ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4832 บากะ! 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4832 บากะ! 1
“ก็ได้……” เมื่อเห็นว่าเย่เฉินไม่ยินยอมจะเปิดเผย อิโตะ นานาโกะจึงทำได้เพียงค่อยๆ พยักหน้าแล้วกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม: “ฝีมือทางการแพทย์ของเย่เฉินซังเก่งกาจมาก ครั้งที่แล้วข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วร่างกายของโอโต้ซังก็อ่อนแอเป็นอย่างมากหลังจากการผ่าตัด เป็นเย่เฉินทั้งนั้นที่รักษาให้ดีขึ้น เชื่อว่าครั้งนี้ก็ย่อมให้โอโต้ซังและทานากะซังได้รับประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน!”
เอมิ อีโตะ ท่านอาของอิโตะ นานาโกะที่อยู่ด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา: “หวังว่าต่อไปโอนิจังจะสามารถดึงสติกลับมาได้ ทุกวันล้วนมีสภาพท่าทีราวกับคนตาย ก็ทำให้คนไม่มีทางเลี่ยงจริงๆ อะนะ……วันนี้เขาอายุเพียงแค่ 50 ปีเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับโอโต้ซังที่อายุ 70 ปีเมื่อตอนนั้นยังดูแก่กว่าอย่างเห็นได้ชัดเลย”
อิโตะ นานาโกะหวนนึกคิดกลับไปถึงสภาพของท่านปู่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างเห็นด้วย: “ตอนที่โอนิจังยังมีชีวิตอยู่ก็ดูมีความสุขจริงๆ อะนะ……ดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าโอโต้ซังในตอนนี้เยอะเลย”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น อิโตะ นานาโกะก็รีบกล่าวกับท่านอาอีกว่า: “แต่ว่าท่านอย่าพูดคำพูดเช่นนี้ต่อหน้าโอโต้ซังเด็ดขาดเชียวนะ คนอย่างเขาคนนี้ที่จริงก็เป็นคนที่รักหน้าตายิ่งกว่าอะไรเลยล่ะ……”
เอมิ อีโตะกล่าวพร้อมกับพยักหน้า: “อันนั้นแน่นอนอยู่แล้ว……นิสัยแย่ๆ เช่นนั้นของเขาในตอนนี้ ฉันก็ไม่กล้าจะไปยั่วโมโหเขาหรอก……”
และในตอนนี้เอง ทั้งสงอคนที่หใดสติไปในอ่างอาบน้ำต่างไม่ได้รับรู้ถึงองค์ประกอบร่างกายช่วงขาทั้งสองข้างของตนเลย ได้เกิดการซ่อมแซมฟื้นฟูอย่างรวดเร็วราวกับเป็นการพิมพ์ภาพสามมิติก็ว่าได้เริ่มจากบริเวณปากบาดแผลที่ถูกตัดขาดนั้น
เพียงแต่ว่าพลังงานใหม่ที่ก่อใหม่ออกมาจากขาที่ถูกตัดออกเช่นนี้นั้นมาจากฤทธิ์ยาในยาก่อใหม่และปราณทิพย์ ราวกับว่าไม่ได้เกี่ยวพันใดๆ กับร่างกายของนางาฮิโกะ อิโตะเลย
พ่อบ้านของตระกูลอิโตะเริ่มค้นพบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เขาพบว่า แม้ว่านางาฮิโกะ อิโตะนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ระดับของเหลวของโคลนเสริมความงามพวกนั้นในอ่างอาบน้ำดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เขายังรู้สึกว่าตนเองตาลายไป ก็เลยจ้องไปยังผิวน้ำอย่างละเอียดอยู่นานมาก เพื่อให้มั่นใจว่าระดับของเหลวในอ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นไม่หยุดจริงๆ
นี่ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาบ้างในทันที เพราะว่าเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าภายใต้สภาวะที่คนไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่นิด ระดับของเหลวของโคลนทำไมถึงเพิ่มขึ้นไม่หยุดเลย?
ในเวลาชั่วพริบตา เขาอยากเข้าไปใกล้อีกหน่อยเพื่อดูให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรกันแน่ แต่ว่าพอนึกถึงสิ่งที่เย่เฉินได้กำชับเอาไว้ ก็เลยลังเลไปชั่วขณะ ก็เลยปล่อยความคิดนั้นทิ้งไปเสีย
เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ว่าสาเหตุที่ระดับของเหลวเพิ่มขึ้น เป็นเพราะว่าขาทั้งสองขาของนางาฮิโกะ อิโตะกำลังสมบูรณ์แบบไม่หยุด ขาทั้งสองข้างที่อยู่ในโคลนนั้นก็ขยายออกไม่หยุด จึงทำให้ระดับของเหลวเพิ่มขึ้นไม่หยุด
กลับมาดูอีกด้านหนึ่ง หงห้าก็ไม่ได้ประหลาดใจเช่นนั้น
เขาก็เดาออกว่าเย่เฉินประมาณว่าจะช่วยให้ขาที่ขาดไปของเขาและนางาฮิโกะ อิโตะงอกออกมาใหม่ ดังนั้นเมื่อเขาเห็นระดับของเหลวที่อยู่ในอ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นไม่หยุด เขาก็เลยมั่นใจได้ในทันทีว่าตนเองได้เดาถูกแล้ว
สำหรับเย่เฉิน หงห้าก็ไม่ได้แปลกใจกับความประหลาดนี้มานานแล้ว
อย่าว่าแต่เขาเองก็เคยอยู่ที่ตำหนักยมบาลถูกเย่เฉินลากลับไป แค่เห็นเย่เฉินอัญเชิญสายฟ้าด้วยตาตัวเอง เขาก็เห็นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
แต่ที่ตกตะลึงที่สุดคือตอนนั้นที่อยู่ภูเขาฉางไบ เย่เฉินคนเดียวต่อสู้กับราชาบู๊ทั้งแปด สายฟ้าฟาดนั้นดังมา แสงกะพริบนั้นที่มาในตอนกลางดึกทำให้ตีนเขาของภูเขาฉางไบทั้งลูกสว่างราวกับช่วงกลางวันเลย!
ในนาทีนั้นเขาก็รู้แล้วว่าไม่ว่าเย่เฉินทาเรื่องอะไรที่มหัศจรรย์ออกมา นั่นก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน
ดังนั้นแล้วเขาที่ไม่ได้แปลกใจกับความประหลาดนี้ จุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวนอย่างสบายใจ มองดูทานากะ โคอิจิที่สลบไม่ได้สติไปพลาง แล้วก็สูบเอาควันบุหรี่เข้าไปแล้วพ่นออกมา จากนั้นบ่นพึมพำด้วยเสียงเบาๆ ว่า: “เฮ้ย โชคชะตาของเจ้าญี่ปุ่นน้อยอย่างคุณนี่มันไม่รู้จะพูดยังไงดี ขาทั้งสองข้างก็ขาดไปไม่มีแล้ว ตอนนี้ยังมีโอกาสที่สามารถงอกออกมาใหม่ได้ นี่ก็อาจเป็นพรที่ได้มาเพราะการกราบไหว้อาจารย์เย่ทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของคุณหนูนานาโกะ เรื่องดีๆ แบบนี้จะมาตกถึงคุณได้ที่ไหนกันเล่า”