ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 123 แบล็กลิสต์มันทุกด้าน(1)
บทที่123 แบล็กลิสต์มันทุกด้าน(1)
ตอนนี้เซียวชูหรันยังไม่รู้ว่าหานเฉียงมีเจตนาไม่ดี เพราะเห็นว่าเขาสุภาพ ก็เลยพูดต่อ “หานเฉียง คุณเกรงใจมากไปแล้ว”
หานเฉียงยิ้ม หยิบประวัติของเซียวชูหรันจากโต๊ะขึ้นมาดู แกล้งพลิกไปมา หลังจากนั้น ก็พูดด้วยเสียงแบบลำบากใจว่า “ชูหรัน ตามประวัติการทำงานของคุณแล้วไม่ค่อยเหมาะกับบริษัทสิ้นเหอของเรา ไม่ว่าจะเป็นความสามารถ หรือประสบการณ์ ก็ด้อยไปหน่อย”
พูดไป หานเฉียงก็ถอนหายใจ และกล่าวว่า “เสียใจด้วย ชูหรัน คุณไม่ผ่านการสัมภาษณ์ แนะนำให้ไปลองสมัครงานที่บริษัทอื่น ๆ ดูน่ะ!”
เซียวชูหรันผงะ แล้วพูดอย่างรวดเร็ว “ยังไงตอนที่ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทเซียวซื่อก็เป็นผู้บริหาร ไม่มีปัญหาเรื่องความสามารถ เป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน”
หานเฉียงส่ายศีรษะ พูดอย่างจริงจัง “ไม่ ๆ ๆ ความสามารถ และคุณสมบัติที่คุณหมายถึง มันก็เป็นเพราะว่าคุณเป็นคนตระกูลเซียว เมื่อออกจากตระกูลเซียวแล้ว คุณก็ไม่ใช่อะไรเลยสักอย่าง!”
“ช่างเถอะ” เซียวชูหรันสีหน้าเคร่งขรึม หานเฉียงต่อต้านตัวเองอย่างชัดเจน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ไม่ต้องบอกว่าในใจเซียวชูหรันรู้สึกโมโหแค่ไหน เธอรู้ดีว่าจะมาทำงานที่บริษัทสิ้นเหอเป็นเรื่องยาก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องแสดงสีหน้ายิ้มแย้มอีกต่อไป จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินตรงออกไปเลย
หานเฉียงยิ้มอย่างมีชัยอยู่ข้างหลัง และพึมพำ “ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่บริษัทการก่อสร้างสิ้นเหอ คุณก็อย่าหวังว่าจะได้เข้ามาทำงานที่นี่!”
ตอนนี้ เย่เฉินได้รออยู่ที่มุมพักผ่อน หลังจากนั้นไม่นาน เซียวชูหรันก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเสียใจ
เขารีบลุกขึ้น ถามอย่างสงสัย “คุณ(ภรรยา)เป็นอะไรไป? การสัมภาษณ์งานไม่ราบรื่นเหรอ? ”
ดวงตาของเซียวชูหลินแดงก่ำ บอกเล่าเหตุการณ์ที่เจอตอนสัมภาษณ์งาน
หลังจากที่เย่เฉินฟังจบ เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ไอ้เจ้าหานเฉียง ให้หน้าไม่เอาหน้า ที่ฉันไม่ไปหาเรื่องแกก็ถือว่าให้เกียรติแกแล้ว แกยังกล้ามารังแกภรรยาฉัน?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาส่งข้อความให้หวังเจิ้งกาง “หานเฉียงของบริษัทการก่อสร้างสิ้นเหออวดเก่งไปแล้ว แม้แต่ภรรยาผมก็ยังกล้ารังแก ประธานหวังคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี? ”
หวังเจิ้งกางอยู่กับบอดี้การ์ด นั่งรอเย่เฉินอยู่ในห้องโถง หลังจากที่ได้รับข้อความนี้ เขาตกใจจนอึ้งไป!
