ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 109 ยามาถึงก็หายป่วย
บทที่ 109 ยามาถึงก็หายป่วย
พอฉินกางเห็นเย่เฉินก็ยิ้มแล้วพูดว่า “อาจารย์เย่ ผมได้ยินมาว่าวันนี้คุณเจอเรื่องราวบางอย่าง ดังนั้นจึงรวบรวมสมุนไพรยาจำนวนหนึ่งแล้วส่งมาให้คุณดูหน่อย”
พูดจบบอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังก็เดินขึ้นมาและมอบกล่องไม้สีแดงแสดงความนับถือ
ฉินกางเปิดฝากล่องแล้วยิ้มด้วยความนบนอบ “อาจารย์เย่ ช่วยดูหน่อย”
ในกล่องมีโสมภูเขาเก่าแก่ที่มีความหนาเท่าแขน เห็ดหลินจือประกายสีแดงม่วง และสมุนไพรยาราคาแพงมากมายในท้องตลาด ไม่สามารถพบเห็นได้ในร้านยาจีนทั่วไป
เย่เฉินกวาดสายตามอง สมุนไพรยาเหล่านี้แม้จะมีค่า แต่กลับไม่มีเรกิมากนัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ประจวบเหมาะกับที่เขาต้องทำยาเม็ดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด สามารถใช้สมุนไพรเหล่านี้ได้
เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูดว่า “ให้ผมเถอะ”
ฉินกางรีบหยิบกล่องขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณที่อาจารย์เย่ที่ชี้แนะ ตระกูลฉินทำอะไรก็ราบรื่น สองวันมานี้ธุรกิจยังมีกำไรเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งหมดได้พึ่งพาอาศัยคุณงามความดีจากอาจารย์เย่ วันหลังหากอาจารย์เย่มีอะไรให้ตระกูลฉินได้รับใช้ ทางตระกูลฉินจะพยายามอย่างเต็มกำลัง”
เย่เฉินตอบรับแล้วพูดว่า “งั้นคุณก็คอยเฝ้าดูให้ผมด้วย ถ้ามีสมุนไพรดีๆ อีกก็เอามาให้ผมสิ ผมต้องนำมาใช้”
“ครับท่าน!” หลังจากฉินกางตอบตกลงเขาก็รีบพูดว่า “อาจารย์เย่ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว รับประทานอาหารธรรมดาสักมื้อเป็นการให้เกียรติได้ไหม?
เย่เฉินพูดอย่างเรียบเฉย “เอาไว้วันอื่นแล้วกัน ตอนนี้มีธุระที่บ้านนิดหน่อย”
“ตกลง” ฉินกางรีบพูด “งั้นผมไม่รบกวนแล้ว!”
พูดจบก็บอกลาจากไป
เย่เฉินก็หันหลังกลับบ้าน
เซียวฉางควนรู้สึกปวดหัวจนทนไม่ไหวจึงให้เซียวชูหรันพาเขาไปร้านฝังเข็มแพทย์แผนจีนที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อนวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
เย่เฉินจึงพูดกับเขาว่า “พ่อ ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะเดินไปไหนมาไหน ควรพักผ่อนก่อนดีกว่า เพื่อนของผมส่งสมุนไพรยามาให้แล้ว ผมจะทำยาเม็ดให้พ่อ น่าจะได้ผลดี”
เซียวฉางควนถามด้วยความงุนงง “เย่เฉิน คุณยังมีความสามารถในการรักษาและสั่งยาด้วยเหรอ?”
