ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4856 ได้โปรดช่วยให้สมหวัง!2
“ขอแต่งงาน?”คิ้วเย่เฉินขมวดเล็กน้อย มองไปที่ซูโสว่เต้า พูดอย่างจริงจัง“คุณเป็นลูกชายคนโตของตระกูลซู ถึงคุณผู้หญิงเหอจะมีรั่วหลีกับคุณแล้ว แต่สถานะของเธอ ก็แตกต่างกับคุณราวฟ้ากับดิน ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นคนพิการ แน่นอนว่า ผมไม่ได้จะเลือกปฏิบัติกับคนพิการแต่อย่างใด แค่อยากจะถามคุณว่าได้คิดอย่างถี่ถ้วนถึงปัญหาช่องว่างระหว่างกันนี้ของพวกคุณแล้วจริงๆเหรอ ?”
ซูโสว่เต้าเห็นเย่เฉินคิ้วขมวด แล้วถามคำถามที่สงสัย คิดว่าเย่เฉินคงกำลังสงสัยตัวเอง ก็จึงพูดอย่างไม่ลังเล“คุณเย่ คุณไม่ต้องสงสัยถึงเจตนารมณ์นี้ของผม ผมอยากจะใช้ชีวิตที่เหลือนี้กับแม่ของรั่วหลีจริงๆ ผมรู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับผม และในช่วงนี้ความรู้สึกของผมเองก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้น และคุณก็วางใจได้ ที่ผมอยากแต่งงานกับเธอ ไม่ใช่เพื่ออิสรภาพอะไร หากเธอตอบตกลง หลังจากนั้นผมยินดีจะถูกเธอกักบริเวณอยู่ที่เมืองจินหลิง ขอแค่คุณให้เวลาอิสระกับผมแค่หนึ่งวัน หลังจากวันที่ได้อิสระนี้แล้ว ผมจะยังคงทำตามข้อตกลงก่อนหน้าทั้งหมดของคุณต่อไป”
พูดจบ ซูโสว่เต้าก็พูดอย่างจริงจังขึ้นมาอีกครั้ง“ส่วนปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างกันนั้น มันไม่ได้อยู่ในสายตาของผมเลย ตอนนี้ผมไม่ใช่คุณชายของตระกูลซูอีกต่อไปแล้ว และไม่ใช่ทายาทของตระกูลซูด้วย และแขนที่เสียไปนั้นของเธอก็เพราะช่วยชีวิตของผมเอาไว้ เป็นผมที่ติดหนี้เธอ ดังนั้นหากจะพูดเรื่องช่องว่างระหว่างกัน ก็คงเป็นเธอที่อยู่สูงและผมที่อยู่ต่ำ ระหว่างผมกับเธอ คือผมที่ไม่อาจเอื้อมถึงเธอเอง ”
เมื่อเย่เฉินเห็นความจริงใจนี้ของซูโสว่เต้า รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นเป็นความรู้สึกลึกๆในใจของเขา จู่ๆในใจก็รู้สึกปลงตก
อันที่จริง มองจากอีกมุมหนึ่ง ความรู้สึกของเย่เฉินที่มีต่อซูโสว่เต้า ก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจอยู่ไม่น้อย
เหนือสิ่งอื่นใด เขารักตู้ไห่ชิงมานานหลายปี แต่กลับไม่สามารถได้รับการรักตอบจากตู้ไห่ชิง ในส่วนนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจอย่างมาก
นอกจากนี้ คุณท่านซูเฉิงเฟิงนั้นมีอำนาจและอิทธิพล การกระทำเหี้ยมโหด ซูโสว่เต้าก็ถูกกดขี่มาโดยตลอด ช่วงเวลาที่สำคัญก็ยังถูกคุณท่านไล่ไปออสเตรเลียอีก อีกทั้งลูกสาวก็ถูกคุณท่านให้ร้ายอย่างไม่มีชิ้นดี ตำแหน่งคุณชายที่มีก็น่าอัดอั้นตันใจเหลือเกิน
หากเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่กับเหออิงซิ่วได้จริงๆ ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุข ตัวเองก็สามารถยุติบทลงโทษที่มีต่อเขาได้ อีกทั้งยังจะร่วมยินดีไปกับมันด้วย
แต่ทว่า เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะพูดเตือนเขา“คุณซู ผู้ชายทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ในยามยากลำบาก ก็มักจะขบคิดและพิจารณาตัวเอง ในตอนนั้นที่จูหยวนจางต้องมีชีวิตที่ตกระกำลำบาก เขาใช้เศษอาหารที่เหลือทำเป็นข้าวต้มแล้วมองมันเป็นซุปไข่มุกหยกขาว คนบางคนนั้นสามารถจะคิดได้อย่างถ่องแท้ ต่อให้ในอนาคตจะรุ่งโรจน์ประสบความสำเร็จในชีวิต ก็ยังจะจำบทเรียนที่เคยพานพบนี้ได้ แต่คนบางคน กลับละทิ้งมันไป เมื่อมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ ความคิดที่เคยมีก็กลับลืมมันหมดสิ้น หากคุณได้รับอิสรภาพคืน แล้วมีชีวิตที่มั่งคั่งร่ำรวยนั้นอีกครั้ง คุณยังยืนยันความคิดในตอนนี้ของคุณอยู่อีกไหม?”
ซูโสว่เต้ายิ้มเยาะออกมา และกล่าว“ชีวิตที่มั่งคั่งร่ำรวย มันก็แค่เพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ตระกูลซูในอดีตมีบ้านใหญ่โตหรูหราไปทั่วทุกพื้นที่ วิลล่ามากมาย ทั้งคฤหาสน์หรือแม้แต่ปราสาทผมก็เคยพักอาศัยมาแล้ว พูดตามตรง มีเพียงช่วงเวลาที่อยู่เมืองจินหลิงเท่านั้นที่รู้สึกเป็นสุขและสบายใจอย่างที่สุด
“ช่วงเวลาที่อยู่เมืองจินหลิง ผมไม่ต้องคิดการวางแผนอะไรเพื่อแสดงศักยภาพของตัวเอง ไม่ต้องสนใจว่าพ่อจะมองผมยังไง ไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับการชิงไหวชิงพริบกันของพี่น้อง แก่งแย่งแข่งขัน และไม่ต้องรับรู้อะไร ไม่ต้องสนใจว่าแม่ของจือหยูจะแอบคิดถึงผู้ชายคนอื่นลับหลังผมหรือเปล่า ……”