ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1348
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุญคุณความแค้นตอนนั้นของพวกเขา หรือสัมพันธ์ซับซ้อนในตอนนี้ เธอจะไม่ก้าวก่ายอีก
เซียวฉางควนเองก็ไม่คาดหวังว่าลูกสาวจะสนับสนุนตนเต็มที่ ไม่ก้าวก่าย ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เขาจะคิดได้แล้ว ดังนั้นเขาเลยพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ไอ้หยาชูหรัน หนูทำได้ถึงขั้นนี้ พ่อก็ขอบคุณมากแล้วล่ะ!”
เซียวชูหรันถอนหายใจยาว บอกว่า “นาฬิกาเรือนนี้ที่คุณน้าหานให้พ่อ พ่ออย่าใส่ที่บ้านเลยดีกว่า เดี๋ยวแม่เห็นก็ถามไม่หยุด”
“เข้าใจเข้าใจ!” เซียวฉางควนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น พูดรัวๆ “ต่อไปอยู่บ้าน พ่อไม่ใส่เรือนนี้แน่!”
เย่เฉินที่นั่งข้างๆ ถึงจะไม่ได้พูดอะไร แต่พอได้ยินมาถึงตรงนี้ ก็อดถอนหายใจโล่งอกแทนพ่อตาไม่ได้
พ่อตาตนนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จริงการที่เขาทนหม่าหลันมาได้หลายปีขนาดนี้ เหตุผลหลักก็เพื่อเซียวชูหรัน
ถ้าไม่ใช่เพื่อลูกสาวตน เขาไม่มีทางทนมาได้ตลอด ดังนั้นพอมองจากจุดนี้ เห็นได้ชัดเลยว่า พ่อตาตนไม่ได้ไม่มีอะไรเลย อย่างน้อยเขารักเซียวชูหรันมากจริงๆ
แถมต่อให้ตอนโดนเซียวชูหรันคาดคั้นถาม เขาเองก็ไม่เคยพูดว่า ความอยุติธรรมที่ได้รับมายี่สิบกว่าปีนี้เขายอมทนเพื่อเซียวชูหรัน เขาคู่ควรกับคำที่ว่าความรักของพ่อหนักแน่นดุจขุนเขาแล้วล่ะ
…
พอกลับมาที่Tomson Riviera เย่เฉินกำลังขับรถเข้าเขต ก็เห็นอิโตะ นานาโกะใส่หน้ากากปิดปากยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าเขต
ถึงหน้ากากจะปกปิดใบหน้าเธอไป แต่เย่เฉินยังคงวิเคราะห์จากรูปร่าง ทรงผมและความรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้คืออิโตะ นานาโกะ
พอเห็นเขาขับเข้าใกล้ อิโตะ นานาโกะ เดินมาทางเขาหลายก้าวอย่างอัตโนมัติ แต่อาจเพราะเห็นเซียวฉางควนและเซียวชูหรันในรถ เลยชะงักเท้าไป
เย่เฉินรู้ว่าเมียและพ่อตาอยู่ในรถ และไม่สามารถจอดรถทักทายเธอ หรือถามว่าเธอมาหาตนทำไม ดังนั้นเขาได้แต่ขับรถเข้าไปก่อน คิดว่าอีกสักพักจะหาข้ออ้างออกมาดูหน่อย
รถกลับไปถึงคฤหาสน์ของ Tomson Riviera เย่เฉินยังไม่ทันจอดรถสนิท เซียวฉางควนก็เก็บนาฬิกาที่หานเหม่ยฉิงให้เขาแล้ว
พอรถจอดสนิท เขารีบเปิดประตูลงรถ เอานาฬิกาในมือไปซ่อนไว้ในBMWคันนั้นของเขา
เซียวชูหรันเห็นแบบนี้ อดถอนหายใจเบาๆไม่ได้ ถามเย่เฉินเสียงต่ำว่า “รู้สึกว่าพ่อดูน่าสงสารนะ…หลายปีมานี้เขาคงรู้สึกแย่น่าดูเลย?”
เย่เฉินพยักหน้า “พ่อเขาเก็บกดมายี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี เป็นคนอื่นนะบ้าไปนานแล้ว”
เซียวชูหรันถามเขา “คุณรู้เรื่องนี้นานแล้วใช่ไหม? ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณดูไม่ตกใจเลยสักนิดล่ะ?”
เย่เฉินบอก “ครั้งที่แล้วผมเป็นเพื่อนพ่อไปงานเลี้ยงร่วมรุ่นที่มหาลัยเขา ก็เลยเคยได้ยินเขาพูดเรื่องนี้กัน”
เซียวชูหรันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ถามเขาว่า “งั้นทำไมคุณไม่บอกฉันสักหน่อยล่ะ…”
เย่เฉินพูดอย่างเนือยๆว่า “จากนั้นแม่ก็เกิดเรื่องหายตัวพอดี ตอนนั้นคุณเหมือนคนไร้วิญญาณ ในใจคิดแต่จะตามหาแม่ ผมมีหรือจะกล้าหาเรื่องมาใส่คุณอีก?”
เซียวชูหรันผงกหัวเล็กน้อย และถอนหายใจออกมาอีก
เย่เฉินคิดถึงอิโตะ นานาโกะที่อยู่หน้าประตูเขต เลยบอกว่า “คุณกับพ่อเข้าไปก่อนนะ ผมออกไปข้างนอกหน่อย”
เซียวชูหรันถามอย่างแปลกใจ “ดึกป่านนี้แล้วคุณจะออกไปทำไมน่ะ?”
เย่เฉินบอก “ผมไปซื้อยาดีท็อกซ์ตับให้พ่อหน่อย เขาดื่มมาไม่ใช่หรอ!”
เซียวชูหรันบอก “ฉันไปดีกว่า”
เย่เฉินโบกมือปฏิเสธ “คุณเข้าไปเป็นเพื่อนพ่อ เกิดแม่บ่นเขาอีก คุณจะได้คอยช่วยเตือนอยู่ข้างๆได้!”