ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1162
อีกฝั่ง พ่อของซุนหงเหว่ยก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า “หงเหว่ย ความจริงเรื่องนี้แกต้องเชื่อฟังพ่อกับแม่นะ ตอนนี้เรื่องแต่งงานต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกัน ตระกูลซุนของเราไม่ใช่ตระกูลมหาเศรษฐีอะไร แต่อย่างน้อยก็เป็นครอบครัวคนรวยที่มีทรัพย์สินหลายสิบล้าน ในบรรดาเพื่อนฝูงญาติ ครอบครัวของเรามีฐานะที่สุด ถ้าแกเชื่อพ่อ หาคุณหนูที่ครอบครัวฐานะไล่เลี่ยกับเราหรือที่มีเงินมากกว่าเรา ถ้าเป็นแบบนั้นความสามารถของตระกูลเรา ในบรรดาตระกูลซุน ครอบครัวของเราก็จะเจริญก้าวหน้ากว่าเพื่อน”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ สีหน้าพ่อของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกแล้วกล่าวอย่างถอนหายใจว่า “แกนะเป็นเด็กไม่ยอมเชื่อฟัง หาผู้หญิงคนไหนไม่หา ดันไปหาคนจนแบบนี้ ถึงตอนนั้นครอบครัวเราไม่ถูกพวกเพื่อนพ้องญาติมิตรเหล่านี้หัวเราะเยาะแย่เหรอ!”
ซุนหงเหว่ยเจ็บปวดใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาจริงใจต่อจางเสี่ยวม่าน ทั้งอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัย จนกระทั่งถึงปัจจุบันเป็นเวลาหลายปี ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน รักๆใคร่ๆกันมาตลอด ตอนนั้นในหมู่เพื่อนฝูง ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่อิจฉาความสัมพันธ์ที่มั่นคงอย่างที่สุดนี้ของพวกเขา
ในใจเขา ถ้าตนและจางเสี่ยวม่านได้รับคำอวยพรจากครอบครัว ใช้ชีวิตไปด้วยกัน เขาจะต้องเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่เข้าใจ ว่าทำไมพ่อแม่ของตัวเองต้องขัดขวางการแต่งงานของตนเองขนาดนี้
แม้จางเสี่ยวม่านไม่ใช่ลูกคนรวยอะไร แต่เธอเป็นผู้หญิงที่หาได้ยากยิ่ง
แต่เสียดายพ่อแม่เลือกปฏิบัติ มองไม่เห็นข้อดีของจางเสี่ยวม่านเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาคิดแค่ว่าครอบครัวของจางเสี่ยวม่านไม่มีเงินไม่มีอำนาจ ดังนั้นจึงดูถูกเธอ และไม่อยากให้เธอแต่งเข้าบ้าน
ไม่ว่าตนจะโน้มน้าวยังไง ข้อร้องยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงความคิดเดิม
ต่อให้เป็นตอนนี้ จางเสี่ยวม่านได้ตั้งครรภ์สายเลือดของตัวเอง พวกเขาก็ยังคงเหยียดหยามเธอ นี่ทำให้ซุนหงเหว่ยเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก
เขาคิดถึงขั้นว่า ถ้าพ่อแม่ไม่เห็นดีเห็นงามและสนับสนุนการแต่งงานของตนจริงๆ งั้นสู้ตนรอให้เสร็จพิธีแต่งงานก่อน แล้วค่อยพาจางเสี่ยวม่านหนีไปให้ไกลเสียดีกว่า
ขณะนี้ ช่วงเวลาสุดท้ายที่จะถึงเก้าโมงยี่สิบ เหลืออีกไม่ถึงห้านาที
จางเสี่ยวม่านยังคงไม่ปรากฏตัว
ซุนหงเหว่ยอดกังวลใจไม่ได้ เขากังวล ว่าพ่อแม่ของจางเสี่ยวม่านจะขัดขวางเธอเอาไว้หรือเปล่า ไม่ให้เธอแต่งเข้าบ้าน
ขณะนี้ แม่ของซุนหงเหว่ย พูดกับสามีของตัวเองด้วยน้ำเสียงสะใจอย่างเบาๆว่า “ฉันว่า ตระกูลจางไม่มีทางให้จางเสี่ยวม่านแต่งเข้ามาแน่นอน เพราะพวกเราไม่ให้เงินพวกเขาเลยแม้แต่แดงเดียว ไม่ไปแม้กระทั่งสู่ขอ พูดได้ว่าไม่ให้เกียรติพวกเขาเลยแม้แต่น้อย พ่อแม่ของเธอไม่ได้เงินของเราแม้สักบาท แล้วยังถูกพวกเราตบหน้า ต้องไม่ให้เธอแต่งกับหงเหว่ยแน่นอน ดังนั้นฉันว่า งานวันนี้จะเป็นงานที่จะทำให้หงเหว่ยหมดใจเสียที”
พ่อของซุนหงเหว่ยกล่าวอย่างเจ็บปวดว่า “งั้นต้นทุนงานในวันนี้สูงไปหรือเปล่า โต๊ะจีนหลายสิบโต๊ะที่ฮิลตัน บวกกับการฉลองงานแต่งต่างๆนานา พวกเราจ่ายไปสี่ห้าแสนแล้วนะ”
แม่ของซุนหงเหว่ยขมวดคิ้วกล่าว “สี่ห้าแสนแล้วไง? เพียงแค่ให้ลูกชายคนฉันแยกจากคนจนคนนั้นได้ ต่อให้หนึ่งล้านฉันก็ยอมจ่าย!”
พูดพลาง เธอได้ลดเสียงให้ต่ำลงไปอีก แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “จะบอกให้ พี่ลูบอกฉันว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวของประธานเซว์ได้กลับมาแล้ว และเธอก็เลิกกับแฟนต่างชาติของเธอคนนั้นแล้วด้วย ภรรยาของประธานเซว์บอกว่าจะหาแฟนที่เมืองจินหลงให้เธอ ถ้าลูกชายของเราคบกับลูกสาวของประธานเซว์ จะช่วยครอบครัวของเราได้มากเลยนะ!”
พ่อของซุนหงเหว่ยขมวดคิ้ว แล้วกล่าว “ผมเคยได้ยินคนพูดว่า แฟนต่างชาติคนนั้นของลูกสาวของประธานเซว์ เป็นคนดำหนิ ลูกชายของเรารับของต่อจากคนดำ มันค่อนข้าง…….”
“แล้วไง?” แม่ของซุนหงเหว่ยกล่าว “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าเป็นดองกับประธานเซว์ได้ ธุรกิจในภายภาคหน้าของเราจะง่ายขึ้น เงินสิถึงจะสำคัญที่สุด!”
———-