ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4840 เป็นของที่เย่เฉินซังมอบให้คุณเหรอ? 3
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4840 เป็นของที่เย่เฉินซังมอบให้คุณเหรอ? 3
หากไม่ใส่กางเกงละก็ แค่มองก็สามารถเห็นข้อต่อโลหะไทเทเนียมสี่ชิ้นที่อยู่บนขาเทียมสองข้างนั้นได้
แต่ว่า อิโตะ นานาโกะได้พบว่า “ขาเทียม” ของท่านพ่อในตอนนี้กลับทำได้อย่างเหมือนจริงมาก แม้แต่ในส่วนข้อต่อที่เป็นอะไหล่โลหะเดิม ก็เปลี่ยนไปเป็นวัถุดิบที่เหมือนกับกล้ามเนื้อของคนแบบนั้นก็ว่าได้ มันมองไม่ออกว่าเป็นของปลอมเลย ราวกับว่ากลมกลืนเป็นธรรมชาติไปเลย
เอมิ อีโตะที่อยู่ด้านข้างก็มองไม่ออกถึงความแตกต่างเช่นกัน จึงกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า: “โอนิจัง! ขาเทียมที่เหมือนจริงเช่นนี้ มองไม่ออกเลยว่ามีร่องรอยของขาเทียมตรงไหน ราวกับว่าทำของปลอมออกมาได้เหมือนจริงมาก……”
อิโตะ นานาโกะก็อดที่จะกล่าวออกมาอย่างประหลาดใจไม่ได้: “โอโต้ซัง……ขาเทียมใหม่คู่นี้ของท่าน……มันช่างเหมือนของจริงมากๆ เลย……หากคนแปลกหน้าได้เห็นจะต้องเดาไม่ออกแน่นอนว่าเป็นของปลอม……มันช่างไม่มีส่วนบกพร่องเลย ดูจะทนทานมาก……นี่……ขาเทียมที่ล้ำสมัยเช่นนี้ เป็นของที่เย่เฉินซังมอบให้ท่านใช่ไหม?”
นางาฮิโกะ อิโตะมองดูลูกสาวและน้องสาว ตาแดงแต่ใจเบิกบานและกล่าวอย่างจริงจังว่า: “ขาคู่นี้ที่จริงแล้วเป็นคุณเย่ที่มอบให้พ่อเอง”
ขณะที่พูดอยู่ เขาก็กล่าวออกมาอย่างจริงจังอย่างมากหนึ่งประโยค: “เพียงแต่ว่า……นี่ไม่ใช่ขาเทียมอะไรหรอก……นี่……นี่ก็คือ……นี่ก็คือขาทั้งสองข้างของพ่อเอง! งอกออกมาจากร่างของพ่อ เป็นขาของจริง!”
คำพูดของนางาฮิโกะ อิโตะ ทำให้เอมิ อีโตะและอิโตะ นานาโกะฟังแล้วตาถลึงอ้าปากค้างไปเลย!
อาหลานสองคนสบตากัน ประมาณว่าเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อไปทั้งหน้า
นางาฮิโกะ อิโตะเห็นท่าทางที่ตาถลึงลิ้นจุกปากของทั้งสองคนแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะยกขาขึ้นสูงสองสามครั้งอยู่ที่เดิม แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า: “เอมิ นานาโกะ พวกเธอดูสิ! ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเธอนะ ขาทั้งสองข้างนี้ไม่ใช่ขาเทียมจริงๆ เป็นขาของฉันเอง!”
เอมิ อีโตะจู่ๆ ก็อุทานออกมา: “นานิ?! โอนิจัง! นี่……นี่ที่แท้แล้วทำได้ยังไงเนี่ย?!”