แม่งฉิบหาย ตัวเองพยายามประจบเย่เฉิน หานเฉียงดันไปล่วงเกินภรรยาของเย่เฉิน สร้างปัญหาให้ตัวเอง?
ภายใต้ความโกรธ หวังเจิ้งกางพูดกับผู้ช่วยของเขาทันทีโดยไม่ลังเล “เรียกคณะกรรมการทุกคนของบริษัทสิ้นเหอมา!”
บริษัทการก่อสร้างสิ้นเหอ เป็นบริษัทในเครือของตระกูลหวัง ฉะนั้นหวังเจิ้งกางพูดอย่างห้าวหาญเช่นนี้ เปรียบเสมือนจักรพรรดิก็ว่าได้
เมื่อได้ยินว่าหวังเจิ้งกางเข้ามา คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงทุกคนรีบออกมาต้อนรับ
หวังเจิ้งกางเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลหวัง คณะกรรมการทั้งหลายก็ไม่กล้าล่วงเกินเขา ถ้าหากเขาโกรธขึ้นมาแล้วก็ยุบบริษัทสิ้นเหอ คนทั้งหมดนี้ก็คงต้องนอนข้างถนนเป็นแน่
หานเฉียงไม่ใช่คณะกรรมการ ฉะนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้ได้สร้างปัญหาใหญ่แค่ไว้ไหน
หลังจากที่เขาไล่เซียวชูหรันไปแล้ว ก็กลับเข้ามาที่ออฟฟิศของตัวเอง นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานด้วยใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องพลางสูบซิการ์ไปด้วย
หลิวเจี้ยนหัวกับถังเจียนได้ยินว่าเขาไล่เซียวชูหรันไปแล้ว รู้สึกค่อยหายแค้นขึ้นมาหน่อย จึงประจบเขาต่อ “ประธานหานนี่สุดยอดจริง ๆ พูดแค่ประโยคเดียวก็ทำให้เซียวชูหรันไสหัวออกไปเลย”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ประธานหานเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทสิ้นเหอ ในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของพวกเรา ประธานหานเป็นคนที่หน้าที่การงานดีที่สุด”
หลิวเจี้ยนหัวกับถังเจียนประจบหานเฉียง คิดในใจ หากได้พึ่งพาอาศัยหานเฉียง ไม่พูดถึงว่าจะมีตำแหน่งใหญ่โตอะไร อย่างน้อยก็ต้องมีอนาคตที่สดใสแน่นอน
หานเฉียงกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วกล่าวว่า “เมื่อก่อนผมก็ไม่ชอบหน้าเย่เฉินอยู่แล้ว ตอนนี้เมียมันอยากจะมาทำงานที่บริษัทสิ้นเหอ ไม่มีทาง!”
ถังเจียนพูด “ไอ้หยา ประธานหานเมื่อกี้คุณควรจะเอามือถือถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ฉันอยากเห็นหน้าตอนที่ถูกปฏิเสธแล้วว่าน่าเกลียดขนาดไหน!”
หานเสียงหัวเราะฮ่า ๆ แล้วกล่าวว่า “แม่งฉิบหาย เธอก็เหมือนจะร้องไห้ น่าขำจริง ๆ เลย!”
หลิวเจี้ยนหัวรีบถามต่อ “แล้วเย่เฉินละ? มาด้วยกันไหม?”
“ไม่เห็นน่ะ” หานเฉียงกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “หากเย่เฉินไอ้ยาจกมันกล้ามา แม่งฉิบหายฉันจะด่ามันเลย เป็นไอ้ยาจกแล้วยังจะกล้ามาบริษัทสิ้นเหออีก จะตีให้ขามันหักไปเลย!”
ถังเจียนพูดชม “ประธานหานคุณนี่เก่งจริง ๆ! ไอ้ยาจกเย่เฉินจะเทียบคุณได้ยังไง! ”
……