ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1197
เมื่อเห็นหงห้าต้องการพาคนกลุ่มนี้ไปสำนักงานกิจการพลเรือนเฉินจื๋อข่ายถามเย่เฉิน : “อาจารย์เย่ ผมต้องไปดูด้วยไหมครับ?”
เย่เฉินโบกมือ แล้วพูดเรียบๆ : “คุณไม่ต้องไปแล้ว รอดื่มเหล้ามงคลกับผมที่นี่แหละ”
เซียวชูหรันที่อยู่ข้างๆ ไม่มีคำพูดใดๆ ตามองคนต่างถูกพาไปจึงอดไม่ได้ที่จะถามเย่เฉิน : “เย่เฉิน วันนี้พวกเรามาร่วมงานแต่งของเสี่ยวม่านกับหงเหว่ย เรื่องพ่อเขามันไม่ค่อยสมควรนิดหน่อยมั้ง……”
เย่เฉินถามเธอยิ้มๆ : “ภรรยา อย่างนั้นคุณคิดว่ายังไงคือเหมาะสม? ถ้าวันนี้ไม่ให้สวีลี่ฉินคนนั้นออกไปจากตระกูลซุน ถ้าวันนี้ไม่ให้สีสันกับตระกูลซุนสักหน่อย คุณรู้สึกว่าเพื่อนมัธยมปลายของคุณคนนี้หลังจากแต่งเข้าตระกูลซุนไปสามารถมีวันที่ดีได้ไหม?”
เซียวชูหรันเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเบาๆ
เธอรู้ว่าที่เย่เฉินพูดไม่ผิด ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไข อย่างนั้นด้วยนิสัยคนอย่างเซียวชูหรัน อนาคตจางเสี่ยวม่านต้องลำบากมากแน่ๆ
ถึงเวลานั้นตนเองก็ช่วยอะไรจางเสี่ยวม่านไม่ได้ ดังนั้นไม่เท่าให้เย่เฉินจัดการแก้ปัญหาเพียงครั้งเดียวให้สบายไปทั้งชาติ
เมื่อถึงจุดๆนี้ เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูด : “แค่ไม่รู้ว่าซุนหงเหว่ยจะเกลียดพวกเราไหม?”
เย่เฉินพูดเรียบๆ : “ผมช่วยเขามากขนาดนี้ ถ้าเขาเกลียดผม อย่างนั้นคนคนนี้ก็เกินเยียวยาแล้ว”
พูดเสร็จ เย่เฉินโบกมืออีกครั้ง พูดยิ้มๆ : “โอเค พวกเราเข้าไปรอข้างในก่อน เมื่อพวกเขาจัดการเรื่องหยุมหยิมเหล่านี้เสร็จ แล้วกลับมา งานแต่งก็น่าจะเริ่มได้แล้ว”
สำนักงานกิจการพลเรือนเมืองจินหลิง
ทั้งเจ็ดคนดูกล้ำกลืนฝืนทน ภายใต้การนำของท่านหงห้า เดินนำเข้าไปในประตูใหญ่ของสำนักงานกิจการพลเรือน
ทั้งเจ็ดคนแบ่งเป็นคู่แต่งงานหนุ่มสาวซุนหงเหว่ยกับจางเสี่ยวม่าน และนอกจากนี้ยังมีเจ้าบ่าวคนใหม่ซุนเต๋อวั่ง รวมถึงภรรยาคนปัจจุบันของเขาสวีลี่ฉิน
นอกจากสี่คนนี้ ยังมีภรรยาคนใหม่ที่ต้องจดทะเบียนกับซุนหงเหว่ยอีกสักครู่ รวมถึงพ่อแม่ของเซว์จิ้งจิ้ง
หลังจากหงห้าพาพวกเขามาถึงสำนักงานกิจการพลเรือนพนักงานของสำนักงานกิจการพลเรือนรีบเข้ามาถามไถ่ : “ขอโทษนะคะทุกท่าน ต้องการติดต่อเรื่องอะไรคะ?”
หงห้าเหลือบมองผู้คนทีหนึ่ง และเปิดปากถาม : “พวกคุณใครจะมาก่อน?”
ซุนหงเหว่ยพูดอย่างกล้ำกลืน : “อย่างนั้นให้ผมกับจางเสี่ยวม่านมาก่อนเถอะ ผมสองคนจะจดทะเบียน”
“ได้” หงห้าพยักหน้าพูดกับพนักงาน : “มา ทำเรื่องจดทะเบียนสมรสให้พวกเขาสองคน”
พนักงานพยักหน้า จากนั้นดูเอกสารที่เกี่ยวข้องของทั้งสองคน และช่วยทั้งสองจดทะเบียนสมรสในระบบ
เนื่องจากทั้งสองคนไม่ได้เตรียมรูปถ่ายในการใช้จดทะเบียนสมรสมาด้วย ดังนั้นพนักงานในหน้าที่จึงถ่ายรูปแต่งงานพื้นหลังสีแดงให้ทั้งสองคน
หลังจากนั้นไม่นาน ใบทะเบียนสมรสสีแดงสดก็ปรากฏออกมา
เมื่อได้ทะเบียนสมรส คู่รักใหม่ก็ถอนหายใจโล่งอกออกมา ไม่ว่าเรื่องราวในอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยพวกเขาก็ถือว่าเป็นคู่รักที่แต่งงานกันแล้ว
หลังจากพนักงานยื่นทะเบียนสมรสให้ทั้งสองคน ก็ถามขึ้น : “คนอื่นๆ มาติดต่อเรื่องอะไรคะ?”
หงห้าชี้นิ้วไปที่ซุนเต๋อวั่งและสวีลี่ฉิน พูดเสียงเย็น : “มา จัดการเรื่องหย่าให้พวกเขาสองคน”
ซุนเต๋อวั่งและสวีลี่ฉินต่างหน้าเหยเก ดูแล้วในใจยุ่งเหยิงและดิ้นรนมาก แต่ในตอนนี้ทั้งสองไม่กล้าสร้างปัญหาใดๆ
สวีลี่ฉินร้องไห้นานจนดวงตาปูดบวม แต่ก็ทำได้เพียงแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลให้ตามที่พนักงานต้องการ
หลังจากพนักงานตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของทั้งสองคนแล้ว จึงเปิดปากพูด : “ตามระเบียบของพวกเรา ทั้งสองยื่นคำขอหย่า ก่อนอื่นต้องแสดงใบทะเบียนสมรสของพวกคุณก่อน”
——–