ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4817 สนับสนุนกันและกัน2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4817 สนับสนุนกันและกัน2
หลี่หญ่าหลินทำอะไรไม่ถูก “คุณลุงอาน ทำแบบนี้ได้อย่างไร……ผมจะรับเงินของคุณได้ยังไง เงินยังมากขนาดนี้อีกด้วย ต่อให้เอาตัวผมไปขายยังได้เงินไม่เยอะขนาดนี้เลย ทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”
อานฉี่ซานกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ญ่าหลิน คุณก็เป็นคนที่เคยผ่านความตายมาแล้ว ทำไมถึงยังทำตัวไม่เด็ดขาดแบบนี้อีก คุณอย่าเห็นว่าเงินเป็นจำนวนมาก ส่วนนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เงินส่วนที่เหลือจะทยอยได้เพิ่มขึ้นในอนาคต”
จากนั้นเขาจึงหันไปพูดกับอานโฉงชิวว่า “โฉงชิว เมื่อแกเจอกับลูกเขยของหลี่ญ่าหลินเมื่อไหร่ คุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ ถ้าเขากำลังสร้างธุรกิจก็มอบเงินให้เขาก้อนหนึ่ง หลังจากนั้นก็ส่งวัตถุดิบที่ต้องใช้ให้เขา ถ้าเขาทำงานรับจ้างก็ให้หาธุรกิจในเครือของตระกูลอานที่เหมาะสมให้เขา ไม่ว่าจะเป็นระดับ รายได้รวมทั้งตำแหน่งทางการงานที่ดีในอนาคตให้เขา จากนั้นคุยกับเขาให้เข้าใจว่าที่เขาได้ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเขาแต่งงานกับลูกสาวของญ่าหลินและยอมให้ลูกใช้นามสกุลหลี่ เมื่อทำเช่นนี้ได้แล้ววันข้างหน้าเขาจะดีต่อลูกสาวของญ่าหลิน และยังมีความคิดด้วยว่า การให้ลูกใช้นามสกุลหลี่ไม่ได้ทำให้เขาเสียเกียรติ แต่เป็นการส่งเสริมเขา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วชีวิตนี้ของเขาจะไม่มีวันรู้สึกเสียใจ”
อานโฉงชิวตอบทันทีว่า “พ่อวางใจได้ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย!”
หลี่ญ่าหลินในเวลานี้มีท่าทางราวกับเด็กที่ทำอะไรผิดมา ท่าทางลอกแลกไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไรดี
อานฉี่ซานมองไปที่เขาแล้วตบไหล่ของเขาหนักๆพลางกล่าวอย่างจริงจังว่า “ญ่าหลิน คุณเป็นคนที่ผ่านความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง บางเรื่องก็ต้องเปิดใจยอมรับ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคุณมีชีวิตอยู่เพื่อตัวคุณเอง รวมทั้งอนาคตที่ยาวไกลของลูกหลานตระกูลตัวเอง ตระกูลอานทำไปเพราะต้องการตอบแทน เราจะทำให้ตระกูลหลี่และลูกหลานของตระกูลหลี่นับแต่นี้สามารถยกระดับฐานะขึ้นในสังคมขึ้นได้ เรื่องนี้ต่อให้คุณพยายามอีกนานแค่ไหนก็คงทำไม่ได้ อีกอย่างคุณก็อย่าไปคิดว่าตัวเองติดหนี้ตระกูลอาน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตะกูลอานควรทำอยู่แล้ว!”
เมื่อหลี่ญ่าหลินเห็นคุณท่านเด็ดขาดเช่นนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้ไปอย่างไรดี
เขาอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกไปว่า “คุณลุงอาน ในใจของผมไม่เคยมีความคิดเลยว่าก่อนหน้านี้ที่ผมเกือบโดนฆ่าเป็นเพราะว่าตระกูลอาน……”
หยุดไปครู่หนึ่ง หลี่ญ่าหลินก็กล่าวต่อไปว่า “เพราะว่าตอนนั้นผมก็แค่บังเอิญเลือกไปเดินเล่นกับคุณเอง ทั้งหมดเป็นการตัดสินใจเลือกของผม เมื่อโดนซุ่มโจมตีก็ต้องบอกว่าเป็นเพราะว่าผมซวยเอง ไม่ว่าอย่างไรผมก็คงไม่กล้าอ้างว่าตัวเองมีบุญคุณกับตระกูลอาน……”
“พูดไปผมก็ละอาย แม้ว่าตอนนั้นผมเกือบตาย แต่ผมก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นการช่วยตระกูลอานเลย ตอนที่ผมอยู่ต่อหน้าโจรที่มีอาวุธครบมือพวกนั้น ผมไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ด้วยซ้ำก็ล้มไปนอนกองกับพื้นแล้ว อย่างดีที่สุดผมก็เป็นแค่คนที่พลีชีพตัวเองเท่านั้น……”
อันที่จริงแล้ว หลี่ญ่าหลินยังมีคำพูดที่ยังไม่ได้พูดออกไปอีก
เขารู้สึกว่านอกจากตัวเองจะไม่ได้ช่วยตระกูลอานแล้ว ในทางตรงกันข้ามคนที่ช่วยชีวิตตนไว้ให้เขาได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ก็คือเย่เฉินหลานชายของตระกูลอานนั่นเอง
ตนเองติดหนี้ชีวิตเย่เฉิน แล้วเวลาอย่างนี้ยังจะมาเอาเงินของตระกูลอานไปอีก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็พูดไม่ออก
คุณท่านทำสีหน้าแข็งกระด้างกล่าวถามว่า “ทำไมรึ พลีชีพแล้วยังไง ต่อให้คุณพลีชีพก็ยังช่วยบังกระสุนให้ตระกูลอาน พลีชีพให้ตระกูลอานไม่ใช่หรือ?! ฉันขอยกตัวอย่างแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักก็แล้วกัน ถ้าอิงตามหลักการที่ไม่เอาไหนของคุณ ทหารพวกนั้นที่ไม่สามารถสังหารข้าศึกได้ แต่กลับโดนข้าศึกยิงตายเสียก่อนแล้ว นั่นไม่นับว่าเป็นการเสียสละเพื่อชาติหรอกหรือ เหตุผลเข้าท่าไหมล่ะ”
“เรื่องนี้……ผม……” ตอนนั้นหลี่ญ่าหลินไม่รู้ว่าจะเถียงออกไปอย่างไรดี