ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1670
อิโตะ นานาโกะถามเย่เฉินว่า: “เย่เฉินซัง งั้นจากนี้ไปฉันยังมีโอกาสได้พบคุณอีกมั้ย?”
เย่เฉินพยักหน้า: “มีสิ ตอนนี้ฉันทำธุรกิจส่วนหนึ่งไว้ที่ประเทศญี่ปุ่น จากนี้ไปไม่แน่ฉันอาจจะมาที่นี่บ่อยๆ”
“งั้นก็ดีมาก!”อิโตะ นานาโกะพูดด้วยความดีใจว่า: “เย่เฉินซัง คุณสามารถรับปากฉันเรื่องหนึ่งได้มั้ย?”
เย่เฉินตอบอือคำหนึ่ง: “คุณพูดมา”
อิโตะ นานาโกะรีบพูดว่า: “ฉันหวังว่าทุกครั้งที่คุณมาประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถที่จะบอกกับฉัน ถ้าหากคุณสะดวก หวังว่าคุณจะอนุญาตให้ฉันไปพบคุณ!”
“อีกอย่าง ถ้าหากฉันไปที่ประเทศจีน ถ้าหากเย่เฉินซังก็สะดวกพอดี ก็ได้โปรดอนุญาตให้ฉันไปพบคุณ ได้มั้ย?”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย: “ไม่มีปัญหา ฉันรับรับปากคุณ”
อิโตะ นานาโกะก็ร้องเสียงดังกึกก้องเหมือนกับเด็กผู้หญิง: “งั้นจากนี้ไปฉันก็จะได้เจอเย่เฉินซังบ่อยๆแล้ว!”
เย่เฉินสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มอันแสนหวานของเธอ น้ำเสียงก็กลายเป็นอ่อนโยนขึ้นมา และพูดด้วยรอยยิ้ม: “เอาล่ะ ฉันส่งคุณกลับไปที่ห้องก่อน เดี๋ยวจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของคุณ”
ในไม่ช้า เย่เฉินภายใต้การชี้นำของอิโตะ นานาโกะ ได้เข็นรถเข็นของเธอ และส่งเธอกลับไปที่ห้องส่วนตัวของเธอ
ในห้องของอิโตะ นานาโกะ มีการจัดวางแบบคลาสสิกสไตล์ญี่ปุ่นทั่วๆไป พื้นของตัวบ้านทั้งหลังทำจากไม้ธรรมชาติ สะอาดเป็นระเบียนที่สำคัญสไตล์เรียบง่ายหรูหรา
มีโต๊ะน้ำชาญี่ปุ่นวางอยู่บนพื้นในห้องหนึ่งตัว ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือและโต๊ะจัดดอกไม้สไตล์ญี่ปุ่น บนผนังห้อง ยังมีผลงานศิลปะการเขียนอักษรด้วยพู่กัน ทั้งหมดอิโตะ นานาโกะแทบจะเขียนด้วยตัวเอง
เย่เฉินส่งเธอไปในห้อง ประคองเธอเดินเข้าไปในห้องนอน
เพื่อป้องกันไม่ให้อิโตะ นานาโกะล้มลง เย่เฉินจับมือของเธอไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งประคองเอวของเธอไว้ การสัมผัสที่ใกล้ชิดขนาดนี้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น และก็ทำให้แก้มทั้งสองของอิโตะ นานาโกะแดงขึ้น
เย่เฉินก็ประคองอิโตะ นานาโกะแบบนี้ ภายใต้ตามความต้องการของเธอ ประคองเธอนั่งลงบนฟูกที่โต๊ะน้ำชา
บนโต๊ะน้ำชา มีชุดน้ำชาญี่ปุ่นชั้นเยี่ยม และยังมีกระถางธูปขนาดเล็ก
หลังจากที่อิโตะ นานาโกะนั่งลง เย่เฉินก็เอ่ยปากพูดว่า: “คุณรอฉันสักครู่ ฉันไปจัดการศพที่ข้างนอกก่อน ”
อิโตะ นานาโกะมองไปที่เย่เฉินอย่างเขินอาย และพูดว่า: “เย่เฉินซัง นานาโกะมีสุภาพไม่ดีไม่สามารถช่วยคุณได้ ก็จะชงชาก่อนแล้วรอคุณมาดื่มนะ”
เย่เฉินหยักหน้า พูดว่าได้ และก็หันหลังออกจากห้องไป
ในเวลานี้ ศพทั้งหกที่นอนอยู่ในหิมะ ถูกหิมะตกหนักใส่ไปครึ่งหนึ่งแล้ว
เย่เฉินย้ายศพไปที่ห้องเก็บของอย่างระมัดระวัง ถึงได้เดินกลับไปที่ห้องของอิโตะ นานาโกะ
ตอนที่กลับมา ในห้องจุดด้วยธูปแท่งไม้หอมแก่นจันทน์ที่กลิ่นหอมเงียบสงบ อิโตะ นานาโกะกำลังใช้ถ้วยชากับฉะเซ็นญี่ปุ่น ตีผงชาเขียวอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นเย่เฉินเข้ามา เธอรีบพูดกับเย่เฉินว่า: “เย่เฉินซังเชิญนั่งก่อน!”
เย่เฉินพยักหน้า นั่งขัดสมาธิอยู่บนฟูกตรงหน้าเธอ
อิโตะ นานาโกะตีชาเขียวไปด้วย พูดกับเขาไปด้วยว่า: “พิธีชงชาญี่ปุ่นอาจไม่เหมือนกับพิธีชงชาจีน ชาของที่นี่ชงด้วยผงชาเขียว ไม่รู้ว่าเย่เฉินพอจะดื่มได้มั้ย”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม: “ตอนเด็กเคยลิ้มลองรสชาติของพิธีชงชาญี่ปุ่นกับพ่อแม่ ฉันรู้สึกโอเคเลยทีเดียว”
อิโตะ นานาโกะพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้ม: “งั้นก็ดี!”
ขณะที่พูด อิโตะ นานาโกะกำลังชงชาให้เย่เฉิน เย่เฉินขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน ลดน้ำเสียงลงแล้วพูดกับเธอว่า: “มีคนปีนกำแพงเข้ามาอีกแล้ว!”
“หา?!”อิโตะ นานาโกะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ: “ใช่พวกเดียวกันกับหลายคนเมื่อกี้นี้มั้ย?”
เย่เฉินส่ายหน้า: “ยังไม่รู้ แต่ว่าอีกฝ่ายมีเพียงคนเดียว อาจไม่ได้มาทำร้ายคุณ เดี๋ยวคุณพูดจาส่งเดช แผนซ้อนแผน”