ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1324
ในเวลานี้เห็นเย่เฉิน ใจหญิงสาวในส่วนลึกของจิตใจเธอ ทันใดนั้นรุนแรงออกมา วิ่งเหยาะๆตลอดทางถึงข้างหน้าเย่เฉิน จับแขนของเขาไว้พูดเสียงอ่อนๆว่า “พี่เย่เฉิน วันนี้ฉันก็จะกลับไปเย่นจิงแล้ว คุณตัดใจลงที่จะให้ฉันไปไหม”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า “คุณจะกลับบ้าน อีกทั้งยังจะกลับไปเข้าร่วมการซ้อมใหญ่ของรายการชุนหว่าน ประชาชนทั้งประเทศล้วนรอดูการแสดงของเธออยู่ในรายการชุนหว่านล่ะ”
กู้ชิวอี๋ไม่พอใจบ่นอยู่ “ตอบไม่ตรงคำถาม! สิ่งที่ตัวฉันอยากจะถามคือ คุณตัดใจลงหรือไม่ที่ฉันเองจะจากไป!”
เย่เฉินอยากพูดว่าตัดใจลง แต่รู้สึกว่าหลังจากพูดออกมา กู้ชิวอี๋ย่อมจะโมโหต่อตนเองออกมาอย่างแน่นอน
แต่ว่า เขาก็พูดตัดใจไม่ลงไม่ได้อีก เพราะว่าแท้ที่จริงตนเองอยากให้กู้ชิวอี๋กลับไปจะตาย ไม่งั้นหากเธออยู่จินหลิงต่ออีกล่ะก็ เพียงแต่จะนำความยุ่งยากกับความลำบากให้กับตนเองเท่านั้น
ถ้าหากเซียวชูหรันรู้เรื่องเธอกับตนเอง ยังไม่รู้ว่าจะโมโหมากขนาดไหนล่ะ
ดังนั้น เขาก็เลยพูดลวกๆว่า “ไอ้หยะ ถึงยังไงคุณกลับไปก็ไปยุ่งกับงานของคุณก่อน ไม่กี่วันผมก็จะไปเยี่ยมคุณที่บ้านคุณแล้ว ไม่นานล่ะ”
“งั้นก็ได้” กู้ชิวอี๋เบ้ปากขึ้นมา พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกเบาๆ พูดว่า “ฉันกลับไปไม่บอกพ่อก่อน รอคุณไปแล้วค่อยให้ความตื่นตระหนกตกใจด้วยความดีใจแก่เขา”
เย่เฉินพูดว่า “ได้ งั้นก็อย่าเพิ่งบอกลุงกู้ก่อน”
ในเวลานี้แอร์โฮสเตสกำลังทำการตรวจสอบก่อนที่จะขึ้นเครื่องแล้ว เฉินตัวตัวก็นำกระเป๋าส่วนตัวของกู้ชิวอี๋ขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัวก่อนแล้ว
ส่วนกู้ชิวอี๋ยืนอยู่นอกประตูห้องผู้โดยสาร จ้องมองเย่เฉินที่หล่อสูงใหญ่อยู่ข้างหน้าอย่างอ่อนโยน พูดว่า “พี่เย่เฉิน หลังจากฉันไปแล้ว คุณจำไว้ว่าต้องคิดถึงฉัน รู้หรือไม่?”