“เมื่อก่อนเคยเรียนมานิดหน่อย” เย่เฉินกล่าว
มันยากสำหรับเขาที่จะบอกว่าเขาได้อ่านตำราเก้าเสวียนเทียน รู้ว่ามียาชนิดหนึ่งที่เรียกว่ายาช่วยหัวใจอยู่
นี่เป็นยาตำรับโบราณของจีนที่สูญหายไป ไม่เพียงแต่สามารถอาการเลือดคั่งในสมองได้ แต่ยังส่งผลอย่างน่าอัศจรรย์ต่อโรคทางสมองที่ร้ายแรง เช่นหลอดเลือดสมองตีบหรือเป็นลมหมดสติ
ถ้าเขาสามารถผลิตยาช่วยหัวใจได้ สำหรับเซียวฉางควนแล้วก็ย่อมสามารถรักษาอาการป่วยได้
แต่เซียวฉางควนรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาพูดอย่างอึดอัด “เย่เฉิน ไม่ใช่ว่าพ่อไม่เชื่อเธอนะ เธอต่อสู้เก่ง แต่การรักษาคนป่วยมันเรียนรู้จากการดูทีวีไม่ได้นะ…”
ว่าแล้วเขาก็กระแอมไอพูดว่า “เอ่อ ฉันให้ชูหรันพาไปโรงพยาบาลดีกว่า!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วบอกว่า “โอเค ถ้าพ่อไม่ไว้ใจผม ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนก็ได้ ถ้าได้ผลก็เป็นเรื่องที่ดี”
เซียวฉางควนรีบพูดว่า “พ่อไม่ใช่ไม่เชื่อเธอ ตอนนี้พ่อปวดมาก ขอไปตรวจก่อน”
จากนั้นยึงบอกกับเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน เราไปกันเถอะ”
เซียวชูหรันพยักหน้าแล้วช่วยพยุงเซียวฉางควนออกไป
เย่เฉินเดินเข้าไปในครัว เริ่มปรุงยาตามใบสั่ง
จากบันทึกในตำราเก้าเสวียนเทียน ยาชนิดนี้มีประสิทธิภาพมาก เซียวฉางควนมีเลือดออกในสมองเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ฤทธิ์ของยาแรงเกินไป เย่เฉินจึงกินลดปริมาณสมุนไพรยาลงเล็กน้อยแล้วเริ่มปรุง
ยาช่วยหัวใจเป็นยาจีนแผนโบราณที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ถัง ราชาแห่งการแพทย์ซุนซิเมียวป็นผู้พัฒนายานี้ หนังสือที่เผยแพร่อย่างกว้างขวางของเขา ได้แก่ ‘ตำรับเชียนจิน’ และ ‘ตำรับยาพืช’ รวมถึง ‘ตำรับการแพทย์ซุนซื่อ’ ซึ่งเป็นบันทึกการเป็นหมอในแต่ละช่วงเวลาของเขา ได้บันทึกประสบการณ์เกี่ยวกับการตรวจรักษาทางการแพทย์เอาไว้มากมาย หนังสือเหล่านี้ยังได้รับการบันทึกไว้ใน ‘ตำราเก้าเสวียนเทียน’ ด้วย
เมื่อเทียบกับหนังสือทางการแพทย์สองเล่มแรก ‘ตำรับการแพทย์ซุนซื่อ’ เล่มนี้มีคุณค่าทางการตรวจรักษามากกว่า แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้จัก ตอนนี้ได้สูญหายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง แพทย์แผนจีนส่วนใหญ่แม้แต่ชื่อก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
ตามใบสั่งยาในคู่มือการแพทย์ เย่เฉินได้รีบปรุงยาลูกกลอนขนาดเท่าวอลนัทหนึ่งกล่อง มีทั้งหมดหกเม็ด
ทันทีที่ยาพร้อม เซียวฉางควนก็ประคองเซียวฉางควนกลับมาแล้ว
สีหน้าของเซียวฉางควนยังคงเจ็บปวด เดินใจลอยมากขึ้นเรื่อย ๆ
เซียวชูหรันรู้สึกเป็นกังวลจึงเอ่ยปากขึ้นว่า “พ่อ ถ้าไม่ไหวจริงๆ เราไปตรวจที่โรงพยาบาลกันเถอะ พ่อว่าไง?”
เซียวฉางควนโบกมือและพูดว่า “เฮ้อ ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาล มันยุ่งยากเกินไป ต้องตรวจเลือด ตรวจฉี่ ถ่ายเอกซเรย์ ไม่เป็นอะไรก็จะเป็นตอนนี้แหละ เอาแบบนี้แล้วกัน เธอประคองฉันไปนั่งที่โซฟาสักพัก ฉันจะพักผ่อน”
เซียวฉางควนเพิ่งไปนวดฝังเข็มที่ศูนย์แพทย์แผนจีน แต่มันไม่ได้ผลเลย เขาปวดหัวมากขึ้น ในเวลานี้เขาแค่อยากจะนั่งพักผ่อน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะสลบไป
ในเวลานี้ เย่เฉินเดินออกมาพร้อมกับยาเม็ดที่เพิ่งปรุงเสร็จใหม่ๆ
เมื่อได้ยินกลิ่นยาที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเซียวชูหรันจึงถามด้วยความแปลกใจ “เย่เฉิน คุณกำลังปรุงยาอยู่เหรอ?”
