ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1158
เธอรู้สึกว่า เซียวชูหรันดีกับตัวเองขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางทำร้ายตนแน่นอน
เย่เฉินขับรถตรงไปยังทางเข้าร้านชุดเวดดิ้งของซ่งหวั่นถิง
หลังจากเขาจอดรถดับเครื่องแล้ว แม้แต่เซียวชูหรันก็ค่อนข้างแปลกใจเช่นกัน
ตนแค่ให้เขาไปถามเช่าชุดเจ้าสาวที่ค่อนข้างดูดีมาจากเพื่อนสักชุดเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าเขาจะพามาเช่าที่นี่
ที่นี่คือร้านค้าแบรนด์หรูของหวังเวยเวยนักออกแบบชุดแต่งงานชั้นยอดเลยนะ!
แม้แต่ตัวเซียวชูหรันเองก็ยังไม่กล้าคาดหวังว่าจะมีโอกาสได้สวมชุดเจ้าสาวสุดหรูแบบนี้เลย
ไม่นึกเลยว่าสามีของตน จะมีคุณสมบัติในด้านนี้ด้วย
คงไม่ใช่ว่าร้านชุดเวดดิ้ง ก็ต้องการให้เขามาดูฮวงจุ้ยให้ด้วยกระมัง?
เวลาที่กำลังคิดๆ อยู่ เย่เฉินก็เปิดประตูลงมาจากรถแล้ว
เวลานี้เอง หญิงสาวร่างสูง หน้าตาสะสวย บุคลิกสูงส่งคนหนึ่งก็เดินออกมาจากร้านชุดเวดดิ้ง เซียวชูหรันพบว่าตนรู้จักหญิงสาวคนนี้ เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซ่ง ซ่งหวั่นถิง
ตอนที่สตูดิโอของเธอเปิดตัวเป็นครั้งแรก ซ่งหวั่นถิงก็ได้มาแสดงความยินดีกับเธอด้วย
ในตอนนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหนูตระกูลใหญ่อย่างซ่งหวั่นถิง ในใจเซียวชูหรันก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองอยู่บ้าง แถมยังรู้สึกด้อยกว่าอยู่บ้าง
ตอนนี้พอได้พบกับซ่งหวั่นถิงอีกครั้ง ในใจเซียวชูหรันก็ลั่นกลองถอยทัพขึ้นมาแล้ว ไม่อยากลงจากรถไปเผชิญหน้ากับเธอเลย
เพียงแต่ พอนึกถึงว่ายังต้องช่วยจางเสี่ยวม่านลองชุดเจ้าสาวอยู่ ไม่อาจซ่อนตัวอยู่ในรถลอดไปได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงทำได้เพียงแข็งใจก้าวลงไป
ตอนนี้ซ่งหวั่นถิงมาถึงเบื้องหน้าเย่เฉินแล้ว ดวงตาทอแววหวานล้ำ เอ่ยทักทายอย่างนอบน้อมด้วยใบหน้าที่เจือรอยยิ้มไว้น้อยๆ “ปรมาจารย์เย่ คุณมาแล้ว”
เย่เฉินถามอย่างประหลาดใจ “ทำไมคุณก็มาด้วยล่ะ?”
ซ่งหวั่นถิงตอบด้วยรอยยิ้ม “ปรมาจารย์เย่ต้องการชุดเจ้าสาว หวั่นถิงย่อมต้องมาจัดการให้คุณด้วยตัวเอง”
ขณะที่พูดคุยอยู่ พลันมองเห็นเซียวชูหรันก้าวลงมาจากรถแอสตันมาร์ตินร่น ONE77 ที่อยู่ด้านหลังคันนั้นแล้ว ความอิจฉาและริษยาเสี้ยวหนึ่งวาบผ่านนัยน์ตา เอ่ยกับเย่เฉินว่า “คุณนายเย่ก็มาด้วยนี่เอง”
เย่เฉินพยักหน้า ตอนนี้ จากเสี่ยวม่านก็ลงมาจากรถอย่างกระวนกระวายแล้ว ดังนั้นเย่เฉินจึงเอ่ยกับซ่งหวั่นถิงว่า “ท่านที่อยู่ด้านข้าง ก็คือเพื่อนสมัยมัธยมปลายของภรรยาผม คนที่แต่งงานวันนี้ก็คือเธอ ดังนั้นยังคงต้องขอให้คุณรีบจัดเตรียมชุดเจ้าสาวที่พอดีตัวให้สักชุด เปลี่ยนชุดเจ้าสาวเสร็จพวกเราก็จะไปกันเลย”
ซ่งหวั่นถิงได้ยินประโยคนี้แล้วก็รีบเอ่ยกับเซียวชูหรันและจางเสี่ยวม่านทันที “คุณนายเย่ ยังมีคุณสุภาพสตรีท่านนี้ด้วย เชิญเข้ามาลองชุดเจ้าสาวในร้านเถอะค่ะ”
จางเสี่ยวม่านมองโลโก้แบรนด์ที่ติดอยู่เหนือประตูร้าน พบว่าเป็นร้านชุดเวดดิ้งของหวังเวยเวย ก็อุทานด้วยความตกใจ “ชูหรัน นี่…นี่หมายความว่ายังไงกัน?”
เซียวชูหรันย่อมประหลาดใจมากเช่นกัน เพียงแต่ยังคงแสร้งเอ่ยอย่างสุขุมว่า “ฉันให้เย่เฉินช่วยเช่าชุดเจ้าสาวที่เหมาะสมกว่านี้ให้เธอสักชุดน่ะ ดังนั้นเขาเลยพาพวกเรามาที่นี่”
พูดแล้ว เธอก็หันไปเอ่ยกับซ่งหวั่นถิงอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติว่า “คุณหนูซ่งคะ ไม่นึกเลยว่าคุณจะอยู่ที่นี่ วันนี้ต้องรบกวนคุณด้วยนะคะ”
ซ่งหวั่นถิงแย้มยิ้มสุขุมแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างจริงจัง “คุณนายเย่คะ คุณไม่ต้องเกรงใจฉันหรอกค่ะ คุณกับปรมาจารย์เย่ล้วนเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของฉัน ฉันต้องช่วยเหลือพวกคุณทั้งคู่อยู่แล้วค่ะ”
จากนั้น เธอก็ยืดตัวตรง วาดแขนแสดงท่าทีเชื้อเชิญ กล่าวว่า “เชิญข้างในเถอะค่ะ!”
——-