เย่เฉินพยักหน้าต่อๆกัน “รู้แล้วๆ คุณวางใจเถอะ ผมย่อมคิดถึงคุณแน่นอน”
กู้ชิวอี๋พูดอีกว่า “คุณต้องมีสปริงในหัวของคุณตลอดเวลา เตือนตนเองไว้ทุกเวลา ฉันถึงจะเป็นคู่หมั้นจริงๆของคุณ ผู้หญิงคนอื่นๆที่อยู่ข้างนอก ทั้งหมดล้วนเป็นแขกที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในชีวิตคุณ ชาตินี้พ่อของฉันมีเพียงฉันเป็นลูกสาวคนเดียว นัยน์ตาก็มีเพียงแค่ลูกเขยคุณคนเดียว คุณอย่าทำให้เขาผิดหวังนะ”
เย่เฉินปวดหัวพักหนึ่ง แต่ก็ได้เพียงอือๆอ่าๆพูดว่า “โอ๊ะ เรื่องนั้น….ผมรู้แล้ว ไอ้หยะ เวลาสายแล้ว คุณรีบขึ้นเครื่องบินเถอะ”
กู้ชิวอี๋ อืม เสียงหนึ่ง อาลัยอาวรณ์ที่จะจากไปพูดว่า “งั้นฉันไปแล้วล่ะ…..”
“ไปเถอะ เดินทางโดยสวัสดิภาพ”
กู้ชิวอี๋เม้มปากจ้องมองเขา หลังจากนั้นไม่นานรวบรวมความกล้า จูบอยู่ที่แก้มของเขาหนึ่งที หน้าแดงพูดว่า “นี่เป็นการให้รางวัลล่วงหน้าแก่คุณ”
เย่เฉินแปลกใจถามว่า “ให้รางวัลแก่ผมล่วงหน้าอะไรล่ะ?”
กู้ชิวอี๋พูดว่า “ให้รางวัลล่วงหน้าแก่คุณจำไว้ว่าต้องคิดถึงฉันล่ะ!”
พูดจบ เธอนี่จึงหน้าแดง หมุนตัวขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลกู้
อยู่ในช่วงเวลาที่ประตูห้องผู้โดยสารจะปิด เธอยังยืนอยู่ประตูโบกมือกับเย่เฉิน
เครื่องบินสตาร์ทเครื่อง ค่อยๆผลักออกจากโรงเก็บเครื่องบิน นี่เย่เฉินจึงโล่งอกไปที รีบกลับไปลานจอดรถ ขับรถตรงไปกลางใจเมือง
ตอนขับรถออกมา เขาก็โทรหาเฉินจื๋อข่ายทันที สายติดก็สั่งว่า “เหล่าเฉิน คุณช่วยผมดูหน่อยว่าจะมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับไฮเอนด์ เป็นคาเวียร์ต่อต้านริ้วรอยอะไรอย่างนี้ใช่หรือไม่?”
เฉินจื๋อข่ายพูดว่า “มีแบรนด์อย่างนี้จริงๆ โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงของพวกเราก็มีขาย แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับไฮเอนด์ระดับสูงสุดในโลก เทียบกับLa Merนั้นแข็งแกร่งกว่าเยอะเลย”
เย่เฉินงงงวยถามว่า “โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขายหรือ?”
เฉินจื๋อข่ายยิ้มพูดว่า “คุณชาย ท่านไม่เคยพักอยู่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงมาก่อน อาจจะขาดความเข้าใจกับส่วนภายในโรงแรมห้องพักของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง แผนกภายในโรงแรมห้องพักของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงของพวกเรา มีห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ขนาดใหญ่ Hermes Chanel Diorอะไร ร้านขายแบรนด์ระดับสูงสุดเหล่านี้โดยเฉพาะมีพร้อมทุกอย่าง เป็นที่นิยมของโรงแรมระดับสูงสุด ที่พักบวกอาหารและเครื่องดื่มบวกความบันเทิงบวกช้อปปิ้งอีก พยายามให้ได้ลูกค้าระดับไฮเอนด์เที่ยวพักผ่อนแบบครบวงจร แม้แต่แรงกำลังที่ออกไปช้อปปิ้งล้วนประหยัดแล้ว”
เย่เฉินรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลัน พูดว่า “งั้นพอดีเลย คุณช่วยไปซื้อเครื่องสำอางคาเวียร์ที่ต่อต้านริ้วรอยอย่างนั้นให้กับผมสามชุด อีกสักครู่ให้คนส่งมาให้ผมที่สนามยิมเนเซียมจินหลิง”