ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4818 สนับสนุนกันและกัน3
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4818 สนับสนุนกันและกัน3
มันคือความจริง คำพูดของคุณท่านมีเหตุผลมากกว่าเหตุผลของเขา
อานโฉงชิวที่อยู่ข้างๆ จึงกล่าวเตือนว่า “ญ่าหลิน อย่าลืมว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเรื่องการยกฐานะทางสังคมของเลือดเนื้อตระกูลหลี่ด้วย ไม่ต้องพูดแล้ว แกก็รู้นิสัยของคุณท่านดี อย่าพยายามดื้อรั้นอีกต่อไปเลย”
หลี่ญ่าหลินนึกถึงคำพูดของคุณท่านที่พูดกับตนเองตอนที่อยู่ในห้องวีไอพีก่อนที่การแสดงจะเริ่มขึ้น
ให้ลูกของลูกสาวที่กำลงจะเกิดออกมาใช้นามสกุลหลี่ วิธีการนี้แม้ว่าจะหัวโบราณไปหน่อย แต่แน่นอนว่าตรงกับใจลึกๆ ของเขา
ถ้าอยากให้ตระกูลของตนเองสืบทอดต่อไป เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดก็คือจะต้องใช้นามสกุลนี้ต่อไป หากสามารถทำเรื่องนี้ได้ ตอนที่ตนเองตายไปก็คงไม่รู้สึกละอายใจต่อบรรพบุรุษ
คิดไปคิดมาแล้ว เขาก็ประสานมือคารวะคุณท่านใหญ่แล้วกล่าวอย่างจริงใจว่า “คุณลุงอาน บุญคุณนี้ของท่าน ญ่าหลินจะจดจำเอาไว้ในใจ!”
อานฉี่ซานกล่าวอย่างจริงจังว่า “วันหลังก็ไม่ต้องพูดเรื่องใครมีบุญคุณต่อใครอีกแล้ว เวลาที่จะมาถึงในวันข้างหน้า พวกเราต้องช่วยเหลือกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน”
หลี่ญ่าหลินพยักหน้าอย่างหนักแน่น อานโฉงชิวที่อยู่ด้านข้างพลันนึกบางอย่างออก จึงกล่าวกับหลี่ญ่าหลินว่า “จริงสิญ่าหลิน ไม่กี่วันก่อนหน้านี้พี่สะใภ้มาที่นิวยอร์ก แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าเธอยังอยู่ที่นิวยอร์กไหม จะโทรไปถามเธอดีไหม”
หลี่ญ่าหลินรีบกล่าวว่า “ใช่ๆๆ นายช่วยถามให้หน่อยว่าเธออยู่ที่ไหน ถ้าเธออยู่ที่นิวยอร์ก ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้เลย!”
“ได้สิ” หลังจากตอบรับคำ เขาก็ถามญ่าหลินอีก “ถ้าพี่สะใภ้อยู่ที่นิวยอร์ก ถ้าเธอถามว่าได้ข่าวคราวของคแกบ้างไหม จะให้ฉันพูดไปตามตรงหรือว่าโกหกไปก่อน แล้วให้แกกลับไปเซอร์ไพร์สเอง”
หลี่ญ่าหลินคิดก่อนจะเอ่ยปากว่า “ถ้าเธอถาม แกก็บอกเธอไปว่าหาเบาะแสได้แล้ว แต่อยากคุยกับเธอต่อหน้ามากกว่า แล้วแกก็นัดเจอกับเธอ ตอนนั้นฉันจะไปเซอร์ไพร์สเธอเอง”
“ได้” อานโฉงชิวพยักหน้าแล้วหยิบมือถือขึ้นมาทันทีเพื่อโทรหาเฉินจุนเหมยภรรยาของหลี่ญ่าหลิน
เมื่อโทรติดปลายสายก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “โฉงชิว คุณได้ข่าวคราวของญ่าหลินแล้วใช่ไหม”
อานโฉงชิวชะงักไปเล็กน้อย แล้วตั้งใจพูดว่า “พี่สะใภ้ ผมพอได้ข่าวคราวมาบ้างแล้ว ตอนนี้พี่ยังอยู่ที่นิวยอร์กไหม ผมอยากคุยกับพี่ต่อหน้ามากกว่า”
น้ำเสียงปลายสายของเฉินจุนเหมยกล่าวถามอย่างตื่นเต้นมาก “จริงหรือ?! ข่าวอะไร ตอนนี้ฉันอยู่ที่วอชิงตันเตรียมจะกลับนิวยอร์ก พอดีมีเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่วอชิงตันนัดมา ฉันก็เลยมาช่วยเพื่อนก่อน อีกครึ่งชั่วโมงเครื่องบินก็ออกแล้ว ประมาณหนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาทีคงจะถึงนิวยอร์ก”
อานโฉงชิวเอ่ยว่า “เอาอย่างนี้ไหมพี่ พี่บอกเลขเที่ยวบินผมมา ผมจะส่งคนไปรับพี่ที่สนามบิน เดี๋ยวเจอกันแล้วค่อยคุยกันนะครับ”
เฉินจุนเหมยถามอย่างตื่นเต้น “โฉงชิว บอกฉันมาตามตรงได้ไหม ญ่าหลินของพวกเราไม่เป็นไรใช่ไหม”
อานโฉงชิวรีบกล่าวว่า “ไม่ครับ ผมเอาหัวเป็นประกันเลย มีข่าวดีครับ! พี่บอกเที่ยวบินมาได้เลย เรื่องอื่นไม่ต้องกังวลนะครับ”
น้ำเสียงตื่นเต้นของเฉินจุนเหมยเปลี่ยนเป็นสะอึกสะอื้น “ดีจังเลย……”
ระหว่างนั้นเธอก็หันไปพูดกับคนที่อยู่กับเธอว่า “หยวนหยวน ลุงอานโทรมาบอกว่ามีข่าวดีเกี่ยวกับพ่อของเรา!”
“จริงหรือคะ?!” ปลายสายมีเสียงของลูกสาวหลี่ญ่าหลินดังขึ้น เธอแย่งโทรศัพท์ไปแล้วถามอย่างตื่นเต้น “คุณลุงอาน ลุงไม่ได้หลอกพวกเราใช่ไหมคะ มีข่าวดีจริงๆ ใช่ไหมคะ”
อานโฉงชิวยิ้มพลางกล่าวว่า “หยวนหยวน ลุงเอาหัวเป็นประกันเลย หนูว่าเพียงพอไหม”