ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4844 ภาพการพบปะกันสี่แบบ 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4844 ภาพการพบปะกันสี่แบบ 2
เย่เฉินถามเธอว่า: “ทำไมทั้งหมดต้องเป็นสถานที่ที่ญี่ปุ่นด้วย? ดอกซากุระ ริมฝั่งทะเลและใบไม้แดง หัวเซี่ยก็มีเช่นกันนะ อีกอย่างเพียงแค่เลือกถูกที่ถูกเวลา ไม่ด้อยไปกว่าทิวทัศน์ที่ญี่ปุ่นแน่นอน”
“ฉันรู้……” อิโตะ นานาโกะกล่าวอย่างจริงจังว่า: “เนื่องจากที่ฉันอยากจะไปสถานที่พวกนั้นไม่ใช่คิดไปเองว่าดอกซากุระ ริมฝั่งทะเล ใบไม้แดงทั้งหมดนี้มีเพียงที่ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดหรอก……เพียงแต่ว่าหิมะตกหนักในเกียวโต ดอกซากุระในฮิโรซากิ ชายฝั่งทะเลโชนัน และก็ยังมีใบไม้แดงในฮอกไกโดด้วย ทั้งหมดนี้ต่างมีความทรงจำที่ประทับอย่างลึกซึ้งแก่ฉันมาก เมื่อตอนที่ฉันไปเยือนในสถานที่พวกนั้นตามฤดูกาลที่เหมาะสม ชื่นชมวิวทิวทัศน์พวกนั้นในใจฉันก็เคยอธิษฐานไว้ หวังว่าในอนาคตจะสามารถกลับไปยังทิวทัศน์พวกนั้นด้วยกันกับคนที่ฉันรักอีกครั้งหนึ่ง……นี่ก็เป็นเหมือนกับความปรารถนาและความยึดติดเล็กๆ อันหนึ่งที่อยู่ในใจ…… ไอรีนโนเวล”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นอิโตะ นานาโกะก็กล่าวออกมาอย่างรีบร้อนว่า: “แต่ว่าหากเย่เฉินซังอยากจะพาฉันชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงามเหล่านี้ในหัวเซี่ย ฉันก๋ไม่ขัดข้องใดๆ นะ!”
ผู้หญิงที่สารภาพต่อหน้าเย่เฉินมาก่อนมีเยอะแยะมากมาย แต่การสารภาพของอิโตะ นานาโกะกลับทำให้เย่เฉินมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันอย่างหนึ่งขึ้นมา
การสารภาพของคนอื่นๆ ทำให้เย่เฉินแอบปฏิเสธอยู่ในความรู้สึกลึกๆ หรือไม่ก็อยากจะเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง แต่การสารภาพของอิโตะ นานาโกะกลับมักจะทำให้ส่วนลึกที่อยู่ในใจของเขาอดที่จะตกปากรับคำออกมาไม่ได้
ดังนั้นเมื่ออิโตะ นานาโกะกล่าวขึ้นมาว่าตอนที่เธอเคยอธิษฐานไว้หวังว่าจะสามารถหวนกลับไปที่ทิวทัศน์พวกนั้นอีกครั้งกับคนที่รักด้วยกัน เย่เฉินไม่อาจหาซึ่งเหตุผลใดๆ ที่จะมาปฏิเสธได้เลย
ดังนั้นเขากล่าวอย่างมั่นใจว่า: “ไม่ต้องรีบร้อน ในเมื่อในใจของเธอได้คิดเอาไว้แล้วงั้นก็ทำตามสิ่งที่เธอคิดไว้เถอะ”
อิโตะ นานาโกะได้ฟังคำตอบของเย่เฉินก็เบอกบานใจอย่างเหลือล้น รอบขอบตามีความเปียกชื้นอยู่บ้างเล็กน้อย
เธอใช้กอดแขนของเย่เฉินไปไว้แน่นแล้วกล่าวอีกว่า: “ใช่แล้วล่ะเย่เฉินซัง เมื่อครู่ฉันบอกว่าฉันมีเพียงสถานการณ์เดียวที่จะสวมใส่ชุดกิโมโนออกจากบ้าน ก็คือตอนที่ดอกซากุระกำลังเบ่งบาน ก็จะใส่ชุดกิโมโนออกมาชื่นชมซากุระ ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าหากคุณมาญี่ปุ่น ฉันก็ยังใส่ชุดนี้ชมซากุระเป็นเพื่อนคุณ!”
