ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1010
เฉียนหงเย่นก็รีบพูดถามอย่างประจบว่า : “แม่ คุณจะเอาไข่ไก่และแป้งไปทำอะไรคะ?”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดว่า : “คืนนี้จะห่อเกี๋ยวยัดไส้กุยช่ายกับไข่กินนะ!”
เซียวไห่หลงพูดอย่างตกใจว่า : “คุณย่า คืนนี้ห่อเกี๊ยวกินเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว!” นายหญิงใหญ่เซียวพูดอยางยิ้มกริ่มว่า : “ไส้กุยช่ายกับไข่ชอบไหม”
เซียวไห่หลงยิ้มพร้อมพูดว่า : “ไอ้หยาชอบกินมาเลยครับ!นานมากแล้วที่ไม่ได้กินเกี๊ยวไส้กุยช่ายไข่นะ เมื่อคุณย่าพูดแบบนี้ ผมก็น้ำลายไหลแล้ว!”
เซียวฉางเฉียนก็หัวเราะเฮอๆพร้อมพูดว่า : “แม่ วันนี้ทำไมแม่ถึงคิดจะทำเกี๊ยวไส้กุยช่ายไข่กินล่ะ?แม่ไม่ได้ลงครัวห่อเกี๊ยวมานานมากแล้วนะ”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดว่า : “วันนี้ฉันมีความสุข เกี๊ยวไส้กุยช่ายกับไข่ในคืนนี้รับรองกินกันได้เพียงพอแน่ !”
“ดีจังเลย!” เซียวฉางเฉียนถอนหายใจพร้อมพูดว่า : “ผมไม่ได้กินเกี๊ยวมานานแล้ว วันนี้จะได้กินให้หายอยากแล้ว!”
เฉียนหงเย่นเอ่ยปากถามว่า : “แม่ นอกจากแป้งกับไข่ไก่ ต้องการให้ฉันซื้อกุยช่ายมาด้วยไหมคะ?”
นายหญิงใหญ่เซียวยิ้มพร้อมพูดอย่างภูมิใจว่า : “บ่ายวันนี้ที่บ้านของเย่เฉินมีกุยช่ายสดใหม่เยอะแยะเลย เดี๋ยวฉันจะออกไปตัดมันสักสองกอกลับมานะ!”
เซียวฉางเฉียนรีบเอ่ยถามว่า : “แม่ งั้นก็ตัดมาเยอะๆหน่อยนะ จะได้ถือโอกาสห่อเกี๋ยวไส้หมูกุยช่ายด้วยเลยก็ได้!”
เซียวเวยเวยพูดว่า : “ยังสามารถนำมาทำพายไส้กุยช่ายทอดด้วย!”
“ได้ได้ได้!” นายหญิงใหญ่เซียวพยักหน้ายิ้มพร้อมพูดว่า : “งั้นเดี๋ยวฉันจะตัดมาเยอะหน่อยนะ!”
เมื่อถึงบ่ายห้าโมงกว่าๆ นายหญิงใหญ่เซียวก็ถือมีดเดินออกจากบ้านไป
เธอเอามีดวางไว้ในตะกร้าไม้ไผ่ วิ่งย่องๆมายังรั้วนอกบ้านของเย่เฉิน
นายหญิงใหญ่เซียวมองดูรอบๆ เห็นว่าในสวนไม่มีคนอยู่ ก็รีบหยิบมีดออกมา ยื่นมือเข้าไปในรั้วตัดกุยช่ายมากอใหญ่
หลังจากที่ตัดเสร็จหนึ่งกอแล้ว เธอก็รีบตัดอีกสองกอใหญ่
เมื่อตัวเองรู้สึกว่าน่าจะพอแล้ว แต่คิดอย่างละเอียดๆ กุยช่ายที่ดีขนาดนี้หายากมากเลยจริงๆ ถ้าไม่ตัดไปอีกสักหน่อยก็จะเสียเปรียบไปแล้ว
ดังนั้นเธอจึงตัดอย่างต่อเนื่องอีกหกกอ เอา“กุยช่าย”ที่ตัดมาได้ใส่ลงไปในตะกร้าไม้ไผ่ไม่พอแล้ว
เมื่อเห็นว่าสำเร็จผลแล้ว นายหญิงใหญ่เซียวก็รีบวิ่งกลับบ้านเลย
ในเวลานี้ หม่าหลันเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว จึงเดินไปที่ระเบียงเตรียมที่จะอาบแดด
ถึงอย่างไรหมอก็เคยบอกเธอว่า หากอยากให้ขาหายไวๆ ก็ต้องอาบแดดให้เยอะหน่อย สามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้
มาถึงที่ระเบียง เธอก็เห็นนายหญิงใหญ่เซียวขโมยผักไปอีกแล้วพอดี พูดด่าทออย่างกระหืดกระหอบว่า : “อีแก่ตายยากอย่างแก เมื่อเช้าเพิ่งจะมาขโมยผักบ้านของฉันไปตั้งเยอะแยะ บ่ายนี้ยังกล้ามาขโมยอีก แกยังมียางอายไหม?”
นายหญิงใหญ่เซียวหันหน้า ไปมองเธอกระทืบเท้าบนถนนพร้อมด่าว่า : “ทำไมเหรอ?มึงเป็นลูกสะใภ้ของกู กูกินผักเล็กๆน้อยๆของมึง มึงยังกล้ามาพูดจาจู้จี้จุกจิกกับกูเหรอ?”
หม่าหลันด่าทอว่า : “ใครแม่งเป็นลูกสะใภ้ของแก แกมันคนหน้าไม่อาย ครั้งหน้าถ้าหากแกยังกล้ามาขโมยผักที่บ้านฉัน ฉันจะหักแขนแกเป็นท่อนเลย!”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดถุยออกมา พูดด่าว่า : “ขาข้างนั้นของตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะหายดีเมื่อไหร่ ยังจะกล้ามาดุด่าเสียงดังลั่นกับกู ?เชื่อไหมว่าครั้งหน้ากูจะหักขาของมึงอีก?”
เมื่อหม่าหลันได้ยินประโยคนี้ ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที!
ขาของเธอ ก็ถูกหม่าหลันหักเมื่อตอนที่อยู่ในสถานกักขัง แค้นนี้เธอยังคงจดจำไว้อยู่เสมอ
เมื่อเห็นว่านายหญิงใหญ่เซียวเข้ามาขโมยผักอีก แล้วยังเอาเรื่องหักขามาด่าตัวเอง หม่าหลันขบเคียวเขี้ยวฟันด่าทอด้วยความเกลียดชังว่า : “แกก็ขโมยไปเถอะ!อีแก่!ปากชั้นต่ำขนาดนี้ สักวันก็ตายห่าเอง!”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดเฮิงอย่างเยือกเย็น : “จะบอกให้ฟังนะหม่าหลัน อายุกูยืนยาว มึงตายไปแปดร้อยครั้งกูก็ยังไม่ตายเลย!ไม่เชื่อก็รอดูแล้วกัน ดูว่าใครตายก่อนกัน !”
———-