ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4719 มาตรวจสอบ 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4719 มาตรวจสอบ 2
หม่าขุยขมวดคิ้วลงเล็กน้อย พลันพูดออกมาด้วยความระมัดระวังว่า “น้องชาย ถ้านายไม่ยอมเปิดเผยตัวตนออกมาละก็ พวกเราไม่สามารถแจ้งหาเจ้านายของพวกเราได้หรอก เจ้านายของเราเป็นหนึ่งในหัวหน้ากลุ่มอาชญากรในเม็กซิโก อย่างน้อยก็ติดหนึ่งในสิบของประเทศ นายอยากให้เขามาหา นายก็ต้องเปิดเผยตัวตนของตัวเองก่อน พวกเรา ถึงจะสามารถเชิญเขามาได้”
เย่เฉินยิ้มอย่างเหยียดหยามออกมา พร้อมกับดึงตัวล็อกของเชือกไนลอนออกมาอย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้น เขาพลันหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของเขาอย่างใจเย็น มันก็คือแบล็กการ์ดที่มีจำนวนจำกัดในโลกและในประเทศจีนมีผู้ถือครองใบนี้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ในตอนนี้เอง ทุกคนก็ตระหนักได้แล้วว่า เย่เฉินสามารถหลุดออกจากเชือกไนลอนแล้วจริง ๆ ในตอนที่ทุกคนกำลังมีสีหน้าที่ตกตะลึงนั้น ก็ไม่ทันที่พวกเขาจะได้คิดบัญชีอะไรกับเย่เฉิน เย่เฉินก็แกว่งแบล็กการ์ดในมือไปมา
จากนั้น เขาก็โยนแบล็กการ์ดไปให้หม่าขุยโดยตรง พลางพูดเยาะเย้ยว่าออกมาว่า “มาเถอะ ลืมตาสุนัขของพวกแกเอาไว้ และมองฉันดีๆ พวกแกรู้จักสิ่งนี้หรือเปล่าล่ะ”
หม่าขุยเอื้อมมือออกไปด้วยความตื่นตระหนก เมื่อจับแบล็กการ์ดได้แล้วนั้นพวกเขาพลันสบตาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดไปในทันทีด้วยความตกใจ!
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นแบล็กการ์ดของซิตี้แบงก์มาก่อน แต่เขาก็เคยได้ยินผ่าหูมาบ้างเหมือนกัน
หม่าขุยอดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่า “บัดซบเอ๊ย แบล็กการ์ดแบบนี้ ทั่วโลกมีไม่กี่คนเท่านั้นแหละที่จะมีได้ คนที่จะสามารถทำบัตรพวกนี้ได้จักต้องมีทรัพย์สินเกินพันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น!”
“พันล้านดอลลาร์สหรัฐมาอยู่ในเขตทุรกันดารเช่นเม็กซิโกทำไมกัน?”
“มันมากเกินไปเปล่า!”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้มหัวลง เพื่อพิจารณาบัตรสีดำขอบทองในมือของตัวเองในทันที
สีของแบล็กการ์ดของใบนี้ มีความวิจิตรงดงามมาก ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวหรือสัมผัส เขาไม่เคยเห็นมันบนการ์ดใบไหนมาก่อนในชีวิต
บนพื้นผิวของการ์ดสีดำขอบทองนั้นงดงามราวกับงานศิลปะ เพียงแค่ได้เห็นก็รู้สึกสบายใจยิ่งนัก
ที่มุมล่างซ้ายของการ์ดสีดำขอบทองใบนี้ ยังมีตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เขียนออกมาด้วยตราประทับเหล็กเฉพาะทาง ซึ่งเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ เขียนเอาไว้ขนาดใหญ่ชื่อว่าเย่เฉิน
ในเวลานี้ หม่าขุยได้แต่อุทานในใจ: “ของจริง!”
วินาทีต่อมา มือของหม่าขุยพลันเกิดอาการสั่นสะท้านโดยไม่ได้ตั้งใจในทันที
หม่าขุยที่เป็นยังเป็นถึงผู้คุมดูแลในที่แห่งนี้ อย่าได้มองที่อายุของเขา แม้แต่ฝีมือของเขาเองยังดีกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ผู้ชายคนนี้สามารถถือปืนเอเคสี่สิบเจ็ด ด้วยมือเดียวได้ แต่ตอนนี้เขากลับไม่สามารถมีความกล้าที่จะถือบัตรธนาคารที่มีน้ำหนักเพียงไม่กี่กรัมได้
ในเวลานี้ หม่าขุยพลันมองไปที่เย่เฉิน ดวงตาของเขาพลันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมากมายในทันที
หม่าขุยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นสะท้านออกมา “น้องชาย…ไม่ใช่…คุณเย่…ผมไม่รู้…ผมไม่รู้…ว่า จู่ๆ ก็มาที่นี่… ..คุณมาที่นี่ทำไมกันครับ…”
หม่าขุยไม่ใช่คนโง่
เมื่อเขาเห็นการ์ดใบนี้ เขาย่อมรับรู้ได้ว่าเย่เฉินมีพลังอำนาจมหาศาลขนาดไหน และแม้แต่ทรัพย์สินของเขาก็ควรมีจะมูลค่ามากกว่าหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐเช่นกัน
ในตอนนี้ เขากลับรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถใด ๆ ขึ้นมาในทันที
เพราะเขารู้ดีว่า คนที่มีอำนาจเช่นเย่เฉินนั้น ถ้าเขากล้าที่จะใช้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมาลองเชิงเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่า ในสายตาของเขา ตรงหน้าไม่ได้มีอันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ไม่มีอะไรที่จะมาข่มขู่เขาได้
เหตุผลที่เย่เฉินกล้าจะใช้ชื่อจริงของเขาติดต่อคนกลุ่มนี้ก็เพราะว่า อีกด้านหนึ่งเขาไม่ได้กลัวการตอบโต้จากคนเหล่านี้ เพราะในความคิดของเขาแล้ว การช่วยเหลือคนหนึ่ง ย่อมมีอีกคนหนึ่งที่ต้องตายไป!
ในทางกลับกัน เขาก็รู้ว่าเหมยอวี้เจินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคนพวกนี้