ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1275
ตั้งแต่เย่เฉินมาที่จินหลิง หลายปีมานี้ เขาได้เจอเพื่อนเก่าเพียงคนเดียว และเพื่อนเก่าคนนี้คือพ่อบ้านของตระกูลเย่ ถังซื่อไห่
ตอนนั้นจู่ๆถังซื่อไห่ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา และมอบตี้เหากรุ๊ปและเงินสด 10 พันล้านในนามของตระกูลเย่ให้เขา
แต่ว่า หลังจากนั้นมา เขาไม่เคยกลับไปที่เย่นจิงอีกเลย
ที่น่าสนใจก็คือ แม้ว่าตระกูลเย่จะให้เงิน ให้บริษัท แต่เมื่อได้ยินว่าเขาไม่ยอมกลับไป ก็ไม่มีคนของตระกูลเย่มาหาเขาที่จินหลิงเลย
เพราะเหตุนี้ เย่เฉินก็มีความสุขที่ได้เงียบ
เพราะไม่ว่ายังไงตัวเขาเองนั้นน่ารังเกียจมากต่อความแค้นระหว่างคนรวยอยู่แล้ว และเขาไม่ต้องการให้ตัวเองและเซียวชูหรันภรรยาของเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อที่เขาจะได้มีชีวิตที่มั่นคง และไม่ถูกรบกวนในจินหลิงเหมือนตอนนี้ มันดีกว่าปล่อยให้เขากลับไปที่เย่นจิง แล้วไปต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลังกับตระกูลเย่เพื่อทรัพย์สินนับล้านนั้น
และตอนนี้ เขาได้พบกับเพื่อนเก่าคนที่ 2 ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่ล่วงลับไปแล้ว คู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กที่ว่าของเขา กู้หนานหนาน
ดังนั้น ในขณะนี้ เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ความทรงจำในวัยเด็กก็ค่อยๆปรากฏขึ้นในส่วนลึกของจิตใจของเขา และทำให้เขานึกถึงพ่อแม่ของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว
อาจเป็นเพราะความยากลำบากที่เขาประสบมาหลายปี เมื่อเย่เฉินคิดถึงพ่อและแม่ที่จากไปของเขา เขาได้แต่ถอนหายใจจากก้นบึ้งของหัวใจ หากเขาไม่ได้เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย พ่อแม่ของเขาคงไม่ต้องสิ้นใจก่อนวัยอันควร และตนก็ไม่ต้องผ่านชีวิตที่มันขึ้นๆลงๆเช่นนี้ ในวัย8ขวบ
หากครอบครัวสามคนสามารถใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาได้ งั้นวัยเด็กของตน คงจะมีความสุขมากสินะ?
เมื่อเห็นเย่เฉินเงียบไป กู้ชิวอี้ก็รีบถามว่า:”พี่เย่เฉิน ทำไมพี่ถึงไม่พูดล่ะ? พี่จำฉันไม่ได้เลยจริงๆเหรอ?”
ณ ตอนนี้ เย่เฉินได้สติกลับมา แล้วยิ้มอย่างขมขื่นเล็กน้อย พูดว่า:”พี่จำเธอได้”
“จริงเหรอ พี่จำฉันได้เหรอ?พี่ยอมรับว่าพี่เป็นพี่เย่เฉินแล้วใช่ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้าและพูดว่า:”พี่ก็คือเย่เฉิน เย่เฉินจากตระกูลเย่ในเย่นจิง ที่เมื่อกี้ไม่ยอม แค่ไม่อยากเปิดเผยตัวตนนี้ให้คนอื่นรู้”
กู้ชิวอี๋จับแขนของเย่เฉิน จับแน่น แล้วพูดอย่างตาแดงว่า:”พี่เย่เฉิน พ่อของฉันตามหาพี่มาหลายปี หลังจากลุงเย่ และป้าเย่ถูกฝังที่จิงหลิง พ่อของฉันพาฉันไปกวาดหลุมศพให้พวกเขาทุกปี สารภาพกับลุงกับป้าทุกครั้ง สารภาพว่าไม่สามารถพาพี่กลับไปได้…..”
เย่เฉินถอนหายใจ:”ลุงกู้หาพี่ทำไมอีก?”
กู้ชิวอี๋พูดทั้งน้ำตา:”พ่อบอกว่า กลัวว่าพี่จะพเนจรอยู่ข้างนอกคนเดียวอย่างทุกข์ทรมาน กลัวว่าพี่จะเกิดอันตราย เขาจะไม่สามารถอธิบายให้ลุงเย่และป้าได้……”
พูดจบ กู้ชิวอี๋ก็พูดอีกครั้ง:”หลายปีมานี้ พ่อของฉันได้ค้นหามาทั้งประเทศ แต่ไม่เจอที่อยู่พี่เลย”
“ตอนนั้น ตระกูลเย่เก็บความลับอย่างสูงต่อพี่ เกี่ยวกับที่อยู่และสถานการณ์ของลุงเย่กับป้าเย่ ถึงขนาดตอนที่ลุงและป้ากลับไปทำการฝังศพที่ปักกิ่ง พ่อของฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาตายที่ไหน หรือทำไมถึงตาย……”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว:”เธอหมายความว่า ตระกูลเย่ได้ปกปิดข้อมูลเหล่านี้เหรอ?”
“ถูกต้อง”กู้ชิวอี๋พยักหน้า แล้วพูดว่า:”ตอนนั้นหลังจากที่พี่ออกจากเย่นจิงกับลุงเย่และป้าเย่ ร่องรอยและที่อยู่ของพวกคุณทั้งหมด ก็ถูกตระกูลเย่ลบทิ้งแล้ว ตอนนั้นพ่อของฉันสืบมาตลอด แต่ไม่พบเบาะแสใดๆเลย ทำให้พ่อโกรธจนตะโกนลั่นบ้านหลายครั้ง บอกว่าตระกูลเย่ตามหลังครอบครัวพี่ไปเพื่อลบรอยเท้า ข้อความ และแม้แต่กลิ่นในอากาศไปหมดเลย…..”
ในขณะที่เขาพูด กู้ชิวอี๋ร้องไห้และพูดว่า:”หลังจากที่พ่อของฉันรู้ว่าลุงเย่กับป้าเย่เสียชีวิตแล้ว ก็อยากตามหาพี่ให้เจอ แต่ประวัติทะเบียนบ้านที่ชื่อว่าเย่เฉิน ในประเทศมั่วไปหมดเลย ไม่พบข้อมูลประจำตัวของพี่ในระบบทะเบียนบ้านเลย และไม่รู้ว่าพี่ไปอยู่ที่ไหนมาหลายปีมานี้……”
เย่เฉินพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย:”หลายปีมานี้ ฉันอยู่ที่จินหลิง”
“หา?!”กู่ชิวอี๋เผลอหลุดอุทานออกมา:”พี่เย่เฉิน พี่…..พี่อยู่ที่จินหลิงตลอดเลยเหรอ?”
“ใช่”เย่เฉินพยักหน้า เมื่อเห็นสีหน้าของเธอประหลาดใจมาก ก็ขมวดคิ้วถามว่า:”ฉันอยู่ที่จินหลิงมาตลอด มันแปลกมากเหรอสำหรับเธอ?”