ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1427
เย่เฉินได้ยินกู้เย้นจงถามถึงยาอายุวัฒนะ ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า:”ลุงกู้ ยานี้มีชื่อว่ายาอายุวัฒนะ ไม่กล้าพูดว่าเป็นยาอมตะจริงๆ แต่ผมขอโม้ว่า อย่างน้อยก็เกินครึ่งอมตะ ยานี้ ถูกกลั่นโดยแพทย์อัจฉริยะจีนโบราณ ผมก็ได้มาโดยบังเอิญ ”
กู้เย้นจงไม่ได้สงสัย เขาและพูดอย่างจริงจัง:”ยานี้วิเศษมากจริงๆ มันดูไม่เหมือนของบนโลกนี่จริงๆ ความรู้สึกที่เมื่อกี้กินยา แทบจะเหมือนฝัน! ดูเหมือนว่า บรรพบุรุษมีพลังเหนือธรรมชาติที่เราไม่เข้าใจอยู่!”
เย่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน “ตำราเก้าเสวียนเทียน” แต่ดูตามอายุแจกันยู่ชุน น่าจะทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง
และขวดไม่มีร่องรอยของการตัดในภายหลัง ก็หมายความว่า กล่องไม้ที่เก็บ”ตำราเก้าเสวียนเทียน” น่าจะวางไว้ก่อนทำโคลน ก่อนที่ช่างฝีมือราชวงศ์ถังจะทำแจกันยู่ชุน….
กล่องไม้และวัสดุของ “ตำราเก้าเสวียนเทียน” นั้นวิเศษมาก ใช้ไฟเผาก็ไม่มีปัญหา พวกมันจะสลายไปทันทีหลังจากเปิดมัน เย่เฉินก็มองกลไกในนั้นไม่ออก
ดังนั้นเขาจึงเห็นด้วยกับคำพูดของกู้เย้นจง
หลังจากดื่มเหล้าไปสามรอบ อารมณ์ของกู้เย้นจงก็ยิ่งคึกคัก ดื่นเหล้าอย่างเมามัน ไม่นาน ทั้งสองก็ดื่มเหล้าขาวไป1ลิตรแล้ว
จู่ๆหลินหว่านชิวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ พูดว่า:”เย้นจง ประชุมคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้ พอคุณปรากฏตัว เกรงว่าจะทำให้หลายคนตกใจ โดยเฉพาะน้องสองและน้องสาม”
กูเย้นจงหัวเราะเยาะเย้ย:”ถูกต้อง! พรุ่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คณะกรรมการทั้งหมดตกตะลึง แต่จะปรับปรุงใหม่คณะกรรมการทั้งหมดอีกด้วย! เมื่อก่อนผมใจดีกับน้องสองน้องสามมากไป และไม่เคยฝันว่าพวกเขาจะซ้ำเติมผมตอนที่ผมป่วยหนัก แต่ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป วันของพวกเขาในกู้ซื่อกรุ๊ป จะไม่ค่อยสบายแล้วล่ะ!”
หลินหว่านชิวรีบพูด:”จากนี้ไป คุณต้องใส่ใจกับเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลก่อน ไม่ว่าจะในบริษัทหรือในบ้าน ก็ต้องเตรียมบอดี้การ์ดให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้องสองและน้องสามเป็นสุนัขจนตรอก”
กู้เย้นจงพยักหน้า:”ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้ผมจะคุยกับผู้รักษาความปลอดภัยของบริษัทให้ดี และใช้เงิน 200 ล้านหยวนเพื่อจ้างทีมรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด เพื่อปกป้องความปลอดภัยของครอบครัวเราตลอด 24 ชั่วโมง ต่อจากนี้ไป นอกเหนือจากคนในบ้านนี้ ฉันจะไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว!”
คนในห้องนี้ที่กู้เย้นจง หมายถึงคือ ภรรยา ลูกสาวของเขาและเย่เฉิน
นอกจากสามคนนี้แล้ว เขาจะไม่เชื่อใครเลยจริงๆ
แม้แต่น้องชายของเขาเองก็สามารถทรยศเขาได้ กระทั่งคิดที่จะแย่งทรัพย์สินของตัวเอง ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังข่มขู่ตัวเองด้วยชีวิตของภรรยาและลูกของเขา ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เขาโกรธ แต่ยังทำให้เขาเห็นสันดานของคนชัดเจน พี่น้องแท้ๆแล้วไง? ต่อหน้าผลประโยชน์ ก็ฆ่ากันไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดเช่นนี้ กู้เย้นจงมองไปที่เย่เฉิน และพูดอย่างจริงจังว่า:”เฉินเอ๋อ ถ้าพรุ่งนี้นายว่าง ไปกับลุงเถอะ มีนายอยู่ด้วย ลุงจะมั่นใจมากขึ้น”
เย่เฉินพยักหน้าแน่นอน และตอบตกลงโดยไม่ลังเล
ที่มาเย้นจิงในครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยกู้เย้นจงแก้ปัญหา
แก้ไขปัญหาทางสุขภาพแล้ว และปัญหาทรัพย์สินต้องพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด
มิฉะนั้น กู้เย้นจงในตอนนี้เพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วยหนัก และการควบคุมบริษัทของเขาอยู่ในขั้นที่อ่อนแอที่สุด อาจจะไม่สามารถเอาชนะน้องชายทั้งสองของเขาได้
ถ้าเกิดน้องชายทั้งสองของเขาร่วมมือผู้ถือหุ้นรายอื่นเพื่อบีบเขาออกไป นี่ก็เป็นปัญหาเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เย่เฉินยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีกว่า น้องชายทั้งสองของเขาอยากจะฆ่าเขา
ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็อยากได้ทรัพย์สินนับแสนล้านเหล่านี้มาเป็นเวลานาน และไม่สามารถยอมแพ้ได้ง่ายๆ