ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4731 ทำให้ความเลื่อมใสอย่างสุดใจของคุณตายลง 1
เวลานี้ฆัวเรซตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อหมดแล้ว!
ชื่อเสียงของสำนักว่านหลง เขาได้ยินมานานแล้ว
ถึงแม้จะดึงองค์กรอาชญากรเม็กซิโกที่มีอำนาจมากที่สุดออกมา ก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของสำนักว่านหลงได้ เพราะว่าสมาชิกทั้งหมดของสำนักว่านหลงต่างทหารชั้นยอดที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และในนั้นยังมีปรมาจารย์ชั้นสูงบางส่วนด้วย
และหลายครั้ง พวกพี่ใหญ่องค์กรอาชญากรชั้นนำของเม็กซิโก ต่างเอาสำนักว่านหลงเป็นแบบอย่าง
พวกเขาต่างคาดหวังว่า ตัวเองจะมีทีมทหารรับจ้างที่ทรงพลังอย่างสำนักว่านหลง
แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าความแข็งแกร่งของตัวเองกับสำนักว่านหลงยังห่างกันมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะตามทันเลย
ดังนั้น หัวหน้ากรุ๊ปจำนวนมาก ถึงกับให้ราคาที่สูง และใช้ท่าทีที่ถ่อมตัวเป็นอย่างมาก เพื่อหวังว่าจะสามารถเชิญปรมาจารย์ของสำนักว่านหลงมาฝึกทหารของตนได้
แต่ว่า สำนักว่านหลงไม่เคยคบค้าสมาคมกับกรุ๊ปพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ฟังคำขอของพวกเขาอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นเม็กซิโกเจ้าพ่อค้ายาที่ใหญ่ที่สุดมาเอง ก็ยังอัญเชิญสำนักว่านหลงไม่ได้
และยิ่งเป็นแบบนี้ ชื่อเสียงของสำนักว่านหลงในเม็กซิโกก็ยิ่งมากขึ้น
ในใจของฆัวเรซ สำนักว่านหลงนั้นมีอยู่เหมือนพระเจ้า
แต่ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่า วัยรุ่นตรงหน้าที่ชื่อเย่เฉินนี้ จะเป็นเจ้าของสำนักว่านหลง!
ไม่นาล่ะพวกเขาถึงมีบัตรAmerican Express แค่มูลค่าของสำนักว่านหลงอย่างเดียว เกรงว่าจะไปถึงหลายหมื่นล้านหรือหลายแสนล้านดอลล่าร์แล้ว!
และที่เขายิ่งคิดไม่ถึงเลยก็คือ วันนี้ลูกน้องของตัวเอง จะโดนสำนักว่านหลงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกำจัดจนหมดสิ้นได้
เขาที่ตกใจกลัวสุดๆ ถามเย่เฉินอย่างไม่รู้ตัวว่า:“เคซี่ฆัวเรซของพวกเรา เคารพสำนักว่านหลงมาเสมอ แต่ว่าผมไม่เข้าใจ ผมไม่มีความบาดหมางอะไรกับสำนักว่านหลง ทำไมสำนักว่านหลงต้องฆ่าพรรคพวกผมไปถึงสองร้อยกว่าคนด้วย?”
เย่เฉินหัวเราะอย่างเยือกเย็น พูดว่า:“เมื่อกี๊ผมบอกแล้วไง พวกคุณก็ไม่เป็นข้อยกเว้น ล้วนแต่เป็นโทษมหันต์และบาปที่อภัยให้ไม่ได้ ฆ่าพวกคุณคือการผดุงธรรมเพื่อสวรรค์ ขจัดอันตรายเพื่อประชาชน”
ในใจของฆัวเรซไม่พอใจนัก จึงถามไปว่า:“ในเม็กซิโก กลุ่มโทษมหันต์และบาปที่อภัยให้ไม่ได้ไม่ใช่แค่พวกเรา ทำไมคุณไม่ไปพุ่งเป้ากับกลุ่มที่มีอำนาจแข็งแกร่งที่สุด แต่มาพุ่งเป้ากับพวกเราเคซี่ฆัวเรซล่ะ?หรือว่าผดุงธรรมเพื่อสวรรค์ ขจัดอันตรายเพื่อประชาชนของพวกคุณ ก็ต้องเลือกลูกน้องที่อ่อนแอ?”
เย่เฉินหัวเราะในลำคอ มองเขาแล้วถาม:“ยังจะอ้างหลักศีลธรรมมาบังคับผู้อื่นกับผมอีกเหรอ?ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็จะทำให้ความเลื่อมใสอย่างสุดใจของคุณตายลง ผมถามคุณหน่อย เหมยอวี้เจินคือคนของพวกคุณหรือเปล่า?”
“เหมยอวี้เจิน?!”ทันใดนั้นฆัวเรซก็คิดขึ้นได้ ตอนที่หม่าขุยกำลังคุยโทรศัพท์รายงานกับตัวเอง ก็เคยเปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เมื่อก่อนเย่เฉินเคยตรวจสอบเหมยอวี้เจิน
ตอนนี้พอได้ยินเย่เฉินพูดถึงชื่อของเหมยอวี้เจินอีกครั้ง ฆัวเรซจึงรีบพูดว่า:“เหมยอวี้เจินเป็นเพียงสมาชิกประสานนอกคนหนึ่งของเราในสหรัฐอเมริกา!”
เย่เฉินถามเขา:“สมาชิกประสานนอกไม่ใช่สมาชิกหรือไง?ผมถามคุณอีกครั้ง ของเถื่อนเหล่านั้นที่เหมยอวี้เจินหลอกเพื่อนร่วมชาติในสหรัฐอเมริกาให้ช่วยเธอขนส่ง ใช่ของคุณหรือเปล่า?”
ฆัวเรซเถียงข้างๆ คูๆ โดยไม่รู้ตัว:“ไม่……ไม่ใช่ของผม……”
“ไม่พูดความจริง?”เย่เฉินส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ พูดกับว่านพั่วจวิน:“พั่วจวิน ตัดขาสองข้างของเขา!”
ไม่รอให้ฆัวเรซได้สติคืนมา ว่านพั่วจวินไม่พูดอะไรทั้งนั้น ยกปืนขึ้นมาแล้วยิงสองนัดติดด้วยความเร็วสูง
ฆัวเรซรู้สึกเจ็บตรงที่หัวเข่า ก้มหน้าลงมองเข่าทั้งสองข้าง เข่าทั้งสองข้างถูกกระสุนยิงจนแตกหมด
ความเจ็บปวดทำให้เขาแทบจะหมดสติในทันที ในจุดนั้น แต่ก็ทำให้เขาฟื้นคืนสติทันทีจากการหมดสติ