ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4795 เวร……ฟื้นแล้วหรือ? 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4795 เวร……ฟื้นแล้วหรือ? 2
ในช่วงเวลานั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น “หลี่ญ่าหลิน ตอนนี้คุณมองเห็นผมชัดไหม”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลี่ญ่าหลินก็ชะงักไป
เป็นเรื่องที่แปลกมาก เวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน ในความฝันของเขาไม่เคยมีเสียงดังขึ้นเลย
ถึงแม้ว่าเขาจะฝันถึงภรรยาของตัวเอง หรือว่าบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ภาพความฝันพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่ไร้เสียง ราวกับเขากำลังดูหนังใบ้อยู่
ทว่าตอนนี้ราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียง เสียงที่ดังขึ้นอย่างจริงแท้แน่นอน
ทว่าเสียงนี้ที่ได้ยินเป็นเสียงที่เขารู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย
สิ่งที่น่าแปลกประหลาดไปยิ่งกว่านั้นก็คือ แม้ว่าเสียงจะไม่คุ้นเคย แต่ในความไม่คุ้นเคยนั้น ราวกับมีความคุ้นเคยแฝงอยู่ในนั้นด้วย
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเอง “ฉันจะต้อง……เคยได้ยิน……เสียงนี้ที่ไหนสักแห่ง……”
“แต่……เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้ว……เวลาสั้นๆ……ทำให้เขานึกไม่ออก……”
ทว่าในช่วงเวลานั้นเอง ประสาทสัมผัสของเขาก็ค่อยๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง
ตอนนี้สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นเพียงเสียงสว่างขาวซีดอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นถังแสตนเลสทรงสูงที่ดูแล้วมืดหม่นและน่าพิศวง
หลังจากนั้น สายตาของเขาก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกระจกใสในห้องน้ำที่เกิดผ้าบางๆ ขึ้นหนึ่งชั้นที่เกิดจากลมร้อนที่พัดผ่าน
ในตอนนั้นเอง เขาก็ค้นพบว่าตนเองนั้นนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำใบใหญ่ที่
แถมด้านข้างอ่างน้ำนี่เองก็มีคนคนหนึ่งยืนอยู่!
เขาจ้องเขม็งไปที่คนคนนั้น ในตอนนั้นเองทั้งร่างของเขาก็สั่นสะท้าน!
ในช่วงเวลาชั่วขณะนั้นเอง ความทรงจำของเขาที่อยู่ห่างไกลก็พุ่งกลับมาราวแสงสว่างวาบ
ความทรงจำที่กลับมาเป็นลำดับแรกนั้นคือตอนที่เขาออกจากสนามกีฬาและเตรียมจะกลับไปพบหน้าลูกเมีย ทันใดนั้นเขาก็เจอคนร้ายกลุ่มหนึ่งดักรอเขาอยู่ที่หน้าลิฟต์
หลังจากนั้น ความทรงจำของเขาก็เริ่มกลับมา
เขาจำบทสนทนาของเขากับตระกูลอานได้ และนึกออกเรื่องที่ตนเองถูกบังคับให้เกษียณอย่างไม่ยินดี และนึกเรื่องคดีที่เฟ่ยฮ่าวหยางถูกลอบสังหารขึ้นมาได้……
หลังจากนั้น เขาก็นึกใบหน้าอันหล่อเหลาของเย่เฉินออก
ทันใดนั้นเอง เขาก็เบิกตาโพลงมองไปที่เย่เฉินแล้วเอ่ยปากออกมาว่า “แกนี่เอง! ฉันจำแกได้แล้ว แกคือคนที่ทำงานร่วมกับดาราหญิงคนนั้น! นางดาราคนนั้นชื่ออะไรนะ……อ่อ ใช่แล้ว กู้ชิวอี๋! ที่เฟ่ยฮ่าวหยางหายตัวไปก็เป็นเพราะว่าเธอ ฉันนึกออกแล้ว วันที่เฟ่ยฮ่าวหยางหายตัวไป แกคือคนที่อยู่กับกู้ชิวอี๋!”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วอมยิ้ม “ถูกต้อง ฉันเอง”
เขาตอบแล้วหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอีกว่า “จริงสิ ผมขอแนะนำตัวเองสักหน่อย ผมไม่ใช่คนที่ทำงานกับกู้ชิวอี๋ ผมแซ่เย่ และมีชื่อว่าเฉิน”
“เย่เฉิน?” หลี่ญ่าหลินขมวดคิ้วจากนั้นจึงกล่าวออกไปโดยสัญชาตญาณว่า “ทำไมถึงคุ้นชื่อนี้นัก……”
สีหน้าของเย่เฉินแข็งกระด้างก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า “ที่คุ้นเป็นเพราะว่าคุณเคยได้ยินตระกูลอานพูดถึงน่ะสิ งั้นขอแนะนำตัวให้ลึกซึ้งมากขึ้นกว่านี้หน่อย พ่อของผมชื่อเย่ฉางอิง คุณเองก็น่าจะรู้จักแม่ของผมด้วยใช่ไหม แม่เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลอานมีชื่อว่าอานเฉิงซี!”
“อะไรนะ?! แกเป็นลูกของเฉิงซีหรอกหรือ เป็น……ไปได้อย่างไร!”
เมื่อได้ยินเย่เฉินแนะนำตัว อาการของหลี่ญ่าหลินเต็มไปด้วยความพรั่นพรึง
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเคยคุยกับอานโฉงชิว
ครั้งนั้นเขาได้คุยกับคุณท่านตระกูลอาน พี่สาวของอานโฉงชิว อานโฉงชิวก็เคยพูดถึงหลานชายคนนั้นที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
เขาบอกว่า ตระกูลเขาตระเวณหาหลานไปแทบจะทั่วทั้งโลก
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการอะไรก็ไม่สามารถตามหาเบาะแสของเขาได้เลย
และไปถึงขั้นที่ว่าคนจำนวนมากต่างคิดว่าเขาคงตายไปแล้ว เพียงแค่หาร่างของเขาไม่เจอก็เท่านั้น