ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5705 ดวงชะตาเกิดไม่เพียงพอ(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5705 ดวงชะตาเกิดไม่เพียงพอ(2)
ในภูเขาแสนลี้ มีเขตหวงห้ามที่ลับตาคนแห่งหนึ่ง
ในร้อยรัศมีที่นี่ไม่มีประชาชนที่อยู่อาศัยเลย เนื่องจากตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่นี่มีชี่พิษที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่งอยู่ ชี่พิษโอบล้อมอยู่ที่นี่ไม่กระจัดกระจายหายไป ขอเพียงคนเข้าไปในนี้ ก็จะปวดหัวคลื่นเหียนและหลงทิศทาง ไม่ว่าเดินไปทางไหน สุดท้ายก็จะวนไปข้างนอกชี่พิษ และหลังจากสูดชี่พิษเข้าไป อาการปวดหัวและคลื่นเหียนจะยืดเยื้อนานนับเดือน เจ็บปวดทรมานขั้นสุด มีคนที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนอยากจะเข้าไปสืบภายในชี่พิษให้ถ่องแท้ สุดท้ายก็ตายอยู่ในนั้น
ดังนั้น นานวันเข้า ชาวเขาโดยรอบเคารพรักที่แห่งนี้อยู่ห่าง ๆ กันหมด มองที่นี่เป็นเขตหวงห้ามโดยสมบูรณ์
เพียงแต่ชาวเขาพวกนี้ไม่รู้ ใจกลางชี่พิษนี้ อันที่จริงเป็นถ้ำที่เมิ่งฉางเชิงเก็บตัวฝึกฝน
และชี่พิษพวกนั้น เป็นเพียงค่ายกลที่เขาวางไว้รอบ ๆ เพื่อมาตัดขาดการล่วงล้ำจากคนธรรมดา
เขาตั้งอกตั้งใจค้นหาวิชาเต๋า ต้องการเพียงอายุวัฒนะ ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวในภูเขาแห่งนี้นับร้อยปีแล้ว
ตอนนั้นที่อู๋เฟยเยี่ยนกับหลินจู๋ว์หลูถูกกองทัพราชวงศ์ชิงตามมาถึงภูเขาแสนลี้ ก็จนตรอก ทะลวงเข้าไปในชี่พิษที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้โดยไม่รีรอ
หากไม่ใช่ว่ากองทัพราชวงศ์ชิงวางเพลิงเผาภูเขา ยั่วยุให้เมิ่งฉางเชิงโกรธ เขาก็จะไม่ช่วยสองคนนี้เอาไว้อย่างปุบปับหรอก
หลังจากเมิ่งฉางเชิงช่วยทั้งสองคนไว้ จึงเพิ่งได้รู้ว่า โลกข้างนอกประสบการเปลี่ยนแปลงอันรุนแรง ราชวงศ์ของชาวฮั่นถูกแมนจูโค่นล้ม เรื่องนี้ทำให้เขาที่เป็นชาวฮั่นเหมือนกัน รู้สึกเสียดาย
และเป็นเพราะเช่นนี้ เขาจึงรับอู๋เฟยเยี่ยนกับหลินจู๋ว์หลูเป็นศิษย์ ถ่ายทอดความสามารถให้พวกเขา ให้พวกเขาสานต่อภารกิจต่อต้านราชวงศ์ชิง
ส่วนตัวเขาเอง ยังคงไม่เต็มใจที่จะแยกจากความปรารถนาแห่งอายุวัฒนะอยู่ดี จึงอยู่ฝึกฝนในภูเขาแสนลี้อย่างยากลำบากต่อ
ในเวลานี้ ความรู้สึกของอู๋เฟยเยี่ยน ปลิวไปที่ปี 1662 อีก
เธอในตอนนั้น คิดเพียงอยู่ด้วยกันกับหลินจู๋ว์หลูศิษย์พี่เท่านั้น อุทิศตัวเองเพื่อภารกิจต่อต้านราชวงศ์ชิง จวบจนชีวิตหาไม่
พวกเขาลอบสังหารอู๋ซานกุ้ยด้วยกัน กลับไม่เคยคิด ข้างกายอู๋ซานกุ้ยเอาชนะคนมีความสามารถอันแปลกประหลาดมากมายด้วยวิธีการทุกรูปแบบ การลอบสังหารล้มเหลว นักรบที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับพวกเขาด้วยกันตายในสนามรบแทบหมด ส่วนเธอกับศิษย์พี่สู้ตายจึงจะหาทางออกจากสถานการณ์ที่ลำบากได้