อิโตะ นานาโกะที่อึ้งอยู่ด้านข้างจู่ๆ ก็ดึงสติกลับมาได้ รีบก้าวไปที่ด้านหน้าของท่านพ่อ แล้วกล่าวถามอย่างตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบมิได้ว่า: “โอโต้ซัง! หนูไม่ใช่ฝันไปจริงๆ ใช่ไหม? ชาทั้งสองข้างของท่าน……ขาทั้งสองข้างของท่านฟื้นฟูแล้วจริงๆ งั้นเหรอ?!”
ดวงตาทั้งสองข้างของนางาฮิโกะ อิโตะเอ่อล้นน้ำตาที่ร้อนรุ่มออกมาอีกครั้ง แล้วพยักหน้าไม่หยุดพร้อมกับกล่าวออกมาว่า: “นี่เป็นเรื่องจริงนานาโกะ! ขาของโอโต้ซังฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมแล้วจริงๆ!”
ทันใดนั้นอิโตะ นานาโกะก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ความตระหนักของเธอหันตัวกลับไปมองไปยังเย่เฉินที่อยู่ไม่ไกลทางด้านหลัง แล้วกล่าวเสียงสะอื้นว่า: “เย่เฉินซัง……เป็นคุณที่รักษาขาของโอโต้ซังให้หายดีใช่ไหม?!”
เย่เฉินค่อยๆ ยิ้มออกมาแล้วพยักหน้าเบาๆ
น้ำตาของอิโตะ นานาโกะจู่ๆ ก็เอ่อรอบเบ้าตาและไหลออกมา ในขณะนั้นจู่ๆ มือทั้งสองข้างของเธอก็คว้าเอาชายชุดกิโมโน ก้าวเท้าวิ่งพุ่งไปยังเย่เฉิน และในตอนที่ใกล้จะวิ่งไปถึงด้านหน้าของเย่เฉินก็กางแขนออกทั้งสองข้างแล้วพุ่งซุกหัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
นานาโกะในตอนนี้ได้แสดงความซาบซึ้งออกมาโดยไม่ได้ใช้คำพูดใดๆ เลยที่บ่งบอกความรู้สึกไปต่อเย่เฉิน
เธอในตอนนี้เพียงแค่คิดว่าจะใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมดในร่างกายกอดรัดเย่เฉินเอาไว้ให้แน่น
และเย่เฉินรับรู้ถึงความอ่อนโยนนั้นและร่างที่แฝงไว้ด้วยความหอมหวนของนานาโกะ ในใจก็เกิดเป็นความรักเห็นใจขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
ก็ราวกับที่เย่เฉินได้กล่าวไว้กับนางาฮิโกะ อิโตะก่อนหน้านี้ก็ว่าได้ ว่าที่ตนช่วนเขาทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อนานาโกะ เพื่อได้เห็นท่าทางที่ตื่นเต้นดีใจเช่นนี้ของนานาโกะ
สำหรับร่างของนางาฮิโกะ อิโตะก็เพียงแค่ใช้มาเป็นพาหะในการที่ทำให้อิโตะ นานาโกะดีใจเท่านั้นเอง
อิโตะ นานาโกะโอบกอดเย่เฉินเอาไว้แน่น เอาใบหน้าซุกไว้ที่ด้านหน้าหน้าอกของเขา แม้แต่ประโยคเดียวก็ไม่พูด
คำพูดมากมายหลายพันหลายหมื่นประโยคติดอยู่ในลำคอ หากในทางกลับกันก็เลยทำให้เธอพูดไม่ออก เธอได้เพียงแค่โอบกอดเย่เฉินเอาไว้แน่นๆ เช่นนี้ นานอีกนิดนึง จากนั้นก็นานอีกนิด
นานาโกะที่ซุกอยู่ในอ้อมอกของเย่เฉิน ในปากราวกับว่าบ่นพึมพำกับตัวเองก็ว่าได้ ใช้เสียงที่ดังราวกับยุงก็ไม่ปานค่อยๆ พึมพำออกมาหนึ่งคำว่า: “ขอบคุณนะ เย่เฉินซัง……”