ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4736 ในที่สุดก็ได้เจอคุณแล้ว 2
เย่เฉินหัวเราะอย่างเยือกเย็น พูดอย่างดูถูกไปว่า:“ถ้าโลกนี้มีผีจริงๆ งั้นคุณก็ถือว่ากลายเป็นผี ผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ หากไม่เอาคุณตกกระทะทองแดงลงนรกชั้นที่สิบแปด ก็ถือว่าผมเย่เฉินไร้ฝีมือ!”
หม่าขุยมองที่สายตาเหยียดหยามของเย่เฉิน ในใจก็หวาดกลัวอย่างมาก
เวลานี้เขาตระหนักได้ว่า ตัวเองที่อยู่ในมือของเย่เฉิน เหมือนกับแมลงตัวหนึ่งที่ถูกเขาจับไว้ในฝ่ามือ
อีกฝ่ายอยากจะทำให้ตัวเองตายอย่างไร ก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ตอนนี้ เย่เฉินมองหม่าขุยที่ดูแตกสลาย ก็พูดอย่างเยือกเย็นว่า:“จัดการกับคนเลวทรามที่ชั่วร้ายอย่างพวกคุณแล้ว ถ้าไม่เล่นงานครอบครัวพวกคุณ ทำให้ครอบครัวพวกคุณล้มละลายและตายจาก พวกคุณก็จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด!”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินมองไปที่หม่าขุย ถามเขาว่า:“หลายปีก่อนมีนักโทษที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าอย่างไรตำรวจท้องถิ่นก็จัดการได้ไม่หมดเสียที แม้ว่าจะยิงเป้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ยังมีคนเข้ามาพัวพันอยู่ตลอด คุณรู้ไหมภายหลังตำรวจท้องถิ่นหยุดพวกเขาได้อย่างไร?”
หม่าขุยส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ
เย่เฉินหัวเราะ:“พวกเขาพบว่า ถึงแม้นักโทษที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดพวกนี้จะทำบาปหนา แต่สำหรับที่บ้านแล้ว กลับมีข้อยกเว้น พวกเขามีความรับผิดชอบอย่างมากในการเป็นหัวหน้าครอบครัว พวกเขายอมเสี่ยงทำเรื่องอันตราย และก็ต้องเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจนเพื่อหาเงินก้อนโตมาให้ครอบครัวสร้างบ้าน ซื้อรถ ให้พวกเขามีกินมีใช้ไม่ขาด แค่สามารถทำให้ครอบครัวมั่งคั่งได้ ถึงพวกเขาจะอยู่บนลานประหารก็ยังยิ้มได้”
“ต่อมา ตำรวจท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เรียนรู้วิธีหนึ่ง ก่อนที่พวกนักโทษยาเสพติดจะโดนยิงเป้า จะให้นักโทษเหล่านี้เห็นภรรยาและลูกๆ ของตัวเองถูกคนไล่ออกมาจากบ้านด้วยตาตัวเอง แล้วค่อยให้พวกเขาเห็นอาคารของบ้านตัวเองถูกรถขุดกวาดเรียบกับตา เห็นรถของตัวเองถูกคีมตัดไฮดรอลิคฉีกเป็นชิ้นๆ กับตา ทำให้พวกเขาได้เห็นความพยายามทั้งหมดที่ตัวเองทุ่มเท ได้ถูกทำลายลงทั้งหมด แล้วค่อยพาพวกเขาที่สิ้นหวังไปยิงเป้าที่ลานประหาร”
“ตั้งแต่นั้นมา นักโทษที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็เริ่มลดลงจริงๆ!”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินก็มองหม่าขุย หัวเราะอย่างเยือกเย็นว่า:“จัดการกับคนสันดานเสียอย่างพวกแก ก็ต้องใช้วิธีแบบนี้เช่นกัน!ในเมื่อเงินทองและครอบครัว เป็นความศรัทธาของพวกแก เป็นสิ่งที่สลักอยู่ในใจพวกแก งั้นถ้าฉันฆ่าแกแค่คนเดียว แกก็จะรู้สึกในใจว่าแกคือนักรบที่ใจกว้างยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อความศรัทธา ดังนั้น ฉันจะต้องโจมตีความศรัทธาของแกให้แตกสลาย!พ่ายแพ้ยับเยินไม่มีโอกาสพลิกฟื้น!”
หม่าขุยเหมือนโดนฟ้าผ่า นั่งตะลึงอยู่บนพื้น น้ำตาน้ำมูกไหลไป มือและขาก็มีเลือดไหลไม่หยุดไปด้วย เขาหมดหวังไปโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้เอง มีทหารของสำนักว่านหลงคนหนึ่งสิ่งเข้ามา พูดกับว่านพั่วจวินว่า:“ประมุข หน้าทางเข้าฝั่งตะวันออกของหมู่บ้านมีรถคันหนึ่งขับเข้ามา จากการยืนยันของทหารยามพวกเราแล้ว คนที่นั่งข้างที่นั่งคนขับคือเหมยอวี้เจิน!”
“เหมยอวี้เจิน?!”แววตาว่านพั่วจวินเป็นประกาย รีบมองไปยังเย่เฉินที่อยู่ด้านข้างแล้วถามอย่างเคารพนับถือว่า:“คุณเย่ เป็นอย่างที่คุณคิดจริงๆ ด้วย เหมยอวี้เจินนั่นมาที่เม็กซิโกจริงๆ!”
เย่เฉินหัวเราะ:“เธอในตอนนี้ นอกจากเม็กซิโกแล้ว หาที่ปักหลักไม่ได้อีกแล้ว!เหมยอวี้เจินนะเหมยอวี้เจิน ในที่สุดผมก็ได้เจอคุณแล้ว!”
พูดไป เขาก็ถามทหารสำนักว่านหลงคนนั้นว่า:“ด้านนอกทำความสะอาดเป็นไงบ้าง?”
คนนั้นรีบตอบว่า:“ตอบคุณเย่ ก่อนที่ประมุขเข้ามา พวกเราก็ทำความสะอาดสนามรบแล้ว ศพพวกนั้น ตอนนี้ย้ายเข้าไปในห้องว่างชั้นบนแล้ว ทหารของเรากำลังขุดดินทั้งด้านในและด้านนอกสนาม เพื่อซ่อนเลือด คืนนี้ลมแรง กลิ่นเลือดก็จะจางไปอย่างรวดเร็ว”
“โอเค”เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดว่า:“รอรถของพวกเขาเข้าประตูมาแล้ว ก็จับเขามาพบผมเลย!”
ทหารพูดด้วยความเคารพทันทีว่า:“คุณเย่ ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้!”
……