ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1142
ในสายตาของนายหญิงใหญ่เซียว ผู้หญิงอย่างหม่าหลันคนนี้ชอบความฟุ้งเฟ้อ ชอบเอารัดเอาเปรียบเป็นที่สุด หากตนเองมอบเบนท์ลีย์ให้ครอบครัวพวกเขาหนึ่งคันจริง ๆ จะต้องคิดหาวิธีไปโน้มน้าวเซียวชูหรันให้แน่นอน
แต่ว่า นายหญิงใหญ่พันคำนวณหมื่นคำนวณ กลับละเลยจุดเด่นของนิสัยหม่าหลันไปข้อหนึ่ง นั่นก็คือ เจ้าคิดเจ้าแค้น!
หม่าหลันชอบเอารัดเอาเปรียบหาประโยชน์เข้าตัว แต่ตัวเธอเองก็เจ้าคิดเจ้าแค้นสุดกู่
ก่อนหน้านี้ที่โน้มน้าวเซียวชูหรันให้กลับบริษัทเซียวซื่อมาตลอด นั่นก็เพราะตัวเธอไม่ได้มีความแค้นอะไรกับนายหญิงใหญ่ มีก็เพียงความไม่สบอารมณ์กันในความสัมพันธ์แม่ผัวลูกสะใภ้เท่านั้นเอง
อยู่ต่อหน้าเงินทอง ความไม่สบอารมณ์ย่อมไม่อาจส่งผลอันใดต่อหม่าหลันได้
แต่ว่า สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว!
ในใจหม่าหลันมีความแค้นฝังกระดูกต่อนายหญิงใหญ่เซียวไปแล้ว!
ตอนนั้นที่อยู่สถานกักขัง เธอพาจางกุ้ยเฟินมาทรมานหม่าหลันเอาเป็นเอาตาย ไม่เพียงแต่ทำร้ายหม่าหลันจนไม่มีชิ้นดีเท่านั้น กระทั่งก่อนจากไปก็ยังหักขาของหม่าหลันด้วย หม่าหลันโกรธเกลียดนายหญิงใหญ่แทบตายมานานแล้ว
ดังนั้น ต่อให้นายหญิงใหญ่จะมอบเบนท์ลีย์ให้เธอหนึ่งคัน ก็ไม่มีทางลดความเกลียดของเธอที่มีต่อนายหญิงใหญ่ลงได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หม่าหลันฉลาดขึ้นแล้ว เธอรู้ดีว่า คนที่ตนเองไม่อาจล่วงเกินมากที่สุดความจริงแล้วก็คือลูกเขยของเธอ เย่เฉิน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ตนเองอาจถูกเย่เฉินไล่ออกจากคฤหาสน์หรูนี้ออกไปเอาได้
ตอนนี้สามีอยากหย่ากับเธอ ลูกสาวก็ช่วยอะไรตนเองไม่ได้ ตนเองย่อมไม่อาจล่วงเกินเย่เฉิน ไม่อย่างนั้น หากทำให้เย่เฉินไม่พอใจขึ้นมาจนไล่ออกจากบ้านล่ะก็ ไหนเลยไม่กลายเป็นต้องร่อนเร่ตามถนนไร้ที่ซุกหัวนอน
ยิ่งไปกว่านั้น ยายแก่น่าตายนี่อำมหิตขนาดไหน หม่าหลันรู้ดียิ่งกว่าใคร หากว่าตนเองตกหลุมพรางเข้า อนาคตไม่แน่ว่าจะถูกให้ร้ายจนเป็นยังไง
ดังนั้น เธอตัดสินใจแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจถูกนายหญิงใหญ่คนนี้มามอมเมาไปได้
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเลิกคิ้วเอ่ยถากถาง “ยายแก่ ก็บอกแล้วไงว่าเบนท์ลีย์เห่ย ๆ ของคุณน่ะ แม้แต่หนึ่งในสิบส่วนของรถคันหนึ่งของลูกเขยฉันก็ยังเทียบไม่ติด ฉันจะเห็นขยะแบบนี้ในสายตาได้ยังไง ก็มีแต่ตระกูลพวกคุณนั่นแหละที่ไม่เคยเห็นโลก ถึงได้เห็นของเห่ย ๆ นี่เป็นสิ่งล้ำค่า ยังหน้าหนาขับมาประตูบ้านฉันอีก หน้าไม่อายจริง ๆ !”
เซียวไห่หลงพูดโพล่งออกมา “หม่าหลัน พูดหักหาญน้ำใจให้มันน้อย ๆ หน่อย คุณย่าให้โอกาสคุณก้มหัวยอมรับผิดแล้ว ไม่ยอมคว้าไว้ให้ดี กลับมาคุยโวอยู่ตรงนี้ หากว่าพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว คุณอยากร้องไห้ก็คงไม่มีแม้แต่น้ำตา!”
หม่าหลันหัวร่อเอ่ย “เด็กเวรที่ไม่รู้ใครสั่งสอนมานี่ ถึงกับมาพูดว่าฉันกำลังคุยโวเหรอ รอก่อน เดี๋ยวฉันจะให้เธอได้เปิดหูเปิดตาเสียเดี๋ยวนี้ ว่าอะไรเรียกว่ารถหรูที่แท้จริง!”
เอ่ยจบ หม่าหลันก็หยิบกุญแจรีโมทของประตูบ้าน กดปุ่มเปิดประตู
คฤหาสน์ของ Tomson Riviera นี้ เพื่อความสะดวกในการขับรถเข้าออกเองของเจ้าของ จึงได้เตรียมประตูใหญ่พลังไฟฟ้าที่ควบคุมทางไกลไว้ให้ แบบนี้เจ้าของก็จะสามารถใช้กุญแจรีโมทเปิดปิดประตูได้ ไม่ต้องลงจากรถมาจัดการ
พอหม่าหลันกดกุญแจ ประตูใหญ่ตรงหน้าก็เริ่มเปิดออกไปด้านนอก และที่จอดอยู่ตรงประตูใหญ่ ก็คือรถซูเปอร์คาร์สองคันของเย่เฉิน
เขาในยามนี้ กำลังนั่งอยู่ภายในแอสตันมาร์ติน เพิ่งจะอธิบายวิธีการขับซูเปอร์คาร์คันนี้อย่างละเอียดให้เซียวชูหรันฟัง กำลังเตรียมพาเธอลองขับออกไปข้างนอก
ดังนั้น เขาจึงกดปุ่มสีแดงสตาร์ทเครื่องยนต์ จากนั้นเครื่องยนต์ V12 ขนาด 7.3 ลิตรก็ร้องคำราม ราวกับสัตว์ป่าคลุ้มคลั่งสิบสองตัวขู่คำราม
นายหญิงใหญ่เซียวและคนตระกูลเซียวคนอื่น ๆ ต่างถูกเสียงดังที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ตกใจหนึ่งคำรบ
ทุกคนจ้องมองไป ก็ได้เห็นซูเปอร์คาร์ที่ด้านหน้าดุดันราวสัตว์ป่าได้เดินเครื่องแล้ว กำลังค่อย ๆ ขับออกมาจากประตูใหญ่ที่เปิดออก!
——–