หลังจากการเคลื่อนไหวล้มเหลว ทั้งสองคนก็ห่อเหี่ยวเป็นอย่างมาก และตอนนั้นราชวงศ์หมิงใต้แทบจะล่มสลาย ในพื้นที่ไม่มีกำลังสำคัญที่ต่อต้านราชวงศ์ชิงแล้ว ครั้นแล้วหลินจู๋ว์หลูก็เสนอให้เธอ ทั้งสองคนไปใต้หวันเพื่อไปขอพึ่งพาอาศัยโคซิงกาเจิ้งเฉิงกงพร้อมกัน หวังว่าสามารถติดตามโคซิงกา สานต่อปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่ต่อต้านราชวงศ์ชิง
ทั้งสองคนเหนื่อยกับความลำบากยากแค้นทุกรูปแบบจึงจะหนีออกมาจากการโอบล้อมของกองทัพราชวงศ์ชิงชั้นแล้วชั้นเล่าที่เตียนหนาน น่าเสียดายเพียง พระเจ้าไม่ให้มนุษย์ได้สมปรารถนา ยังไม่ได้รอให้พวกเขาเดินจนถึงครึ่งทาง ข่าวคราวที่โคซิงกาเสียชีวิตอย่างกะทันหันก็แพร่กลับมาในพื้นที่
ราชวงศ์ชิงในตอนนั้น แทบอยากจะร่วมเฉลิมฉลองกับประชาชนทั้งประเทศ
ส่วนเธอกับหลินจู๋ว์หลู ในตอนนั้นก็รู้สึกท้อแท้
ทั้งสองคนรู้ว่ากำลังมีจำกัด ไม่สามารถทำอะไรเกินตัวจนเดือดร้อนได้ขฌ บวกกับกองทัพราชวงศ์ชิงออกหมายนำจับทั้งสองคนไปทั่วจจ ภายใต้ความจนปัญญา ทั้งสองคนทำได้แต่หวนกลับภูเขาแสนลี้ มุ่งหน้าไปขอพึ่งพาอาศัยเมิ่งฉางเชิงอีกครั้ง
แต่ใครจะไปนึกได้ เมิ่งฉางเชิงในตอนนั้นได้ถึงอายุขัยสิ้นสุดแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความรู้สึกนึกคิดของอู๋เฟยเยี่ยนก็กรอไปข้างหน้าอีกครั้ง มาถึงฤดูใบไม้ผลิของปี 1663
ภาพในตอนนั้น ปรากฏในหัวของเธออีกครั้ง
เธอกับศิษย์พี่กำลังนั่งสมาธิฝึกหายใจ เมิ่งฉางเชิงที่คิ้ว หนวดเคราขาวโพลนหมดแล้ว มาที่เบื้องหน้าทั้งสองคนด้วยท่าทีที่โค้งตัวลง พูดอย่างเฉยเมย : “จู๋ว์หลู เฟยเยี่ยน เธอทั้งสองคนตามฉันเข้ามา”
ทั้งสองคนเพียงรู้สึกว่าอาจารย์ในวันนี้ดูอิดโรยเป็นพิเศษญญ แต่ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง
ครั้นแล้ว ทั้งสองคนตามเมิ่งฉางเชิง มาที่ในห้องศิลาของเขา
เมิ่งฉางเชิงชี้ไปที่สองเบาะนั่งข้างหน้า แล้วบอกกับทั้งสองคน : “พวกเธอนั่งลงสิ!”
ทั้งสองคนเห็นดังนี้ ก็นั่งสมาธิข้างหน้าเขาอย่างนอบน้อมไว้เรียบร้อย
คราวนี้เมิ่งฉางเชิงจึงจะเอ่ยปากบอก : “แม้ว่าฉันกับพวกเธอมีวาสนาน้อยนัก แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นอาจารย์กับลูกศิษย์กันแล้ว พวกเธอยังคิดถึงภาระหน้าที่ต่อต้านราชวงศ์ชิงภด อาจารย์เป็นชาวฮั่นเหมือนกัน ก็หวังว่าพวกเธอสามารถยืนหยัดภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ต่อไปได้ และฟื้นคืนประเทศชาวฮั่นให้คืนสู่สภาพเดิมในเร็ววัน……”
ว่าแล้ว เขาก็ควักโอสถสองเม็ดจากในกระเป๋าออกมา วางไว้บนโต๊ะหินข้างหน้าทั้งสองคน แล้วพูดราบเรียบ : “โอสถสองเม็ดนี้ คือยายั้งอายุที่อาจารย์เคยเอ่ยถึงกับพวกเธอ เมื่อทานยานี้ไป อายุขัยก็สามารถถึงห้าร้อยปี ความเปลี่ยนแปลงมหาศาลของโลกในห้าร้อยปี หวังว่าพวกเธอมีโอสถสองเม็ดนี้แล้ว สามารถบรรลุภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่อย่างการต่อต้านราชวงศ์ชิงได้”