ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4823 ปรมาจารย์นักพูด1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4823 ปรมาจารย์นักพูด1
บางครั้งเรื่องราวจะประสบความสำเร็จหรือไม่ สิ่งที่สำคัญก็คือจะควบคุมตนเองได้มากแค่ไหน จะควบคุมจังหวะตัวเองได้มากแค่ไหน
เช่นเดียวกับการบรรยาย ต้นฉบับเดียวกันหากสามารถใช้จังหวะของตนเองควบคุมสถานการณ์ทั้งหมเได้ นั่นก็หมายความว่าประสบความสำเร็จ แต่หากจังหวะของตนเองถูกคนอื่นแทรกแซงไป สุดท้ายก็จะล้มเหลว และบางทีอาจจะขายหน้าต่อหน้าคนอื่นไป
ในขณะที่หลี่ญ่าหลินยังหาจังหวะให้ตัวเองไม่ได้นั้น เฟ่ยเข่อซินที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “สวัสดีค่ะ คุณคือภรรยาของพล.ต.ท.หลี่ใช่ไหมคะ”
เฉินจุนเหมยมองไปที่เฟ่ยเข่อซินแฃ้วกล่าวว่า “อีกไม่นานก็จะไม่ใช่แล้ว!”
เฟ่ยเข่อซินอมยิ้มแล้วกล่าวว่า “ขอแนะนำตัวสักหน่อยนะคะ ฉันคือประธานของเฟ่ยซื่อกรุ๊ป เฟ่ยเข่อซิน……”
เฉินจวินเหมยได้ยินดังนี้ก็มองเฟ่ยเข่อซินอย่างประหลาดใจ จากนั้นจึงพยักหน้ากล่าวว่า “ฉันรู้จักคุณ……เคยเห็นในโทรทัศน์ค่ะ……”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวว่า “อันที่จริงแล้วฉันอยากอธิบายบางอย่างกับคุณ การหายตัวไปอย่างลึกลับของพล.ต.ท.หลี่ อันที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นฉันเป็นคนขอให้เขาช่วยสืบเรื่องบางอย่างให้ คนไม่เอาไหนอย่างเฟ่ยฮ่าวหยางที่ได้ก่อเรื่องไปตอนนั้น และเป็นเพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวมาก และฉันเป็นคนที่สั่งให้พล.ต.ท.หลี่หยุดการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างเด็ดขาด……”
เฉินจุนเหมยขมวดคิ้วแล้วถามเฟ่ยเข่อซินว่า “เขาเออรี่มาแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมต้องฟังคำสั่งคุณด้วย? คุณสั่งไม่ให้เขาติดต่อโลกภายนอก เขาก็ไม่ติดต่องั้นหรือ ทำไมเขาต้องรับคำสั่งคุณด้วยล่ะ?!”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวอย่างจริงจังพร้อมรอยยิ้ม “เป็นเพราะว่าฉันคือนายจ้างของ พล.ต.ท. หลี่ไงล่ะ”
ระหว่างที่พูด เธอก็หยิบสมุดเช็คบางๆ ออกมา จากนั้นหยิบใบหนึ่งที่แทรกอยู่ในเล่มออกมา ใบนี้เป็นเช็คที่เขียนเอาไว้แต่แรกแล้ว เธอส่งให้เฉินจุนเหมย แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “คุณนายหลี่ นี่คือเงินสิบล้านดอลล่าห์ เป็นเงินที่ฉันสัญญากับพล.ต.ท.หลี่เอาไว้ว่าถ้าจัดการเรื่องเสร็จแล้วจะให้เขา เมื่อครู่นี้คุณสงสัยใช่ไหมคะว่าทำไม พล.ต.ท.หลี่ถึงต้องฟังคำสั่งและสัญญากับฉันด้วย และนี่คือเหตุผล ฉันต้องการคนที่สามารถรักษาความลับได้และมีประสบการณ์เพียงพอที่จะสืบคดีให้ฉันได้ ส่วนพล.ต.ท.หลี่ก็รู้พอดีว่าลูกสาวของตนเองตั้งท้อง จึงต้องการมีรายได้ที่เพียงพอสักก้อน เพื่อให้หลานชายหรือหลานสาวของเขาที่กำลังจะเกิดมาในอนาคตมีชีวิตที่ดี”
“อะไรนะ?!” เฉินจุนเหมยตาเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างถามว่า “คุณสั่งให้เขาทำอะไร มีค่าตัวสูงถึงสิบล้านดอลล่าห์เชียวหรือ?!”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวเรียบๆ “ในสายตาของคุณแม้ว่าเงินสิบล้านดอลล่าห์จะเป็นเงินจำนวนมาก แต่สำหรับฉันแล้ว เงินสิบล้านดอลล่าห์ยังไม่เทียบเท่ากับเงินหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่ตระกูลเฟ่ยเอาไปชดใช้ผู้เสียหายเลย อีกอย่างเรื่องเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก ถ้าไม่ระวังอาจจะต้องแลกด้วยชีวิต”
ต่อจากนั้น เฟ่ยเข่อซินก็อธิบายต่อไปว่า “อีกอย่าง เรื่องที่เฟ่ยฮ่าวหยางก่อเรื่องวุ่นวายก็เลื่องลือไปทั่ว คุณเองก็คงได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ว่าตระกูลเฟ่ยต้องพยายามชดใช้ผู้เสียหายเป็นเงินหลายพันล้านดอลล่าห์ ดังนั้นเงินสิบล้านดอลล่าห์จึงไม่ต่างอะไรกับเงินเพียงหยิบมือเดียว”
ระหว่างที่กล่าว เธอก็มองไปที่เฉินจุนเหมย รวมทั้งหลี่หยวนหยวนที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “อันที่จริงสิ่งที่ฉันอยากบอกก็คือ พวกคุณไม่ควรต่อว่าพล.ต.ท.หลี่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกคุณเอาไว้ก่อน เพราะว่างานที่ฉันบอกให้เขาช่วยเป็นเรื่องที่ไม่เพียงซับซ้อนเท่านั้น แต่อันตรายมากด้วย หากพลาดไปเพียงนิดเดียว อาจจะต้องเอาชีวิตไปทิ้ง”
“ส่วนพล.ต.ท.นั้นเออรี่ไปแล้ว และวางแผนจะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ไม่มีความจำเป็นต้องเอาตัวเข้ามาเสี่ยง แต่เป็นเพราะว่าเงินสิบล้านดอลล่าห์นี้เองที่ทำให้เขาหวั่นไหว เขาเลยยอมรับภารกิจนี้ อีกอย่างที่เขาทำเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการไขคดี และไม่ใช่เพราะว่าต้องการหาเงินให้ตัวเอง แต่เป็นเพราะว่าเขาต้องการทำเพื่อลูกในท้องของลูกสาว”