ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1228
ฉินเอ้าตงเห็นเย่เฉินดื่มชาหมดแล้ว รีบเข้ามาเติมให้เขาอีกแก้วอย่างนอบน้อม ถามอย่างเอาใจใส่ว่า “อาจารย์เย่ ไม่รู้ว่าคุณพอใจกับชานี้ไหมครับ?”
เย่เฉินพยักหน้ายิ้มๆ พูดว่า “โอเคนี่ฉินเอ้าตง ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเคยเรียนมาล่ะสิ? คิดไม่ถึงจริงๆว่า คนนิสัยอย่างคุณจะสามารถทนเรียนชงชาได้”
ฉินเอ้าตงเมื่อก่อนเป็นคุณชายไม่เอาถ่านคนหนึ่งนี่เอง
ไม่เพียงไม่เอาถ่าน แถมยังชอบขี้อวดร่ำรวย วันๆซื้อของมั่วซั่วไปตามตลาดของโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่าซะหมด
แม้กระทั่งตอนวีจิ้งไห่มาร่วมงานประมูลที่จินหลิง เขายังคอยหาเรื่องวีจิ้งไห่อยู่เสมอ
ไม่คิดว่าหมอนี่ไม่เจอพักหนึ่ง นิสัยเปลี่ยนไปไม่น้อยเลย และรู้เรื่องขึ้นมากทีเดียว
ฉินเอ้าตงได้ยินเย่เฉินชมเชยตน รีบอธิบายหน้าแดงเรื่อว่า “อาจารย์เย่ เมื่อก่อนผมยังเด็กไม่ประสาอะไร ทำให้คุณไม่พอใจ ขอได้โปรดอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะครับ ช่วงนี้อารองของผมเก็บตัวผมสำนึกผิดในบ้าน และยังให้ผมเรียนชงชา เรียนปั้นถ้วยกระเบื้องฝึกควบคุมอารมณ์ ผมในตอนนี้ไม่ลุกลี้ลุกลนเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ…”
เย่เฉินพยักหน้าบอก “ได้ คนเราน่ะนะ หนึ่งกลัวรน สองกลัวลอย คุณสามารถสงบจิตใจลงมาสำรวจตัวเอง แสดงว่าไม่ได้หมดทางเยียวยาเหมือนตอนแรก”
ฉินกางพูดยิ้มๆอยู่ด้านข้างว่า “ผมบอกเจ้าเด็กนี่นานแล้ว ถ้าเขาไม่คิดจะปรับปรุงนิสัยของเขานะ ผมกับพ่อเขาจะจับเขาขังไว้ในตระกูลฉิน ซักสิบปีแปดปีไม่ยอมให้เขาออกมาเลย ป้องกันเขาออกไปก่อเรื่องให้ตระกูลเรา โชคดีที่เจ้าเด็กนี่พอรู้สำนึกบ้าง ยอมปรับปรุงตัวเอง”
ระหว่างพูด ฉินเอ้าเสวี่ยนวิ่งพลางกระโดดขึ้นรถ พอเห็นพ่อกับน้องชายกำลังดื่มชาเป็นเพื่อนอาจารย์เย่ เธอหัวเราะร่าพูดว่า “อาจารย์เย่ พ่อ เอ้าตง รอกันนานเลยสิ พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
ฉินกางชี้ไปที่ฉินเอ้าเสวี่ยน หัวเราะบอกเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ คุณดูสิ ตอนคุณอยู่ต่อหน้ายัยหนูนี่ ขนาดพ่อแท้ๆอย่างผมยังต้องรอต่อคิวด้านหลังเลย”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพูดอย่างเก้อเขินว่า “ไอ้หยาพ่ออ่ะ เป็นแบบนั้นที่ไหนกัน! หนูแค่เคารพอาจารย์เย่ แถมอาจารย์เย่ยังเป็นแขกคนสำคัญของบ้านเรา หนูควรต้องถามไถ่อาจารย์เย่ก่อนอยู่แล้วสิ!”
ฉินกางหัวเราะบอกว่า “ดูเราสิๆ พ่อแค่พูดนิดหน่อย ไม่ได้จะว่าอะไรนี่นา เราจะตื่นเต้นทำไมกัน”
ฉินเอ้าเสวี่ยนเบ้ปากบอก “หนูตื่นเต้นที่ไหนกัน! พ่อน่ะพูดมั่วไปเรื่อย!”
ฉินกางหัวเราะอย่างรักใคร่ว่า “ไอ้หยา เอาล่ะๆ พ่อพูดมั่วเอง มาๆๆ รีบพยุงอาจารย์เย่นั่งลงซะ ให้คนขับออกรถได้ พวกเรากลับบ้านกินข้าว!”
ฉินเอ้าเสวี่ยนหน้าแดงรีบพยุงเย่เฉินนั่งลง
คราวนี้คนขับรถค่อยๆเคลื่อนรถขับออกจากที่จอดรถโรงยิม
คฤหาสน์ตระกูลฉินไม่อยู่ในเมือง แต่อยู่ที่โฮมสเตย์สุ่ยหยุนนอกเมือง ติดกับอ่างเก็บน้ำจินหลิง
อ่างเก็บน้ำจินหลิงเป็นทะเลสาบที่ใหญ่มากของนอกเมืองจินหลิง และเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดของจินหลิง
โฮมสเตย์สุ่ยหยุนตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำจินหลิง เรียกได้ว่ายึดเอาอ่างเก็บน้ำจินหลิงเป็นทะเลสาบที่สร้างจากฝีมือมนุษย์ขนาดใหญ่มหาศาลเข้าเป็นเขตของตัวเองไปดื้อๆ ดังนั้นสภาพแวดล้อมคือดีมาก ไม่ใช่อะไรที่เขตคฤหาสน์ในตัวเมืองจะเทียบได้เลย
คฤหาสน์ตระกูลฉินซื้อมาหลายปีแล้ว และตอนแรกฉินกางตาแหลมมาก ในตอนที่ในเมืองยังไม่ระบุเอกสารจัดการเรื่องการจัดสรรคฤหาสน์ เขาก็จัดการซื้อคฤหาสน์สองแห่งขึ้นที่นี่ และเอาสองคฤหาสน์รวมเข้าด้วยกัน
และสองคฤหาสน์ของเขายังติดริมทะเลสาบ ทุกวันที่เปิดประตู ก็จะเห็นอ่างเก็บน้ำที่สร้างจากฝีมือมนุษย์นี่ชัดเจน รวมถึงสภาพแวดล้อมเขียวขจีธรรมชาตินี้ด้วย บรรยากาศเรียกได้ว่าวิจิตรมาก
สวนของคฤหาสน์ตระกูลฉินใหญ่มาก ขนาดรถบ้านแบบนี้ยังจอดได้เจ็ดแปดคันเลย รับรองว่าไม่มีปัญหา
หลังจากรถจอดลงในสวนเรียบร้อย ฉินเอ้าเสวี่ยนพูดกับเย่เฉินอย่างร้อนใจ “อาจารย์เย่ ฉันพาคุณไปเดินดูท่าเรือเล็กริมทะเลสาบละกันค่ะ ฉันมีSpeed Boatลำหนึ่ง พาคุณไปล่องเรือกินลมเล่นได้พอดี!”
——-