ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4784 ศูนย์แช่แข็ง1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4784 ศูนย์แช่แข็ง1
อิโตะ นานาโกะจุดเทียนให้เขา เมื่อร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์จบก็กล่าวอวยพรเขาต่อ “โอโต้ซัง รีบเป่าเทียนเร็วเข้า”
เวลานี้ อิโตะ นานาโกะเองก็ไม่ได้ค้นพบเช่นกันว่า คำเรียกบิดาของนางได้เปลี่ยนจากท่านพ่อกลายเป็นโอโต้ซังไปแล้ว
และในหลายๆ ครั้งเธอก็ใช้น้ำเสียงดุเขาโดยไม่รู้ตัว
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า นี่กลับทำให้โทสะของนางาฮิโกะ อิโตะลดลงได้ หลังจากโดนลูกสาวคนโปรดของตนดุเข้าให้แล้ว เขาก็ไม่ได้มีท่าทางเย่อหยิ่งเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว แต่กลับมีท่าทางน่าสงสารเหมือนเด็กแทน
เมื่อได้ยินอิโตะ นานาโกะสั่งให้เขาเป่าเทียน ด้วยความที่นางาฮิโกะ อิโตะไม่ค่อยพอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงแกล้งใส่อารมณ์ราวกับเป็นเด็กๆ พลางบ่นออกไปว่า “ฉันไม่อยากเป่าเทียน วันเกิดอายุครบ 50 ปีสำคัญขนาดนี้ แต่ฉันกลับถูกลากขึ้นมาบนเครื่องบินแบบนี้ นี่มันเลอะเทอะและฝืนใจกันเกินไป!”
อิโตะ นานาโกะชะงักไป จากนั้นจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “โอโต้ซัง! ก็เป็นเพราะว่าอายุ 50 ปีเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยังไงเล่า หนูเลยตั้งใจจัดงานฉลองวันเกิดให้พ่อสองรอบ และไม่แน่ที่เย่เฉินซังให้พวกเราไปที่นั่นก็เพราะต้องการจะฉลองวันเกิดให้พ่ออีก หากพ่อไม่พอใจ เดี๋ยวพอเครื่องถึงแล้วหนูจะชดเชยให้พ่อเอง!”
นางาฮิโกะ อิโตะบ่นพึมพำ “อย่ามาหลอกกันเลย ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว ฉันยังไม่ทันจะลงเครื่องวันนี้ก็ได้ผ่านไปแล้ว จะฉลองวันเกิดสองครั้งได้ยังไง”
อิโตะ นานาโกะกล่าวอย่างจริงจังว่า “โอโต้ซังลืมไปแล้วหรือว่าญี่ปุ่นกับอเมริกาเวลาต่างกันอยู่ ตอนนี้ที่นิวยอร์กช้ากว่าที่นี่สิบสามชั่วโมง หากพวกเราบินไปถึงเร็วหน่อยใช้เวลาสิบเอ็ดชั่วโมงก็น่าจะถึงนิวยอร์กแล้ว อย่าคิดว่าตอนที่พวกเราบินออกจากญี่ปุ่นท้องฟ้าจะมืดแล้ว เพราะหลังจากที่เราไปถึงที่นิวยอร์กแล้วท้องฟ้าจะยังไม่มืดด้วยซ้ำ!”
นางาฮิโกะ อิโตะได้ยินเช่นนี้เขาก็หยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวอย่างดีใจว่า “จริงด้วย ทำไมฉันถึงลืมไปได้นะ!”
เมื่อเห็นว่าเขายิ้มออกแล้ว อิโตะ นานาโกะก็รีบกล่าวว่า “อย่างนั้นโอโต้ซังก็รีบเป่าเทียนเร็วเข้าสิคะ”
นางาฮิโกะ อิโตะเริ่มรู้ตัวว่าท่าทางการแสดงออกของตัวเองไม่ค่อยปกตินักก็รีบกลับไปทำหน้าขรึมเช่นเดิม “แกคิดหรอว่าในวันเกิดฉันอยากบินจากอีกฝากโลกหนึ่งไปยังพื้นดินของอีกฟากโลกหนึ่ง?”
อิโตะ นานาโกะยิ้มแล้วกล่าวว่า “เอาล่ะโอโต้ซัง พ่อก็คิดได้ไหมล่ะว่านี่เป็นการบินมานิวยอร์กเป็นเพื่อนหนูเพื่อให้หนูมาพบกับชายที่หนูคิดถึงเขาทุกวันอย่างเย่เฉินซัง หากนี่สามารถทำให้ลูกสาวของพ่อมีความสุขได้ ทำไมพ่อจะต้องไม่พอใจด้วย”
นางาฮิโกะ อิโตะได้ยินอย่างนี้แล้ว เขาก็คล้ายเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง จึงยิ้มออกมาแล้วมองไปที่อิโตะ นานาโกะที่ใส่กิโมโนอยู่อย่างสวยสง่า ก่อนจะถอนใจกล่าวว่า “นานาโกะ โอโต้ซังอยากเห็นลูกแต่งงานแล้ว……”
……
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง
ที่นิวยอร์กเพิ่งจะเป็นเวลาแปดโมงครึ่ง
เย่เฉินโทรไปหาเฟ่ยเข่อซินจากนั้นจึงกล่าวว่า “รบกวนคุณหนูเฟ่ยช่วยเป็นธุระให้หน่อย พ่อดีผมอยากไปเยี่ยมหลี่ญ่าหลินที่ศูนย์แช่แข็ง”
เฟ่ยเข่อซินตอบกลับอย่างไม่ลังเล “ได้ค่ะคุณเย่ เดี๋ยวจะเตรียมเฮลิคอปเตอร์เอาไว้ให้เดี๋ยวนี้ อีกสิบห้านาทีจะมารับคุณบนดาดฟ้าโรงแรมนะคะ”
“ครับ” เย่เฉินตอบ “เดี๋ยวเจอกัน”
“ได้ค่ะคุณเย่ เดี๋ยวเจอกัน”
สิบห้านาทีผ่านไป เฟ่ยเข่อซินนั่งเฮลิคอปเตอร์ลงมาจอดที่ดาดฟ้าโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง
เย่เฉินพาซูรั่วหลี เฉินจื้อข่าย หงห้าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปด้วยกัน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดบนสิ่งปลูกสร้างที่ห่างไกลผู้คนที่หนึ่งของเมืองนิวยอร์ก
ที่นี่เป็นศูนย์การรักษาของตระกูลเฟ่ย
ตึกนี้เป็นตึกใหญ่เพียงเดียวที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สองกิโลเมตร สูงทั้งหมด 20 ชั้น รอบด้านมีการป้องกันอย่างแน่นหน้า