ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4804 บ้าระห่ำจริงๆ! 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4804 บ้าระห่ำจริงๆ! 2
เย่เฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “คืนนั้นที่พวกเขาเจอผม และรู้ว่าผมเป็นคนจัดการเอาตัวคุณไปแล้ว แต่พวกเขาคงไม่คิดว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ เมื่อพวกคุณเจอหน้ากันแล้ว คุณก็บอกพวกเขาว่ามีบุคลลลึกลับคนหนึ่งให้ยาคุณกินและช่วยชีวิตคุณขึ้นมาได้ จากนั้นจึงให้คุณหนูเฟ่ยพาคุณไปพบพวกเขา ส่วนใครคือบุคคลลึกลับนั้น คุณเองก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเขาจะต้องโยงคนที่ช่วยเหลือคุณกับคนที่ช่วยเหลือพวกเขาว่ามีความข้องเกี่ยวกันอย่างไร ส่วนที่เหลือก็ปล่อยให้พวกเขาเดากันเองก็แล้วกัน”
“ได้เลยคุณชายเย่” หลี่ญ่าหลินตอบด้วยท่าทางจริงจัง “ผมเข้าใจแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วเปิดประตูออก เพื่อเรียกคุณหนูเฟ่ยเข้ามา “คุณหนูเฟ่ย รบกวนคุณช่วยจัดเฮลิคอปเตอร์พาพล.ต.ท.หลี่ไปส่งที่อาคารอานปางที่แมนฮัตตันด้วยตัวเองหน่อย และจะให้ดีควรติดต่อน้าชายใหญ่ของผมเอาไว้ก่อน โดยบอกว่าคุณอยากไปเยี่ยมพวกเขา วันนั้นที่ผมช่วยพวกเขาไว้ คุณเป็นคนพาคนไปจัดการเรื่องต่อในที่เกิดเหตุ พวกเขาคงไม่ระแวงอะไรในตัวคุณมากนัก”
เฟ่ยเขอซินกล่าวอย่างนอบน้อม “ได้ค่ะคุณเย่ เดี๋ยวฉันจะติดต่อตระกูลอานไปเดี๋ยวนี้เลย จะได้ทักทายพวกเขาไปก่อน”
……
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง
อาคารอานปาง ณ แมนฮัตตัน
คนในตระกูลอานนั่งประชุมอยู่ด้วยกัน เพื่อสรุปและอภิปรายสถานการณ์ทุกๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
ตอนนี้อาการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ของคุณท่านอานเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหลังจากตื่นนอนขึ้นมาในแต่ละวัน นายหญิงใหญ่และลูกสาวสองสามคนต่างก็ต้องเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันให้เขาฟัง
ยังดีที่คุณท่านเคยผ่านเรื่องราวที่หนักหนามาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่มีความทรงจำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วันนั้นๆ เหลืออยู่แล้ว แต่เมื่อฟังลูกสาวของเขารายงานเรื่องราวให้ฟังแล้ว เขาก็เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้อย่างชัดเจน
ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นจนถึงตอนนี้ คนตระกูลอานอยู่ที่นิวยอร์กตลอดมา
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถจัดการธุระต่างๆ ของตระกูลได้บ้างแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัย คุณท่านจึงตัดสินใจให้ทุกคนยังคงปักหลักอยู่ที่อาคารอานปางก่อน
อานจาวหนาน น้าชายเล็กของเย่เฉินมีความคิดมาตลอดว่าอยากไปดูที่บ้านแม่ของต่งลี่ฉินภรรยาของเขาให้รู้แล้วรู้รอด ว่าคนรักที่รู้จักกับตนมาเกือบยี่สิบปีกลับกลายเป็นมือสังหารที่แฝงตัวมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขายากจะยอมรับได้ เขาจึงอยากจะใช้เบาะแสนี้เพื่อสืบเรื่องราวให้ชัดเจน
ทว่าลูกน้องของตระกูลอานก็ส่งข่าวกลับมาอย่างรวดเร็ว คนตระกูลต่งหายไปในชั่วพริบตาโดยไม่รู้ว่าไปที่ไหนในคืนนั้น
อานข่างเฟิงจึงส่งลูกน้องไปสืบเส้นทางทรัพย์สินของตระกูลต่ง สืบอยู่หลายวัน สุดท้ายก็พอได้ร่องรอยมาบ้าง
อานข่างเฟิงจึงกลับไปรายงานกับคนในตระกูล “หลังจากผมส่งคนของผมไปสืบก็พบว่า กิจการของตระกูลต่ง หุ้น สิทธิเจ้าหนี้รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ ได้ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องแล้ว บางอย่างก็ถูกขายออกไป บางอย่างก็ถูกเอาไปจำนอง สรุปแล้วพวกเขาได้เปลี่ยนรูปแบบของทรัพย์สินทุกอย่างกลายเป็นเงิน”
อานจาวหนานรีบกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเขาหายตัวไปแล้ว แสดงว่าพวกเขาก็ต้องเอาเงินพวกนี้ไปด้วยใช่หรือไม่ หากพวกเราสืบตามเส้นทางเงิน จะต้องได้เบาะแสกลับมาบ้าง”
อานข่ายเฟิงส่ายหน้าแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “สิ่งที่น่าสงสัยก็คือตระกูลต่งนำทรัพย์สินทั้งหมดเปลี่ยนเป็นเงินสดเจ็ดพันกว่าล้าน และไม่ได้เอาติดตัวไปด้วยเลยแม้แต่บาทเดียว”
“อะไรนะ” อานโฉงชิวกล่าวอย่างประหลาดใจ “ไม่ได้เอาไป?! แล้วเงินก้อนนี้ไปอยู่ไหน”
อานข่ายเฟิงกล่าวว่า “ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นพวกเขาได้ตั้งทรัสต์ครอบครัวขึ้นมา แต่ยังไม่ได้เอาเงินใส่เข้าไปในทันที แต่หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับพวกเรา พวกเขาก็เอาเงินทั้งหมดย้ายเข้าไปในทรัสต์ จากนั้นจึงหายตัวไปในทันที”
ระหว่างที่กล่าว อานข่ายเฟิงก็เอ่ยว่า “คาดว่าน่าจะเป็นตอนที่พวกเขาแน่ใจแล้วว่าภารกิจล้มเหลว”
“เวร!” อานโฉงชิวสบถออกมา “คนพวกนี้มันบ้าระห่ำจริงๆ! ไม่เอาเงินไปแต่สร้างทรัสต์ครอบครัวขึ้นมา นั่นเป็นการบอกให้พวกเราได้รู้ว่า พวกเขาจะกลับมาอีกครั้ง!”