ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4828 พูดออกมาอย่างอาจหาญ 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4828 พูดออกมาอย่างอาจหาญ 2
นางาฮิโกะ อิโตะอดไม่ได้ที่จะถามออกมา: “คุณเย่ มีอะไรที่พวกเราจำเป็นจะต้องระวังไหม?”
“ไม่มี” เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ในอ่างอาบน้ำได้เตรียมโคลนเสริมความงามปริมาณมากไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองท่านนอนลงไปแล้วก็แค่หลับตาทำสมาธิผ่อนคลายเท่านั้น ที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลอะไร”
“ได้!” นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้าอย่างหนักหน่วงแล้วกล่าวว่า: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ขอถ่วงเวลาของคุณเย่มากไปกว่านี้แล้ว ตอนนี้พวกเราก็จะไปเริ่มกันเดี๋ยวนี้แหละ!”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ใช่แล้วคุณอิโตะ ในเมื่อวันนี้เป็นวันเกิดของคุณ งั้นก็อย่ารังเกียจที่จะขอพรวันเกิดเสียหน่อยเถิด”
“อันนี้……” นางาฮิโกะ อิโตะกล่าวด้วยท่าทีที่ทำตัวไม่ถูก: “ตอนที่มาบนเครื่องบิน นานาโกะได้ให้กระผมขอพรไปแล้ว……”
เย่เฉินกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม: “ขอถามได้ไหมว่าคุณอิโตะขอพรอะไรไป?”
นางาฮิโกะ อิโตะหัวเราะออกมาอย่างเก้อเขินแล้วกล่าว: “พูดตามตรงกระผมตอนนั้นไม่ได้ขอพร เพียงแต่ว่าก็ทำตามพิธีการขั้นตอนไปเท่านั้นเอง”
อิโตะ นานาโกะที่อยู่ด้านข้างได้ฟังดังนั้นจู่ๆ ก็กล่าวออกมาด้วยความโมโหเล็กน้อย: “โอโต้ซัง! ทำไมท่านแม้แต่ตัวเองก็ยังถูไถไปได้กันเนี่ย!”
“พ่อมีเหรอ?” นางาฮิโกะ อิโตะกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “การขอพรเรื่องแบบนี้เดิมทีก็เป็นการทำตามขั้นตอนไปเท่านั้นไม่ใช่เหรอ! ผมอยากจะขอพรให้โลกสงบสุข งั้นก็ต้องถามคนอเมริกาว่าเห็นด้วยหรือเปล่าน่ะ? พวกเขาทำสงครามกันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แม้ว่าผมจะขอพรไปก็ไม่อาจจะเป็นจริงขึ้นมาได้หรอก…..”
อิโตะ นานาโกะกล่าวด้วยท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก: “โอโต้ซัง นี่ท่านไม่ใช่กำลังเถียงข้างๆ คูๆ เหรอ……ใครกันที่จะขอพรที่ไม่อาจเป็นความจริงเช่นนี้ได้ในตอนวันเกิดของตน……ท่านก็ไม่อาจขอพรที่เกี่ยวข้องกับตนเองสักอย่างหนึ่งบ้างเหรอ? อย่างเช่นสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาวมีความสุขอะไรทำนองนี้……”
นางาฮิโกะ อิโตะมองมาที่นานาโกะครู่หนึ่ง แล้วก็มองมายังเย่เฉินครู่หนึ่ง ก็อดที่จะกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจไม่ได้ว่า: “พ่ออยากจะขอพรให้ลูกแต่งออกไปวันพรุ่งนี้เลย แต่นั่นก็ต้องถามคุณเย่ก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่?”
คำพูดของนางาฮิโกะ อิโตะหนึ่งประโยคทำเอานานาโกะและเย่เฉินต่างกล่าวออกมาอย่างตั้งรับไม่ทันเลย
โดยเฉพาะนานาโกะ ทั้งเขินอายทั้งยืนขึ้น โดมโหจนกระทืบเท้าออกมา: “โอโต้ซัง! ท่าน……ท่าน……ท่าน…..”
นางาฮิโกะ อิโตะเห็นว่าเธอดูร้อนรนจนพูดอะไรไม่ออก ก็เลยจงใจกล่าวถามว่า: “พ่อทำไมเหรอ? ไม่ใช่ว่าเธอให้พ่อขอพรเหรอ? พ่อก็มีเธอเป็นเพียงลูกสาวคนเดียวนี่แหละ พ่อก็หวังว่าลูกจะแต่งออกไปสร้างครอบครัวเร็วๆ แน่นอนอยู่แล้ว!”
อิโตะ นานาโกะกล่าวออกมาด้วยความโมโหอย่างมากอยู่: “ท่านก็สามารถขอพรหวังว่าให้ข้าแต่งออกไปเร็วๆ หน่อยได้ แต่ทำไมท่านจะต้องกล่าวถึงเย่เฉินซังด้วยเล่า!”
นางาฮิโกะ อิโตะไม่เป็นไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วก็ชี้ไปทางเย่เฉินแล้วย้อนถามหล่อน: “ทำไม? หรือว่าลูกไม่อยากแต่งกับคุณเย่เหรอ?”
อิโตะ นานาโกะยิ่งร้อนใจใหญ่ เอ่ยปากกล่าวออกมาอย่างไม่เสแสร้ง: “ข้าย่อมอยากแน่นอน……”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็รู้ตัวได้ว่าตนเองพูดอะไรพลาดไป จึงรีบกล่าวออกมาอีกว่า: “ไม่ใช่……โอโต้ซังเพียงแค่หวังว่าฉันจะแต่งออกไปเร็วหน่อย งั้นก็ขอพรมาเลยว่าให้ฉันได้แต่งไปเร็วหน่อยก็พอแล้ว สำหรับแต่งกับใครนั้น นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะต้องมาเป็นกังวลแล้วล่ะ……”
นางาฮิโกะ อิโตะกางมือออกแล้วกล่าว: “หากพื้นฐานหลักการของการขอพรคือการเอาสิ่งที่ตัวเองต้องการบอกให้พระเจ้ารับรู้ งั้นก็ต้องบอกให้ชัดเจนหน่อยว่าเราต้องการอะไรกันแน่ พ่อหวังว่าลูกจะแต่งออกไป แต่ไม่ใช่ว่าหวังว่าจะให้ลูกแต่งกับใครหน้าไหนก็ได้ตามใจชอบ แต่เป็นการหวังว่าลูกจะสามารถแต่งไปอยู่กับคนที่ลูกรักได้คนหนึ่ง และเป็นคนที่พ่อชื่นชมด้วย ดังนั้นพ่อต้องบอกกับพระเจ้าให้ชัดเจน หวังว่าลูกจะแต่งกับคุณเย่ได้ มิเช่นนั้นหากเกิดพระเจ้าอายุมากแล้วเกิดสายตาพร่ามัวขึ้นมา แล้วชอบยัดคนมั่วซั่วมาให้ งั้นก็กลายเป็นว่าพ่อทำร้ายเจ้าเอาได้ไม่ใช่เหรอ?”
ทั้งเนื้อทั้งตัวของอิโตะ นานาโกะขนลุกซู่ไปหมดอย่างทำตัวไม่ถูกเลย ได้เพียงกล่าวอย่างไม่มีทางเลี่ยงว่า: “โอโต้ซัง ขอให้ท่านสิ้นสุดเพียงเท่านี้เถอะ อย่าได้พูดอีกเลย……”