ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4800 มีสองเรื่องที่ต้องการคุณ 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4800 มีสองเรื่องที่ต้องการคุณ 1
“ไม่อยากรู้จัก?” หลี่ญ่าหลินขมวดคิ้วแต่ในใจก็คิดเช่นกันว่า ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจอะไรที่เย่เฉินจะไม่อยากเจอ เพราะว่าเขาเคยได้ยินอันโฉงชิวเล่าว่าคุณท่านใหญ่ของตระกูลอานไม่ค่อยถูกชะตากับเย่ฉางอิงเท่าไหร่นัก หากตนเป็นเย่เฉิน ถ้าตาไม่ชอบหน้าพ่อ เขาก็คงไม่อยากรู้จักตาเหมือนกัน
ในตอนนั้นหลี่ญ่าหลินก็คิดบางอย่างออกจึงรีบโพล่งถามออกไปทันทีว่า “เมื่อกี้นายบอกว่าตอนที่ฉันเกิดเรื่อง นายอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย อย่างนั้นนายก็ต้องรู้สิว่าตากับยายของนายก็อยู่ที่นั่นด้วย แถมคนที่ฆ่าฉันก็ต้องมุ่งหน้าไปหาพวกเขาต่อ แล้วตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?!”
เย่เฉินกล่าวอย่างไร้ความรู้สึก “ผมเป็นคนช่วยพวกเขา ส่วนคนร้ายที่ฆ่าคุณผมก็จัดการฆ่าทิ้งไปหมดแล้ว”
หลี่ญ่าหลินถอนใจแล้วถามต่อไปอีก “ตระกูลอานไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
เย่เฉินตอบว่า “คนตระกูลอานไม่มีใครเป็นอะไร แต่น้าสะใภ้สามของผมกินยาฆ่าตัวตาย เพราะว่าเธอเป็นพวกเดียวกับผู้ร้ายพวกนั้น แถมพวกเขายังเป็นลูกน้องขององค์กรลับแห่งหนึ่งด้วย”
หลี่ญ่าหลินเบิกตากว้างพลางถามว่า “คุณพูดอะไรนะ นี่……จะเป็นไปได้ยังไง……แม้ว่าครอบครัวของต่งลี่ฉินจะสู้ครอบครัวของคุณตาของนายไม่ได้ แต่พ่อแม่ของเธอก็เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-จีนที่มีทรัพย์สมบัติมาก อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลต่ง จะเป็นลูกน้องขององค์กรลับได้ยังไง”
เย่เฉินตอบอย่างไร้อารมณ์ “ต่อให้ครอบครัวของเธอมีเงินหลายร้อยหลานดอลล่าห์ แต่ก็คงเป็นได้แค่เครื่องมือบังหน้าขององค์กรนี้ และอาจจะถึงขั้นเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น ความใหญ่โตขององค์กรนี้เหนือกว่าที่คุณจินตนาการเอาไว้มาก”
จากนั้นเย่เฉินจึงหยุดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “เรื่องนี้พูดไปก็ยาว ผมว่าคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีหรือไม่ พวกเราเปลี่ยนสถานที่แล้วมานั่งคุยกันดีๆ ดีกว่า”
หลี่ญ่าหลินเองก็รู้สึกว่าการที่ตนต้องมานั่งอยู่ในอ่างที่ถ่ายน้ำออกไปจนหมดเช่นนี้ มันดูไม่สง่างามเอาเสียเลย
ดังนั้น เขาจึงเอ่ยถามอย่างเก้ๆ กังๆ ว่า “อย่างนั้น……พอจะมีเสื้อผ้าให้ฉันเปลี่ยนบ้างไหม……”
เย่เฉินมองไปที่เย่เข่อซินแล้วกล่าวว่า “คุณหนูเฟ่ย คุณช่วยจัดการปัญหานี้ของพล.ต.ท.หลี่หน่อยนะครับ”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าแล้วรีบกล่าวว่า “ที่นี่มีเสื้อผ้าของนักวิจัยหลายคน เดี๋ยวฉันจะเอามาให้พล.ต.ท.หลี่เปลี่ยนนะคะ!”
เย่เฉินพยักหน้า “ครับ รบกวนคุณหนูเฟ่ยด้วย”
เฟ่ยเข่อซินออกไปทันที และนำชุดทำงานกลับมาให้หลี่ญ่าหลินอย่างรวดเร็ว
หลี่ญ่าหลินเอาชุดทำงานมาคลุมตัวเองแล้วเดินตามเย่เฉินไปยังห้องรับรองที่อยู่ด้านข้าง
เย่เฉินส่งน้ำให้หลี่ญ่าหลินหนึ่งขวด เมื่อเขารับไปแล้วก็ดื่มน้ำขวดนั้นรวดเดียวหมดเกลี้ยง จากนั้นจึงเช็ดปากแล้วกล่าวว่า “เย่……คุณชายเย่ ขอบคุณคุณมากที่ช่วยชีวิตผมไว้……หลี่ญ่าหลินจะไม่พูดอะไรที่มันเกินจริง แต่ในเมื่อชีวิตนี้คุณเป็นคนช่วยผม วันหน้าหากคุณมีอะไรที่ต้องการให้ผมช่วย ผมจะช่วยคุณอย่างถวายชีวิต”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “จะว่าไปแล้ว ผมก็มีเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริงๆ”
หลี่ญ่าหลินประสานมืออย่างคารวะ “คุณชายเย่ เชิญว่ามาเลย!”
เย่เฉินชูนิ้วสองนิ้วพลางกล่าวเรียบๆ ว่า “มีสองข้อ ข้อแรก หากคุณเดินออกไปจากห้องนี้แล้วห้ามบอกใครว่าเคยเจอผม หากมีคนถามโดยเฉพาะคนจากตระกูลอาน คุณก็ตอบเขาไปว่าคุณเองก็ไม่แน่ใจ หลังจากที่คุณตื่นขึ้นมาจากศูนย์แช่แข็งแล้ว ก็ถูกส่งตัวออกมาเลย”
หลี่ญ่าหลินถามด้วยความสงสัย “คุณชายเย่ คุณช่วยชีวิตคนตระกูลอานเอาไว้ ทำไมถึงไม่แนะนำตัวกับพวกเขาล่ะ”