ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4847 ภารกิจลับ 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4847 ภารกิจลับ 1
ทานากะ โคอิจิรีบกล่าวออกมาอย่างนอบน้อมว่า: “รับคำสั่งครับท่าน”
อิโตะ นานาโกะอดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือนว่า: “โอโต้ซัง เพิ่งจะฟื้นกลับคืนมา อย่าออกกำลังกายจนหักโหมเกินไปดีกว่า”
นางาฮิโกะ อิโตะโบกมือขึ้นครู่หนึ่งแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า: “ตามคำสั่งของคุณเย่ หลังจากกลับไปญี่ปุ่น พ่อก็ไม่สามารถวิ่งจ๊อกกิ้งข้างนอกได้อย่างตามอำเภอใจ อาศัยตอนอยู่ที่อเมริกาแล้วไม่มีใครรู้จักพ่อ พยายามเดินเยอะหน่อย วิ่งเยอะหน่อย หลังจากกลับไปก็ต้องแสร้งทำท่าทางของคนพิการคนหนึ่งให้ทุกคนดูดีกว่า”
พออิโตะ นานาโกะได้ฟังคำพูดนี้ก็เลยค่อยๆ พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็ไม่ได้ยืนหยัดในความคิดตนอีก
แต่ทว่าทันใดนั้นอิโตะ นานาโกะก็คิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วเอ่ยปากพูดอย่างคาดหวังไปทั้งใบหน้าว่า: “โอโต้ซัง ในเมื่อพ่อชอบความรู้สึกที่ไม่มีคนรู้จักพ่อเช่นนี้ งั้นพวกเราเป็นไปได้ก็อยู่ที่นครนิวยอร์กนานหน่อยเถอะ”
“ได้สิ!” นางาฮิโกะ อิโตะรับปากออกมาอย่างไม่เสแสร้ง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “พอกลับญี่ปุ่นก็ได้เพียงแค่นึกถึงการใช้ชีวิตแบบสันโดษ คิดไปแล้วก็ไม่ได้ดั่งใจเสียเท่าไรนัก หากสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระหลายวันที่อเมริกาได้ก็ไม่เลว!”
ในใจของอิโตะ นานาโกะก็มีความสุขมากเช่นกัน อันที่จริงแล้วเธอก็อยากจะอยู่พักที่นครนิวยอร์กหลายวันสักหน่อย ยังไงเย่เฉินก็อยู่ที่นี่ ตนเองอยู่ที่นี่ก็สามารถมีเวลาอยู่ด้วยกันกับเขาเยอะขึ้นมาบ้าง
ดังนั้นเธอก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะถามเย่เฉินว่า: “เย่เฉินซัง คุณจะพักอยู่ที่นครนิวยอร์กนานแค่ไหน?”
คำถามของอิโตะ นานาโกะทำให้เย่เฉินไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดีไปชั่วขณะ
อันที่จริงแล้ว ธุระที่เขาต้องทำนั้นโดยพื้นฐานแล้วก็ทำไปเกือบจะเรียบร้อยแล้ว
เขาได้จัดการเหมยอวี้เจินและพวกพ้องส่วนใหญ่ของเธอไปแล้ว และกลุ่มอาชญากรทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังของเธอ
อีกอย่าง จงชิวฮวาที่หนีไปผู้นั้นได้ถูกคนของสำนักว่านหลงสะกดรอยตามอย่างใหล้ชิดอยู่แล้ว เพียงแค่จับเธอกลับมาได้ แม่ยายหม่าหลันก็สามารถล้างมลทิน และกลับเป็นอิสระได้เสียที
เนื่องจากไม่ได้ให้คนของสำนักว่านหลงรีบจับตัวจงชิวฮวากลับมา ก็เป็นเพราะว่าเย่เฉินต้องการจะช่วยชีวิตของหลี่ญ่าหลินให้ฟื้นคืนมาได้เสียก่อน แล้วค่อยรักษานางาฮิโกะ อิโตะ ทานากะ โคอิจิ และเหออิงซิ่วให้หาย
ตอนนี้หลี่ญ่าหลินก็ได้กลับไปเจอกับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว นางาฮิโกะ อิโตะและทานากะ โคอิจินายบ่าวทั้งสองคนก็ได้มีชีวิตชีวาขึ้นมา ตอนนี้ที่เหลืออยู่ก็คงเหลือเพียงเหออิงซิ่วเพียงผู้เดียว
และหนึ่งชั่วโมงกว่าต่อมา เหออิงซิ่วก็จะมาถึงนครนิวยอร์กแล้ว ดังนั้นหากตามหลักเหตุผลพรุ่งนี้พอเช้า เย่เฉินก็สามารถให้คนของสำนักว่านหลงพาตัวจงชิวฮวามาที่นครนิวยอร์กได้ เพียงแค่ผู้หญิงคนนี้กลับมาในคดีได้ แม่ยายของเย่เฉินที่เป็นที่รู้จักในนามของ ‘ผู้ดุร้ายแห่งเบดฟอร์ดฮิลส์’ ผู้นั้นก็จะสามารถออกมาจากคุกได้
แต่ว่าเมื่อเห็นอิโตะ นานาโกะมีความตั้งใจที่จะอยู่ที่นครนิวยอร์กหลายวัน ในใจของเย่เฉินก็แอบลังเลอยู่บ้างเล็กน้อย ก็เลยกล่าวออกมาว่า: “ผมน่าจะยังจะต้องอยู่ที่นครนิวยอร์กอีกสองสามวัน รอผมจัดการธุระของแม่ยายของผมเสียเรียบร้อยเสียก่อน ก็จะกลับพรอวิเดนซ์”
อิโตะ นานาโกะพยักหน้าครู่หนึ่ง แล้วกล่าวออกมาอย่างไม่เสแสร้งว่า: “งั้นพวกเราก็อยู่ที่นครนิวยอร์กสองสามวัน รอตอนที่เย่เฉินซังจากนครนิวยอร์กไปแล้ว พวกเราค่อยกลับญี่ปุ่น
“ได้สิ” เย่เฉินรับคำอย่างสบายใจ
ตอนที่ทั้งสี่คนกลับมาถึงโรงแรม โต๊ะงานเลี้ยงที่หรูหราได้เตรียมการไว้พร้อมแล้วที่ห้องเพรสซิเดนสูทของเย่เฉิน
เนื่องจากเป็นวันเกิดของนางาฮิโกะ อิโตะ เย่เฉินก็เป็นเพราะว่าเห็นแก่หน้าของอิโตะ นานาโกะ จึงให้คนเตรียมงานเลี้ยงงานนี้ขึ้น ดังนั้นก็เลยไม่ได้เชิญเฉินจื๋อข่าย หงห้าและซูรั่วหลีทั้งสามคนมาเข้าร่วมด้วย
อีกอย่าง เหออิงซิ่วท่านแม่ของซูรั่วหลีอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ให้หลังก็จะมาถึงที่นครนิวยอร์กแล้ว ตอนนี้ทั้งความคิดและจิตใจของเขาต่างจดจ่ออยู่กับตัวของท่านแม่ทั้งหมด
บนโต๊ะรับประทานอาหาร นางาฮิโกะ อิโตะนั่งอยู่ทางด้านขวามือของเย่เฉิน อิโตะ นานาโกะนั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของเย่เฉิน เอมิ อีโตะและทานากะ โคอิจินั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งหมดมีเพียง 5 คน ดังนั้นเห็นได้ชัดอยู่ว่าที่นั่งค่อนข้างจะหลวมๆ อยู่บ้าง