ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4813 ห้ามล้ำเส้น 3
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4813 ห้ามล้ำเส้น 3
นายหญิงใหญ่เองก็ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรผิดปกติจึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “จะอย่างไรหนานหนานก็เป็นราชินิสวรรค์แห่งวงการเพลงจีน ผู้มีพระคุณเองก็เป็นคนเชื้อสายจีนเช่นกัน หากเป็นแฟนเพลงของเธอก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไรเลย”
“ใช่แล้ว” เวลานี้อานโยวโยวก็เอ่ยปากเช่นกัน “บุคคลใหญ่โตหลายคนก็เป็นคนคลั่งดาราเหมือนกัน ที่อเมริการทุกครั้งที่มีการแข่งขันซุปเปอร์โบว์ เศรษฐีและคนมีอำนาจจำนวนมากล้วนไปร่วมชม ตอนนั้นที่ไมเคิล แจ็กสันดังมากไปทั่วโลก ครอบครัวของประธานาธิบดีคนก่อนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ลูกสาวของเขายังเป็นแฟนคลับตัวยงอีกด้วย”
อานโฉงชิวได้ยินถึงตรงนี้ก็ยอมรับคำอธิบายนี้ทันที ด้วยเหตุนี้เขาจึงเอ่ยปากว่า “ในเมื่อผู้มีพระคุณคือแขกคนพิเศษของงานคอนเสิร์ตหนานหนาน แสดงว่าหนานหนานจะต้องรู้แน่ๆ ว่าฐานะที่แท้จริงของเขาคือใคร ถ้าไม่งั้นพวกเราไปถามหนานดีไหม บางทียาเม็ดนั้นที่หนานหนานให้พ่ออาจจะได้มาจากผู้มีพระคุณก็ได้”
อานข่ายเฟิงคิดแล้วคิดอีกก่อนจะเอ่ยว่า “ประเด็นนี้อาจจะเป็นไปได้ ผมเคยหาข้อมูลมาบ้างแล้ว กู้เย่นจงเป็นมะเร็งตับอ่อนขั้นสุดท้ายจริงๆ สุดท้ายกลับหาย เดาว่าในช่วงเวลานั้น ตระกูลกู้คงรู้จักกับผู้มีพระคุณแล้ว ความเป็นไปได้คือผู้มีพระคุณน่าจะรักษากู้เย่นจงก่อน จากนั้นค่อยให้ยาตระกูลกู้เอาไว้ส่วนหนึ่ง”
คุณท่านเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ากล่าวว่า “ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น ตามลำดับของเวลาแล้ว ตระกูลกู้น่าจะรู้จักกับผู้มีพระคุณก่อน จากนั้นถึงจะรู้จักคุณหนูเฟ่ย จากนั้นถึงจะเป็นพวกเรา”
อานโฉงชิวรีบกล่าวว่า “พอเป็นอย่างนี้แล้วแสดงว่าหนานหนานจะต้องรู้จักผู้มีพระคุณแน่ รายละเอียดอย่างอื่น โทรไปถามเธอก็รู้แล้ว!”
คุณท่านรีบโบกมือแล้วกล่าวว่า “ทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด!”
อานโฉงชิวถามอย่างสงสัยว่า “พ่อ ทำไมล่ะครับ”
คุณท่านกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่น “หากผู้มีพระคุณต้องการให้พวกเราพบตัวเขา น่าจะไม่ปิดบังฐานะกับพวกเรา หากพวกเราจงใจสืบเรื่องนี้ลึกซึ้งเข้าไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้ผู้มีพระคุณไม่สบายใจได้”
อานโฉงชิวพยักหน้าด้วยอาการช็อกเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วถอนใจกล่าวว่า “แต่ผู้มีพระคุณน่าจะเป็นใครได้บ้าง จากที่ผมฟังเสียงของเขาน่าจะยังเป็นวัยรุ่นอยู่ อายุยังน้อยแต่กลับมีความสามารถมากขนาดนี้แล้ว คนแบบนี้ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ”
คุณท่านกล่าวออกมาอย่างจริงจังว่า “พวกแกฟังให้ดี ฐานะของผู้มีพระคุณ พวกเราสามารถคุยกันลับๆ ได้ แต่เมื่อออกจากประตูห้องนี้ไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ห้ามแอบสืบเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เส้นยาแดงนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามก้าวข้ามทั้งนั้น! หากผู้มีพระคุณอยากให้เรารู้ฐานะของเขาจะต้องมีสักวันที่เขายอมมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา!”
คนในตระกูลอานต่างรู้ดีว่าอันที่จริงแล้วคุณท่านนั้นอยากรู้มากว่าแท้จริงแล้วผู้มีพระคุณผู้กว้างขวางคนนี้ที่แท้แล้วเป็นใครกันแน่
แต่ในเมื่อคุณท่านกล่าวเช่นนี้ พวกเขาย่อมไม่กล้าคิดจะทำอะไรที่ข้ามเส้น
ด้วยเหตุนี้อานโฉงชิวจึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “คุณพ่อวางใจได้ พวกเราเชื่อฟังคำสั่งของท่านพ่อแน่นอน ไม่มีทางที่จะล้ำเส้นนั้นแน่”
อานข่ายเฟิงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “พ่อ พี่ใหญ่พูดถูก พวกเราไม่มีทางล้ำเส้นแน่”
หลี่ญ่าหลินที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะผิดหวัง
เขารับปากเย่เฉินแล้วว่าจะไม่เปิดเผยฐานะของเย่เฉิน
แต่ว่าจากในใจส่วนลึกของเขานั้นบอกว่า เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตระกูลอานจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเย่เฉินอย่างเร็วที่สุด
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นฝ่ายเริ่มยกเรื่องยาอายุวัฒนะขึ้นมาพูดต่อหน้าอานโฉงชิว เพราะต้องการที่จะเตือนเขาว่าจะต้องเก็บเอาเบาะแสนี้มาคิดด้วย หากทำได้ก็จะสามารถสืบหาข่าวคราวของเย่เฉินหลานชายของเขาได้
แต่คำพูดในความหมายนี้ เขาไม่กล้าพูดออกมาอย่างแจ่มชัดมากนัก เพราะด้านหนึ่งเขาได้รับคำเย่เฉินเอาไว้แล้วมีสัญญาลูกผู้ชายต่อกัน ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าเฟ่ยเข่อซินยังอยู่ด้านข้าง หากตนเองแสดงออกอย่างชัดเจนเกินไป เฟ่ยเข่อซินคงจะสังเกตความผิดปกติได้