เย่เฉินพยักหน้าครู่หนึ่งแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “งั้นขอกล่าวไว้ก่อนว่า ถึงตอนนั้นผมไม่ใส่ชุดตามธรรมเนียมของพวกคุณนะ”
อิโตะ นานาโกะยิ้มออกมาอย่างจริงใจแล้วกล่าวว่า: “ฉันเข้าใจ หากฉันต่อไปในอนาคตฉันจะแต่งกับคนหัวเซี่ยคนหนึ่ง ฉันก็ไม่ให้สามีของฉันใส่ชุดตามธรรมเนียมของพวกเราหรอก เรื่องของธรรมเนียมแบบนี้แค่รู้อยู่แก่ใจตนเองก็พอแล้ว อย่าบังคับคนอื่น”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ก็เลยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอีกว่า: “อันที่จริงแล้วหากในอนาคตฉันแต่งไปยังหัวเซี่ย งั้นฉันก็ยิ่งยินดีที่จะใส่ชุดตามธรรมเนียมของหัวเซี่ยแต่งออกไปมากกว่า! เย่เฉินซัง คุณคิดว่าฉันใส่ชุดหลงเฟิ่งหรือว่าชุดซิ่วเหอของหัวเซี่ยจะดูดีกว่าไหม?”
เย่เฉินพยักหน้า: “จะต้องดูดีอย่างแน่นอน”
อิโตะ นานาโกะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก็เลยเอ่ยปากกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจว่า: “งั้นเอาอย่างนี้นะเย่เฉินซัง ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าคุณมาญี่ปุ่น ฉันจะใส่ชุดซิ่วเหอชมซากุระเป็นเพื่อนคุณ!”
“ใส่ชุดซิ่วเหอชมซากุระเป็นเพื่อนผมเหรอ”
เย่เฉินได้ยินคำพูดของนานาโกะ ในใจก็อดที่จะตั้งตารอไม่ได้ขึ้นมา
นานาโกะในชุดซิ่วเหอสีแดงทั้งชุด แล้วก็ควบคู่เข้ากับดอกซากุระสีชมพูขาวที่ผลิบานไปทั่วอีก แม้ว่าภาพนั้นจะยังไม่เห็นก็ตาม แต่คิดไปแล้วก็จะต้องงดงามอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาก็เลยกล่าวกับนานาโกะว่า: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ผมจะไปญี่ปุ่นสักรอบอย่างแน่นอน”
อิโตะ นานาโกะกล่าวออกมาอย่างยินดียิ่ง: “จริงเหรอ? งั้นพวกเราตกลงกันไว้แน่นอนแล้วนะ! ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าฉันจะรอคุณอยู่ที่ญี่ปุ่น!”
ทั้งสองคนได้นัดหมายกันไว้เรียบร้อยแล้ว นานาโกะอารมณ์ดีจนถึงขั้นที่ไม่สามารถพรรณนาออกมาเป็นคำพูดไปเลย เธอเกาะแขนของเย่เฉินไว้อย่างอดใจไว้ไม่ได้ แล้วก็ยังเป็นฝ่ายเริ่มประสานนิ้วมือกับเขาอีก กล่าวอยู่ข้างกายของเขาด้วยเสียงเบาๆ ว่า: “เย่เฉินซัง วันนี้ฉันช่างมีความสุขจริงๆ เลย ที่จริงวันนี้ก็เป็นวันเกิดของโอโต้ซัง คิดไม่ถึงว่าฉันยังสามารถมาพบเจอคุณได้ที่นครนิวยอร์กอีก และที่สำคัญก็คือคิดไม่ถึงว่าโอโต้ซังจะฟื้นฟูกลับมาดังเดิม สิ่งนี้สำหรับเขาแล้วมันช่างมีความหมายลึกซึ้งมากมายยิ่งนัก……”