ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4718 มาตรวจสอบ 1
เมื่อได้ยินคำถามจากฝ่ายตรงข้ามแบบนั้น เย่เฉินเพียงแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมกับพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมยว่า “ฉันไม่เพียงแต่รู้จักเหมยอวี้เจิน ฉันเคยไปกินข้าวกับเธอด้วย ตอนที่เธออยู่ที่พรอวิเดนซ์ เธอมีนามแฝงว่าเฉินลี่ผิง ข้างกันยังมีคนที่ชื่อว่าสวีเจี้ยนสี่ด้วย ที่ทำการแสดงคู่กับเธอใช่ไหม ฉันพูดถูกหรือเปล่า ?”
เมื่อได้ยินเย่เฉินพูดออกมาแบบนั้นแล้ว ไม่เพียงแต่สีหน้าของอาหม่าที่ตกตะลึงไป แม้แต่หล่างหงจวินเองยังอ้าปากค้างไปด้วย
เขาไม่รู้ว่าเหมยวี่เจินเขาคือใครแต่เขารู้จักกับเฉินลี่ผิง!
เป็นเฉินลี่ผิงเองที่ไปบอกกับแม่เขาว่า ประเทศเม็กซิโกกำลังเปิดรับสมัครลูกเรือ อีกทั้งยังมีสวัสดิการดี ๆ รองรับ
แม่ของเขายังคงรู้สึกขอบคุณเธอด้วยความซาบซึ้งใจ เธอคิดว่าเฉินลี่ผิงคนนี้เป็นคนที่ช่วยเหลือครอบครัวของพวกเราเอาไว้
แต่ใครจะไปรู้ว่า ผู้หญิงของคนนี้กลับมีจิตใจโหดเหี้ยมกล้าควักหัวใจของเขาออกมาขายหาเงินแบบนี้ได้!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะกันไปถามกับเย่เฉินว่า “น้องชาย นาย นายรู้จักกับเฉินลี่ผิงได้ยังไงกัน?! หรือว่านายก็ถูกเฉินลี่ผิงหลอกพามาเหมือนกันเหรอ?!”
เย่เฉินพลันหัวเราะออกมาว่า “พี่ชาย ด้วยความสามารถของเฉินลี่ผิงแล้ว เธอไม่สามารถหลอกผมได้หลอก”
อาหม่าพลันมองไปที่เย่เฉินด้วยท่าทีไม่ค่อยวางใจ ภายในใจพลันรู้สึกตื่นตระหนกไปไม่น้อย
เขากลับรู้สึกว่า ถ้าเย่เฉินรู้จักตัวตนของเหมยอวี้เจินแล้ว และยังกล้าที่เดินเข้ามาจับเสือด้วยมือเปล่าอีก นั่นหมายความว่าต้องมีคนคอยอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน
หรือจะเป็นเพราะว่า อาหม่าอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “น้องชาย ถ้านายกล้าขนาดนี้ แสดงว่านายไม่ใช่คนธรรมดาใช่ไหม นายอย่ามามัวแต่พิรี้พิไรหลอกล่ออีกเลย พูดออกมาตามตรงเร็ว ถ้าพวกเราเป็นพวกเดียวกัน ฉันไม่มีทางคิดจะทำอะไรกับแกแน่!”
เย่เฉินพลันเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเยาะเย้ยว่า “มีแต่พวกแกเท่านั้นแหละที่คิดหลอกล่ออยู่ พูดตามตรงนะ ฉันละคิดไม่ออกเลยว่าจะมีคนจำพวกนี้ ที่หลอกล่อผู้คนที่บ้านยากจน เพื่อมาชำแหละอวัยวะขายแบบนี้ได้อีก วิธีการของพวกแกแบบนี้ ยังน่ารังเกียจยิ่งกว่าพวกแก๊งขอทานที่ทำร้ายเด็กเสียอีก เย่เฉินที่มีชิวิตอยู่บนคลื่นลมมาโดยตลอด จะมามีเส้นทางชีวิตเหมือนพวกแกได้ยังไงกัน ?”
ภายในใจของอาหม่ายิ่งรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นไปอีก
ตั้งแต่ที่เย่เฉินพูดชื่อเหมยอวี้เจินออกมานั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขาเอาแต่ขนลุกออกมาไม่หยุด เมื่อมองดูท่าทีของเย่เฉินแล้วนั้น เขากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและท่าทีดูถูกเยาะเย้ยออกมา ถ้าหากเขาไม่ได้มีความมั่นใจพวกนี้มากตั้งแต่แรกละก็ เขาย่อมไม่มีทางแสดงออกมาแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้แบบนั้น หม่าขุยพลันมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาเต็มไปหมด
เดิมที่เขามีนิสัยที่โหดร้าย ขอเพียงแค่ลั่นไกในคราเดียวก็สามารถปลิดชีพเย่เฉินได้ในทันที แต่ในยามนี้เขาไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ถึงทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะลั่นไกปืนออกไป
อาหม่าซ่อนอาการประหม่าเอาไว้ พลันถามเย่เฉินว่า “น้องชาย นายคิดจะทำอะไรกันแน่? ในเมื่อนายรู้จักธุรกิจของเราแล้ว นายก็น่าจะรู้ว่า พวกเราเป็นกลุ่มฆาตกรที่ฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตา แม้ว่านายของน้องชายจะใหญ่ก็จริง แต่บนพื้นที่หนึ่งในสามของในเม็กซิโกนี้ ฉันไม่คิดกลัวนายเลยแม้แต่น้อย”
เย่เฉินยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันเห็นว่า ที่นี่ส่วนใหญ่มีแต่ชาวเม็กซิกัน ดูท่าแล้ว นายที่มาจากประเทศจีนก็คงจะเป็นเรื่องยากเหมือนกันที่จะมาสร้างเส้นทางการค้าที่นี่ได้ เจ้านายของพวกแกไม่อยู่ที่นี่เหรอ?”
หม่าขุยพลันพยักหน้าลงและพูดออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้านายของเรามีสายธุรกิจหลายประเภท นี่เป็นเพียงหนึ่งในธุรกิจนั้นเท่านั้นแหละ ฉันเป็นเพียงแค่คนดูแลที่นี่ นายเคยติดต่อกับเหมยอวี้เจินมาแล้ว นั่นก็คือเส้นทางติดต่อของพวกเราที่อยู่ในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือแคนาดาพวกเราล้วนแต่มีเส้นสายหมด ที่เชี่ยวชาญในการจัดส่งเสบียงให้ฉัน”
เย่เฉินพยักหน้าลงมา