เย่เฉินชี้ไปที่ยาลูกกลอนในมือแล้วพูดว่า “พ่อ ยาเม็ดนี้สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดอาการห้อเลือด ประสิทธิภาพมาก ลองกินดูสักเม็ดสิ”
เขาหยิบเม็ดยาขึ้นมามองดู กลิ่นหอมสดชื่นของยากระจายเข้าสู่เข้าจมูกทำให้เขารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
เขาถามด้วยความประหลาดใจ “ยาเม็ดนี้เธอเป็นคนทำเหรอ?”
“ใช่!” เย่เฉินตอบ “ผมเพิ่งทำออกมาเมื่อกี้”
เซียวฉางควนถามขึ้นอีก “เธอเคยเรียนวิชาทางการแพทย์มาหรือ?”
“ผมเรียนรู้มาจากคุณปู่ภารโรงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคนหนึ่ง บรรพบุรุษของเขาเป็นแพทย์แผนจีน” เย่เฉินกล่าว
เซียวฉางควนถามด้วยอย่างไม่อยากจะเชื่อ “จริงหรือหลอก? สิ่งที่ภารโรงแก่สอนให้เธอ มันใช้ได้ผลจริงเหรอ?”
“รับรองว่าได้ผลจริง” คุณพ่อลองกินดู รักษาให้หายได้แน่นอน”
เซียวฉางควนรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนี้ของตนเอง มันปวดจนแทบทนไม่ไหวแล้ว จึงตัดสินใจกินยาเข้าไปสองสามเม็ด
เซียวซูหรันยังไม่ทันถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปของยาเม็ดก็เห็นเซียวฉางควนกินมันเข้าไปแล้ว จึงรีบถามว่า “พ่อ รู้สึกยังไงบ้าง?”
“ดูเหมือน…ดูเหมือนว่าจะเพิ่งกินมันเข้าไป หัวของฉันก็ไม่ปวดมากแล้ว” เซียวฉางควนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
ยาเม็ดนั้นดูธรรมดา แต่หลังจากที่เขากินมันเข้าไปแล้วก็รู้สึกราวกับว่ามีอากาศบริสุทธิ์พุ่งตรงไปที่ส่วนบนสุดของกะโหลกศีรษะ จมูกโล่ง สมองก็ตื่นตัวขึ้นมาก นอกจากนี้อาการบวมและปวดที่ด้านหลังศีรษะของเขาก็หายไปมากจริงๆ
เซียวฉางควนถามอย่างมีความสุข “เย่เฉิน ยานี่ซื้อมาจากไหน?”
“เมื่อกี้ฉินกางส่งสมุนไพรยามาให้ ผมจึงเอาไปปรุง” เย่เฉินกล่าว
เซียวฉางควนกล่าวชมเชย “ประธานฉินเป็นคนดีจริงๆ! รู้ว่าฉันบาดเจ็บ ยังตั้งใจส่งยามาให้โดยเฉพาะ!”
“ผู้คนในเมืองจินหลิงต่างบอกว่าฉินกางเป็นคนใจกว้าง ดูทรงก็เป็นเช่นนี้จริงๆ ถ้าลุงใหญ่ใจดีเหมือนประธานฉิน เขาก็คงไม่ต้องลงเอยแบบนี้หรอก” เซียวชูหรันก็กล่าวขึ้นเช่นกัน
เมื่อพูดถึงเซียวฉางเฉียน สีหน้าของเซียวฉางควนก็ขรึมลง เขาโบกมือแล้วพูดว่า “อย่าไปพูดถึงเขาเลย”
หลังจากกินยาเสร็จเซียวฉางควน ก็กลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน
เย่เฉินเห็นเซียวชูหรันสีหน้าไม่สู้ดีจึงถามว่า “คุณควรเข้านอนเร็วหน่อย อย่าโกรธอีกเลย ต่อไปตระกูลเซียวจะต้องได้ชดใช้สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างแน่นอน!”