ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5731 ฟ้าดินล้วนคารวะ (2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5731
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้ตอบคำถามของเย่เฉิน แต่ถามกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “อาจารย์ล่ายที่คุณชายว่านั้นคือใคร? นามว่าอะไร?”
เย่เฉินพูดว่า “เป็นทายาทสายตรงของปรมาจารย์ล่ายปู้อี ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยแห่งราชวงศ์ซ่ง ชื่อว่าล่ายชิงหวา……”
หลินหว่านเอ๋อร์บ่นพึมพำว่า “ทองแข็งแกร่ง ไม้สูงตระหง่าน น้ำใส ไฟแรง ดินหนักแน่นและลมแรง ล่ายชิงหวาที่คุณกำลังพูดถึงน่าจะเป็นเหลนของล่ายจินหลิน ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยของฉันในตอนนั้น”
เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณหลินมีความสัมพันธ์กับบรรพบุรุษของตระกูลล่ายด้วยเหรอครับ?”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้าพูดว่า “เหตุผลที่รู้วิชาลับฮวงจุ้ยและโจวอี้ปากว้า เป็นเพราะฉันเคยติดตามเรียนรู้เรื่องโจวอี้จากล่ายจินหลินในตอนนั้น ท่านอาจารย์สอนฉันทุกอย่าง ในตอนนั้น หลายเรื่องที่ท่านอาจารย์ไม่ยอมสอนให้ใคร ล้วนส่งต่อให้ฉัน และในอีกสองร้อยปีต่อมาฉันได้ไขปัญหาส่วนใหญ่ที่ท่านอาจารย์ทิ้งไว้ได้ทีละปัญหาแล้ว ฉันจึงได้รับผลจากการศึกษาโจวอี้ปากว้า……”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “การมีอายุยืนยาวนี่ได้เปรียบจริง ๆ …… ความรู้ใดก็ตามถ้ามีเวลามากพอที่จะไปทำความเข้าใจมัน ในที่สุดมันก็จะกระจ่างแจ้งได้ดีกว่าคนรุ่นก่อนเสียอีก”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าพูดว่า “สิ่งที่คุณพูดก็จริงนะคะ โจวอี้เขียนโดยผู้มีพรสวรรค์และปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ประพันธ์ทุกคนล้วนเป็นปราชญ์ที่มีสติปัญญาแน่นแฟ้น แม้ว่าพรสวรรค์จะล้ำเลิศแต่หากมีชีวิตอยู่เพียงเจ็ดแปดสิบปี ก็อาจเจาะลึกในเนื้อหาได้มากที่สุดเพียง 20 – 30% หรืออาจเข้าใจได้ได้มากกว่า 50% ถ้าอายุยืนกว่านี้……”
เย่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็แทบทนรอไม่ไหวจึงรีบถามว่า “คุณหลิน ดวงชะตามังกรขั้นสูงหมายถึงอะไรกันแน่?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดอย่างจริงจังว่า “มันคือดวงชะตาที่สูงกว่าดวงชะตามังกรเสียอีก”
เย่เฉินถามอย่างสงสัย “คุณไม่ได้บอกว่าดวงชะตามังกรคือขั้นสูงสุดเหรอ? ทำไมยังมีดวงชะตามังกรขั้นสูงกว่าอยู่อีก?”
หลินหว่านเอ๋อร์ตอบว่า “ดวงชะตามังกรเป็นดวงชะตาของฮ่องเต้ ซึ่งแท้จริงแล้วเขาคือผู้สูงสุดในโชคชะตา เนื่องจากดวงชะตามังกรขั้นสูงสุดหลายร้อยปีจะพบสักคนหนึ่ง นอกจากนี้ หลายคนที่ศึกษาโจวอี้ก็ไม่สามารถแสวงหาดวงชะตามังกรคือขั้นสูงสุดได้พบ”
เย่เฉินถามอย่างงงงวยว่า “ถ้าคำว่าดวงชะตามังกรขั้นสูงมีอยู่ในโจวอี้ แม้ไม่สามารถบรรลุได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถมองเห็นมันได้ใช่ไหม?”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อย พูดว่า “คุณชายอาจไม่รู้อะไรบางอย่าง ความคิดโดยรวมของโจวอี้จริง ๆ แล้วเป็นชุดข้อความรหัสที่ซับซ้อนนับไม่ถ้วน ในหนังสือเล่มนั้นตัวอักษรเดียวกัน หลังจากทะลวงถึงขั้นสูงระดับหนึ่ง จะได้เรียนรู้บางอย่างที่ลึกซึ้งขึ้นจากมัน ด้วยกฎนี้จะมีความหมายอีกชั้นหนึ่งซ่อนอยู่ ยิ่งเข้าใจ กระจ่างแจ้งลึกซึ้งเพียงใด ก็มีความซับซ้อนขึ้นเท่านั้น”
จากนั้นหลินหว่านเอ๋อร์ก็พูดขึ้นอีกว่า “พูดง่าย ๆ ก็คือคล้ายกับการเรียงสับเปลี่ยนและการรวมกันในคณิตศาสตร์ มีการผสมเลขร้อยตัวได้จำนวนนับไม่ถ้วน ไม่ต้องพูดถึงตัวอักษรหลักหมื่นหลักแสนในหนังสือ”
เย่เฉินถามขึ้นว่า “หมายความว่าถ้ามีตัวอักษรที่กล่าวถึงดวงชะตามังกรขั้นสูงในหนังสือนั้น ถ้าพบรูปแบบที่แน่นอนและสามารถฝึกอักขระทั้งสามนี้ออกมาได้ ก็จะได้รู้แจ้งถึงสิ่งนี้?”
หลินหว่านเอ๋อร์ พยักหน้ายิ้ม “คุณชายพูดได้ถูกต้องแล้ว”
จากนั้นหลินหว่านเอ๋อร์ก็พูดขึ้นอีกว่า “สำหรับดวงชะตามังกรขั้นสูงตามที่โจวอี้กล่าวถึง เมื่อมังกรผงาดโผล่ออกมา ทั้งสวรรค์และโลกาล้วนต้องเคารพ ในโลกนี้มีเพียงมังกรขั้นสูงนี้เท่านั้นที่สามารถทำในสิ่งที่ขัดต่อวิถีสวรรค์ได้ เพราะมังกรขั้นสูงสามารถเพิกเฉยต่อวิถีสวรรค์ อีกทั้งวิถีสวรรค์ไม่มีสิทธิ์ที่จะลงโทษมังกรขั้นสูงนี้”
“ชะตากรรมอื่น ๆ ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของวิถีสวรรค์ หากต้องการอยู่เหนือวิถีสวรรค์ จะต้องพบกับหายนะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉันขอพูดอะไรที่ไม่ดีนักนะคะ เช่นท่านอาจารย์ที่อยู่มาเป็นพันปี เดิมทีเขาคิดว่าสามารถแหกวิถีสวรรค์ได้ แต่ที่จริงเขาไม่เข้าตาสวรรค์แม้แต่น้อย”
“หากวิถีสวรรค์สูงหนึ่งหมื่นฟุต ทุกสิ่งในโลกจะอยู่ภายใต้การควบคุมของวิถีสวรรค์ ก่อนที่จะสูงขึ้นสู่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าฟุต วิถีสวรรค์จะพยายามลงโทษเขา สิ่งนี้เรียกว่าทัณฑ์สวรรค์!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ก็หยุดลงชั่วขณะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “แต่ว่า ทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ มีเพียงมังกรขั้นสูงเท่านั้นที่สามารถละเว้นได้!”