ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4684 เจ๊หม่ามีกี่ดวงเนตร1
บทที่ 4684 เจ๊หม่ามีกี่ดวงเนตร1
เดิมหม่าหลันก็ไม่ใช่คนดี
อีกทั้งเธอยิ่งไม่ใช่คนมีเมตตา
เมื่อสักครู่จิตใต้สำนึกของหม่าหลันเตือนสาวชาวจีนคนนี้ ให้เธออย่าไปขัดใจโคลอี้ นั่นเป็นหม่าหลันหลายปีมานี้ เป็นจุดสว่างของความเป็นมนุษย์ที่สูงที่สุดแล้ว
ถ้าความเป็นมนุษย์ของหม่าหลันเปรียบเหมือนหลอดไฟ ความเปล่งประกายในเมื่อสักครู่ เป็นไปได้ว่าเป็นหลอดไฟอันนี้ สิบปีมานี้ถูกจุดให้สว่างครั้งหนึ่ง
แต่สิ่งที่บังเอิญแต่ไม่บังเอิญคือ หญิงสาวนักรบจากสำนักว่านหลงสามคนนี้กำลังคิดว่าจะใช้วิธีไหน อย่างไม่มีคำครหา อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งสามารถจัดการได้อย่างเงียบๆ ช่วยสนับสนุนหม่าหลัน เสริมบารมี
คิดไม่ถึงว่าความเป็นมนุษย์เปล่งประกายขึ้นมา เป็นโอกาสให้พวกเธอยืมมาแสดงปัญญา
แต่หลังจากแสดงออกมาแล้ว ภายในใจของหม่าหลันก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเกลียดชัง
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธออยากทำคือตบโคลอี้คนนั้นอย่างหนักๆ อีกทั้งเอาให้ตาย ตบเธอให้ฉี่ราดออกมา
จากนั้น หลังจากนั้นตะโกนออกมาอย่างโมโห เดินตรงเข้าไปด้านหน้าโคลอี้ ยิ่งเห็นใบหน้าของโคลอี้ที่บวมเหมือนกับหน้าหมู เธอยิ่งโมโห
จากนั้นยกเท้าขึ้นมาอย่างไม่ไตร่ตรอง ออกแรงเตะลงไปบนใบหน้าของโคลอี้ อย่างรุนแรง
แป๊บเดียวบนใบหน้าของโคลอี้ถูกเตะจนเป็นรอยเท้าอันใหญ่ ในขณะเดียวกันก็เตะจมูกโด่งของโคลอี้หัก ช่องจมูกทั้งสองเลือดไหลออกมาในทันใด
แต่หม่าหลันก็ยังไม่คลายความเกลียดลง เธอขี่ไปบนใบหน้าของโคลอี้ เหมือนกับปีนั้นที่ร้านเสริมสวย ขี่บนร่างกายของเย่ฉางหมิ่นแบบเดียวกัน กัดฟันด่าออกมา:“กล้ารังแกฉัน ด่าฉัน บังคับให้ฉันนวดเท้าให้พวกแกตั้งหลายคน ฉันจะตบแกให้ตายนังคนชั่ว!”
พูดจบ เธอเหมือนกับบ้าไปแล้ว แขนทั้งสองข้างตั้งท่าขึ้นมาตบซ้ายตบขวา
ทันใดนั้น ห้องขังทั้งห้อง เต็มไปด้วยเสียงสะท้อนจากหม่าหลันตบหน้าโคลอี้ดังมา
เนื่องจากถูกตบถี่ๆ แต่ละทีกำแพงห้องจึงเกิดเสียงสะท้อนออกมา อีกทั้งยังไม่ทันได้รู้ตัว เสียงสะท้อนนับไม่ถ้วนก็ซ้อนทับดังออกมา ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนกับจุดประทัดในห้องขังนี้
โคลอี้ไม่ได้หลงเหลือความโอหังของความเป็นหัวโจกไปนานแล้ว เธอถูกตบจนร้องโอดโอย พูดพร้อมทั้งร้องไห้ออกมา:“ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว ขอร้องคุณอย่าตบอีกเลย ปล่อยฉันไปเถอะ!”
“ปล่อยแกไป”หม่าหลันโมโหอย่างมากปล่อยหนึ่งมัดกระแทกไปบนหน้าของเธอ ด่าออกมา:“แกแม่งคิดว่าอีหม่าเป็นเพื่อนเล่นแกเหรอ? ฉันจะบอกแกนะ นี่แค่เรียกน้ำย่อย วันนี้ฉันจะทำให้แกรู้ว่า อีหม่ามีกี่ดวงเนตร!”
พูดจบ เธอดึงทึ้งเส้นผมของโคลอี้ ดึงลงมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมทั้งในปาก็ด่าออกมาไม่หยุด:“แม่งเอ๊ยอีหัวแดง ฉันมองเห็นผมอันนี้ของแกรู้สึกขัดหูขัดตาตั้งนานแล้ว แกดูซิฉันให้แกหัวล้านไปเลยยังดีเสียกว่า!”
โคลอี้รู้สึกว่าหนังศีรษะเจ็บปวดอย่างแรง ทันใดมองดูหม่าหลันที่ยื่นมือทั้งสองมาออกแรงดึงผมสีแดงนี้ทิ้งไป
ทันใดเธอตกใจจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง พูดออกมาพร้อมทั้งร้องไห้:“อย่าดึงผมของฉัน ขอร้องคุณล่ะอย่าดึงผมของฉัน……”
เวลานี้หม่าหลันดวงตาแดงฉาน เธอพร้อมทั้งดึงลอกผมของโคลอี้ออกมาจนกลายเป็นเหมือนผีที่โกนหัวออกเป็นหย่อมๆ พร้อมทั้งกัดฟันพูดออกมา:“แม่งเอ๊ยตอนนี้แกรู้จักกลัวแล้วเหรอ? ตอนที่แกรังแกฉันทำไมมองไม่ออกว่าแกอ่อนขนาดนี้ แม่งเอ๊ย ถ้าวันนี้อีหม่าไม่ตบหน้าแกให้เหมือนกับดอกท้อบาน แกจะรู้ได้อย่างไรว่าดอกท้อบานทำไมถึงได้แดงขนาดนี้!”
ในตอนที่โคลอี้ถูกนักรบหญิงของสำนักว่านหลงฟาดลงกับพื้น ยังไม่หวาดกลัวมากมายอย่างกับตอนนี้