ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4809 พี่หลี่ของคุณยังไม่ตาย 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4809 พี่หลี่ของคุณยังไม่ตาย 1
เฟ่ยเข่อซินเดินล่วงหน้าลงมาก่อน ส่วนหลี่ญ่าหลินนั้นถึงจะเดินตามลงมา และในตอนนี้เองอานฉี่ซานก็เดินลงมาโดยมีอานโฉงชิวประคองมาด้านหน้า
เนื่องจากอานฉีซานเป็นโรคอัลซัลเมอร์ ดังนั้นความทรงจำของเขาที่มีต่อเฟ่ยเข่อซินไม่ต่างอะไรการฟังนิทานที่ได้ลูกหลานของเขาเล่าให้ฟังอีกที
แต่เขาเองก็รู้ดีว่าในช่วงเวลาที่ตระกูลอานตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เฟ่ยเขอซินได้ช่วยเอาไว้ไม่น้อย ด้วยนิสัยของเขาที่ต้องตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาจึงรู้สึกซาบซึ้งในตัวเฟ่ยเข่อซินเป็นพิเศษ
และเนื่องจากเมื่อครู่นี้เขาได้ดูรูปเฟ่ยเขอซินเอาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นตอนที่เฟ่ยเข่อซินเดินลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ อานฉี่ชานจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาก่อนแล้วกล่าวเสียงดังว่า “สวัสดีคุณหนูเฟ่ย พวกเราเจอกันอีกแล้ว!”
เฟ่ยเข่อซินไม่คิดว่าคุณท่านจะยังจำตนเองได้จึงรีบกล่าวอย่างนอบน้อม “คุณท่านอาน ช่วงนี้สบายดีไหมคะ”
คุณท่านพยักหน้าแล้วกล่าวกับเฟ่ยเข่อซินว่า “ด้วยบุญคุณของคุณหนูเฟ่ย ทำให้ช่วงนี้เรายังสบายดีอยู่”
เฟ่ยเข่อซินรีบกล่าวว่า “คุณท่านอาน ท่านอย่าพูดแบบนี้เลย หนูเป็นเด็กจะรับเอาไว้ได้อย่างไร”
อานโฉงชิวที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าแล้วกล่าวกับคุณหนูเฟ่ยอย่างนอบน้อม “สวัสดีครับคุณหนูเฟ่ย!”
เฟ่ยเข่อซินตอบกลับอย่างนอบน้อมเช่นกัน “สวัสดีค่ะคุณอาน!”
อานโฉงชิวถามอย่างใส่ใจ “คุณหนูเฟ่ย ผมมีเรื่องอยากสอบถาม หลี่ญ่าหลินพี่ชายของผม ตอนนี้ร่างของเขาถูกเอาไปฝังไว้ที่ไหนแล้ว หากสะดวกรบกวนทิ้งที่อยู่ไว้ให้ผมได้หรือไม่ ผมอยากไปทำความเคารพเขา”
เฟ่ยเข่อซินยังไม่ทันจะพูด หลี่ญ่าหลินที่ใส่แมสและแว่นตาดำก็กล่าวออกมาแทนว่า “อานโฉงชิว! พี่หลี่ของเจ้ายังไม่ตายสักหน่อย”
เมื่อคำพูดนี้ของหลี่ญ่าหลินโพล่งออกไป อานโฉงชิวและอานฉีชานต่างตกใจจนตาเบิกกว้าง
ทั้งสองจำได้ว่านี่คือเสียงของหลี่ญ่าหลิน
ทว่าทั้งสองไม่อยากจะเชื่อว่าคนตรงหน้าจะเป็นหลี่ญ่าหลิน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงยิมวันนั้น พวกทหารหน่วยกล้าตายได้สังหารยอดฝีมือของตระกูลอานจนพรุน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นร่างของหลี่ญ่าหลินด้วยตนเอง แต่ก็พอรู้ได้ว่าหลี่ญ่าหลินไม่น่าจะรอดชีวิตได้ในวันนั้น
อีกอย่างเย่เฉินที่ได้ช่วยเขาไว้วันนั้นก็บอกว่าหลี่ญ่าหลินตายแล้ว แม้แต่เทพเซียนก็ช่วยเขาไม่ได้
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจะเชื่อได้อย่างไรว่าหลี่ญ่าหลินจะยังมีชีวิตอยู่ต่อหน้าพวกเขา
เมื่อหลี่ญ่าหลินเห็นสองพ่อลูกตระกูลอานตะลึงอ้าปากค้างมองตัวเองอย่างพูดไม่ออก เขาก็ถอดแมสและแว่นตาดำออกอย่างร้อนใจและกล่าวว่า “ผมเอง ผมยังไม่ตาย!”
“อะไรกันวะ!” อานโฉงชิวอุทานออกมาอย่างตกใจมาก “ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมวะ……คุณ……คุณฟื้นขึ้นมาได้ยัง?!”
อานฉี่ชานเองก็อดไม่ได้เช่นกันที่จะอุทานออกมา “ญ่าหลิน เป็นนายจริงๆ หรือ”
หลี่ญ่าหลินพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างยินดีและนอบน้อม “ลุงอาน ผมเอง!”
เมื่ออานโฉงชิวได้สติกลับมา ก็เดินออกไปแล้วเอามือตบหน้าหลี่ญ่าหลิน และเขย่าหัวไหล่ของเขา และกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อและตื่นเต้น “ญ่าหลิน……มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่! สมองคนฉันทำงานไม่ทันแล้ว!”
หลี่ญ่าหลินถอนใจยาวแล้วกล่าวว่า “เรื่องนี้ซับซ้อนมาก ต้องพูดกันยาว……”
อานฉี่ชานเดินเข้ามาหาด้วยความปลื้มใจ แล้วโอบอานโฉงชิวเอาไว้แล้วรีบกล่าวว่า “ญ่าหลิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้นายก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว คนแก่อย่างฉันรู้สึกปลื้มใจมาก”
อานโฉงชิวเองก็ตื้นตันมาเช่นกันจึงกอดหลี่ญ่าหลินเอาไว้แน่นแล้วสะอึกสะอื้นกล่าวว่า “ญ่าหลิน ดีจังที่นายยังมีชีวิตอยู่……ฉันและครอบครัวดีใจมากจริง……”
หลี่ญ่าหลินเองก็ตาแดงก่ำขึ้นมาเช่นกันก่อนจะทอดถอนใจกล่าวว่า “โฉงชิว ตอนนั้นที่ประตูลิฟต์เปิดออกมา กระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนทะลุผ่านตัวฉันไป ตอนนั้นฉันก็คิดว่าตัวเองต้องตายแน่แล้ว ในหัวของฉันตอนนั้นเป็นห่วงก็แค่เมียกับลูกและก็เป็นห่วงครอบครัวของพวกนายด้วย ยังคิกอยู่เลยว่าพวกนายก็คงต้องเจอเรื่องแบบนี้เช่นกัน แต่พอได้ยินว่าพวกนายยังมีชีวิตอยู่ ฉันเองก็ดีใจมาก!”