหน่อย เดิมอยากหาโอกาสประจบอีกฝ่าย คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจทุกคนอย่างนี้
แต่ว่าเธอก็สามารถเข้าใจได้ เพราะว่าพวกเธอแข็งแกร่งขนาดนี้ พูดว่าสั่งสอนใคร ง่ายกว่าการสั่งสอนหมาตัวหนึ่งอีก ถ้าตัวเองมีความสามารถแบบนี้ละก็ ตัวเองก็จะไม่สนใจใครเลย