ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4753 อธิษฐานให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น 3
ฆัวเรซโพล่งออกมา” “แฟนกู! ถ้ากูยังไม่กลับไป หล่อนจะมาหากูแน่นอน! แค่เราสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อรอหล่อนมา เราก็จะได้รับการช่วยเหลือ!”
เหมยอวี้เจินพูดอย่างประชดประชัน “กูไม่รู้จริงๆ ว่าด้วยไอคิวของมึง มึงเป็นพี่ใหญ่มาหลายปีได้อย่างไร”
ขณะพูด นางชี้ไปที่ด้านบนแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “มึงอย่าลืมว่าข้างนอกมีคนที่เก่งกาจของสำนักว่านหลงมังกรมากกว่าหนึ่งร้อยคน ตราบใดที่เราไม่ตาย พวกเขาจะไม่จากไปแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น แฟนของมึงมาที่นี่ก็แค่ตายเท่านั้น!”
ฆัวเรซตกอยู่ในความสิ้นหวังในทันใด
ทันใดนั้น เขาก็กลับมารู้สึกตัวและพูดว่า “ไม่ว่ายังไง ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีความหวังที่จะได้รับการช่วยเหลือ! ตราบใดที่เราไม่จุดไฟ เราสามารถซื้อเวลาได้นิดหน่อย! แม้จะเหลืออีกแค่วันเดียว เราก็มีโอกาสรอด ปาฏิหาริย์จะปรากฏก็ต่อเมื่อสถานการณ์อยู่สิ้นหวังไม่ใช่หรือ? บางทีเย่เฉินคนนั้น อาจเปลี่ยนการตัดสินใจของเขา หรือบางทีตำรวจเม็กซิโกอาจพบที่แห่งนี้และช่วยเราออกไปจากที่นี่ หรือบางทีไอ้คนที่สกุลเย่อาจมีศัตรูอื่น ๆ หากศัตรูของเขามาฆ่าพวกเขาในเวลานี้ งั้นเราจะได้รับความช่วยเหลือไม่ใช่เหรอ?”
ขณะที่เขาพูด เขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เกลี้ยกล่อมทุกคนว่า “แม้มีโอกาสเพียงหนึ่งในหมื่น ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีความหวัง เหมือนกับการซื้อลอตเตอรี่ซุปเปอร์ล้าน แม้จะมีโอกาสเพียงหนึ่งในล้าน ก็ต้องมีคนถูกลอตเตอรี่แน่นอน เพียงแต่ว่าใครเป็นคนถูกลอตเตอรี่เท่านั้น แค่มึงซื้อลอตเตอรี่ มึงอาจกลายเป็นคนที่ถูกลอตเตอรี่ แต่ก่อนหน้านี้คือมึงต้องซื้อ!”
เหมยอวี้เจินและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะถูกเขาเกลี้ยกล่อม
ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ปาฏิหาริย์ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ คำพูดนี้ไม่ผิด แม้โอกาสจะน้อยนิดก็ยังดีกว่าตาย
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เหมยอวี้เจินก็กัดฟันและโพล่งออกมา “ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็รออย่างอดทน บางทีอาจยังไม่ถึงเวลาตายของเรา ปาฏิหาริย์ก็จะเกิดขึ้น!”
หยิงเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างก็พูดอย่างแน่วแน่ว่า “รอ! กูยินดีที่จะรอ! กูยังมีชีวิตไม่พอ ตราบใดที่มีโอกาสรอด กูยินดีที่จะรอ!”
เหมยอวี้เจินพยักหน้า มองไปที่หม่าขุยและถามเขาว่า “เหล่าหม่า มึงคิดว่าไง?”
หม่าขุยครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “งั้นก็รอ! รอจนถึงวินาทีสุดท้าย!”
เหมยอวี้เจินมองไปที่สวีเจี้ยนสี่อีกครั้ง “เหล่าสวี มึงว่าไง?”
“รอ!” สวีเจี้ยนสี่กัดฟันและพูดอย่างเย็นชา “ตราบใดที่พระเจ้าสามารถให้โอกาสกู สวีเจี้ยนสี่ มีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากที่กูออกไป กูจะเปลี่ยนวิถีทางชั่วร้ายและกลายเป็นคนใหม่อย่างแน่นอน!”
เหมยอวี้เจินเห็นด้วย “พวกเราส่วนใหญ่ต่อสู้เพื่อครอบครัว บางทีพระเจ้าอาจจะคิดว่าเรามีเหตุผลที่จะอภัยให้เราได้ และปล่อยให้เรามีชีวิตอยู่ต่อ”
พูดจบเธอก็พูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที “เอาล่ะ! ในเมื่อทุกคนตกลงกันแล้ว เราก็จะรอปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้น! เรื่องเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือทุกคนต้องระมัดระวังอย่าทำให้เกิดประกายไฟจุดติดน้ำมันเพราะการเสียดสีระหว่างเสื้อผ้ากับสิ่งของ!”
“อื้อ!” ทุกคนพยักหน้า
ในเวลานี้ ซุนฮุ่ยน่าซึ่งไม่ได้พูดก็อดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้และกล่าวว่า “ทำไมไม่มีใครเคยถามกูเลย?”
เหมยอวี้เจินกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มึงมีสิทธิ์พูดอะไรหรือไง?”
ซุนฮุ่ยน่าอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาใสๆ ออกมาพร้อมพึมพำ “แม้ว่ากูจะไม่เคยฆ่าใครด้วยมือกูเอง ไม่เคยหลอกหรือทำร้ายใครโดยตรง แต่กูก็ยังรู้สึกว่ากูได้ช่วยทำเรื่องชั่วร้ายแลพฆ่าคนตายมากมายโดยอ้อม บาปของกูหนักมากจนไม่กล้าขอพระเจ้ายกโทษให้ กูแค่อยากตายเร็วๆและเป็นอิสระ พวกมึงมีหน้าพูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้ยังไง!”