ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4706 แผนเปลี่ยน ดูจังหวะ 2
บทที่ 4706 แผนเปลี่ยน ดูจังหวะ 2
มาถึงตรงหน้าของอีกฝ่าย หล่างหงจวินก็โบกมือยิ้มเอ่ยว่า: “สวัสดี ผมคือหล่างหงจวิน!”
เจ้าหนุ่มคนนั้นพอเห็นหล่างหงจวิน ก็หยิบมือถือออกจากกระเป๋าอย่างระมัดระวัง เปิดรูปถ่ายเทียบตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สักพัก หลังจากแน่ใจว่าเป็นหล่างหงจวิน ก็รู้สึกตัวว่าข้าง ๆ เขายังมีคนหนุ่มเชื้อสายจีนตามมาด้วยคนหนึ่ง จึงชี้ไปทางเย่เฉินเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัยว่า: “คน ๆ นี้เป็นใครกัน?มากับคุณเหรอ?”
หล่างหงจวินหัวเราะแล้วกล่าวว่า: “น้องชายคนนี้ชื่อว่าเย่เฉิน เป็นคนชาติเดียวกันที่รู้จักกันบนเครื่องบิน เราสองคนนั่งติดกัน เขาเป็นหนี้เงินจำนวนหนึ่งในประเทศเลยหนีมา มามอสโคว์ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร เห็นว่าผมมาเป็นกะลาสีเรือเขาก็เลยอยากลองดู แต่ไม่รู้ว่าที่นี่ยังรับสมัครคนอีกหรือเปล่า”
เย่เฉินที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบพูดขึ้นมาว่า: “ผมทนความลำบากได้ งานที่หนักหนาสาหัสแค่ไหนผมก็ทำได้หมด”
ชายหนุ่มคนนั้นอดขมวดคิ้วไม่ได้เอ่ยปากว่า: “รอผมเดี๋ยว ผมขอโทรหาหัวหน้าก่อน”
พูดจบเขาก็ถือมือถือเดินไปไกล ๆ พอแน่ใจว่ารอบด้านไม่มีคนจึงกดโทรศัพท์มือถือโทรออก
พอต่อสายติด ก็มีเสียงผู้ชายเล็ดจากคู่สายถามว่า: “รับคนมาแล้วยัง?”
“รับมาแล้ว” ชายหนุ่มตอบด้วยความนอบน้อม: “คนแซ่หลางเพิ่งลงจากเครื่อง”
อีกฝ่ายถามต่อว่า: “ตรวจสอบข้อมูลตัวตนแล้วยัง?ตรงกับข้อมูลที่เหมยอวี้เจินให้ไว้มั๊ย”
เจ้าหนุ่มรีบตอบทันควันว่า: “ผมตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าใช่คนนี้แน่”
“อืม” คู่สายพูดด้วยความขี้เกียจ: “ในเมื่อรับคนเรียบร้อยแล้วก็รีบพาตัวมา ระหว่างทางระวังด้วย อย่าให้เห็นพิรุธอะไร”
เจ้าหนุ่มทำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยปากว่า: “อาหม่า ที่นี่มีเรื่องที่ผมต้องบอกอาหน่อย เจ้าหล่างหงจวินรู้จักเจ้าหนุ่มเชื้อสายจีนคนหนึ่งที่มามอสโคว์บนเครื่อง ได้ที่นั่งติดกัน คงคุยกันถูกคอ เจ้าหนุ่มนั่นก็ยังไม่มีงานอะไรทำ เลยอยากมาเป็นกะลาสีเรือกับหล่างหงจวิน ถามผมว่ายังรับสมัครอยู่หรือเปล่า อาว่าเรื่องนี้จะจัดการยังไงดี?”
คู่สายนิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วเอ่ยด้วยเสียงเข้มงวดว่า: “เจ้าหนุ่มนั่นรู้จักหล่างหงจวินแล้วก็เห็นหน้านายแล้วสินะ ต่อไปเกิดหายตัวไป ตำรวจอเมริกาสืบหาเขาจากเบาะแสที่นั่งบนเครื่อง เขาต้องให้การถึงนายแน่ แค่เขาจำหน้าตานายได้ ตำรวจก็จะวาดภาพนายออกมา ถ้าเป็นอย่างนั้นนายยุ่งยากแน่”
“บัดซบ……”
เจ้าหนุ่มสบถคำด่าเบา ๆ พร้อมกัดฟันเอ่ยว่า: “ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นอย่างนี้สู้เอาเจ้าหนุ่มนี่ไปด้วยดีกว่า แล้วดูว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง ผมเห็นเขาเป็นคนหนุ่มแข็งแรง น่าจะขายได้ราคาดี เท่ากับยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว?”
ชายหนุ่มปลายสายถามด้วยความสุขุม: “นายว่าเจ้าหนุ่มนั่นมีปัญหามั๊ย?เป็นเสาะนอกเครื่องแบบหรือเปล่า?”
“เรื่องนี้……” ชายหนุ่มพูดด้วยความลังเล: “ไม่น่ามั๊ง……ว่าตามหลักเสาะไม่น่าจะตามเบาะแสเราได้ ยิ่งเจ้าหนุ่มนี้มาจากเมืองจีนไม่ใช่คนอเมริกัน”
คู่สายกลับเอ่ยว่า: “อย่าเชื่อคำพูดที่ออกจากปากคนอื่น เสาะไม่มีทางบอกนายหรอกว่าเขาเป็นเสาะ ที่อเมริกามีตำรวจเชื้อสายจีนตั้งเยอะ ส่งคนหนุ่มคนไหนก็ได้มาสักคนสวมรอยว่ามาจากเมืองจีน ถ้านายไม่ตรวจสอบให้ละเอียดก็ยากที่จะดูออก”
“แล้วจะทำยังไง?” ชายหนุ่มเอ่ยปาก: “อย่างที่คุณบอก เขาเห็นผมแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นเสาะหรือว่าไม่เป็น ผมก็ปล่อยเขาไปไม่ได้……”