ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1715
เอมิ นานาโกะและอิโตะ นานาโกะไม่ได้คิดอะไรมากมาย เมื่อเห็นว่านางาฮิโกะ อิโตะต้องการคุยกับเย่เฉินเป็นการส่วนตัว ทั้งสองคนก็ลุกขึ้นเอ่ยขอตัวและออกจากห้องผู้ป่วยไป
หลังจากที่ทั้งสองออกไป นางาฮิโกะ อิโตะก็ค่อยมองไปที่เย่เฉินและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณเย่ ก่อนหน้านี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้คุณขุ่นเคือง ผมต้องขอโทษคุณอย่างจริงจังอีกครั้งจริงๆ และขอบคุณคุณที่ถือคุณธรรมชนะความชั่ว ช่วยเหลือลูกสาวของผม และตระกูลอิโตะเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหากตระกูลซูคิดไปจริงๆ ว่าตระกูลอิโตะเป็นคนฆ่าลูกหลานของตระกูลซู เกรงว่าตระกูลอิโตะคงต้องเผชิญกับการล่มสลายได้”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆและพูดว่า “คุณอิโตะเกรงใจแล้ว ที่ผมช่วยชีวิตของนานาโกะก็เนื่องจากความสัมพันธ์ของเพื่อนฝูง ส่วนการช่วยเหลือตระกูลอิโตะทางอ้อม คุณเองก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรกับผม สุดท้ายแล้วผมก็เป็นคนเอาเงินของคุณไป พวกเราคนจีนมีสุภาษิตโบราณว่า รับเงินผู้อื่นมาแล้ว ย่อมต้องขจัดปัดเป่าภัย ผมรับเงินมาแล้วก็ย่อมไม่อาจนิ่งดูดายได้ คุณว่าจริงหรือไม่?”
ตอนนี้นางาฮิโกะ อิโตะตกตะลึงตาค้างไป
เหตุผลที่เขาตกตะลึงตาค้าง ทั้งหมดก็เพราะตกใจกับความไร้ยางอายของเย่เฉิน
คำพูดของเย่เฉินนั้นชัดเจนอย่างยิ่ง รับเงินผู้อื่นมาแล้ส ย่อมต้องขจัดปัดเป่าภัย ความหมายก็คือ เงินจำนวน 4.5 พันล้านดอลลาร์นั่นจะเอาไปเปล่าๆก็คงไม่ได้ ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตระกูลอิโตะบ้าง
ดังนั้น ตอนนี้เขาจึงได้ช่วยตระกูลอิโตะกำจัดปัดเป่าภัยพิบัติไป และสามารถนำเงินก้อนนั้นไปใช้ได้อย่างสบายใจแล้ว
นางาฮิโกะ อิโตะนอกจากตกตะลึงแล้ว ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
แม้ว่าเขาจะรู้สึกจริง ๆ ว่า ชีวิตของบุตรสาวของเขามีค่ามากเสียยิ่งกว่าสี่หมื่นห้าพันล้านดอลลาร์ แต่เมื่อต้องทิ้งเงิน4.5 พันล้านดอลลาร์ไปจริงๆ ในใจของเขาก็ยังเจ็บปวดอยู่
อย่างไรก็ตาม ในใจเขารู้ชัดเจนดีอย่างยิ่งว่า เงิน 4.5 พันล้านดอลลาร์นี้เสียแล้วก็เสียไป ตนเองไม่มีทางอื่นที่จะได้เงินนี้กลับคืนมาหรือหลีกเลี่ยงการสูญเสียมันได้อีก ดังนั้นตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องคิดเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ้มอย่างประดักประเดิด และพูดกับเย่เฉินว่า “คุณเย่ บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนของคุณมีการพัฒนาอย่างบ้าคลั่งหลังจากผนวกเข้ากับบริษัทผลิตยาโคบายา ผมเชื่อว่าในอนาคตจะต้องยิ่งกว้างไกล ไม่ทราบว่าพวกเราจะสามารถร่วมมือกันบางอย่างในเรื่องนี้ได้หรือไม่?”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณอิโตะ เรื่องนี้อันที่จริงไม่มีอะไรให้ร่วมมือ บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนเป็นรากฐานของชีวิตผม ผมจะไม่มีทางมอบส่วนแบ่งนี้ไปให้ใครอีก”
นางาฮิโกะ อิโตะรีบเอ่ยขึ้น “คุณเย่ ผมไม่ได้ต้องการส่วนแบ่งจากคุณ แต่ต้องการทำความร่วมมือในเชิงลึกกับคุณจริงๆ ในอนาคตตระกูลอิโตะจะถูกส่งต่อให้กับนานาโกะ คุณและนานาโกะเป็นเพื่อนกัน อีกทั้งผมยังมองออกว่า นานาโกะเชื่อใจคุณมากเช่นกัน พวกคุณสามารถทดลองการร่วมมือเชิงลึกในรูปแบบต่างๆได้ นี่ทั้งดีต่อคุณ ต่อพวกเราทั้งคู่ เป็นผลประโยชน์ร่วมกันที่แท้จริง ”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ “เรื่องนี้ผมย่อมพิจารณามันในอนาคต ถ้าหากถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจะไม่ปฏิเสธความร่วมมือกับคุณหนูนานาโกะ”
“แบบนั้นก็ดีอย่างยิ่ง…”
นางาฮิโกะ อิโตะถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณเย่ ผมมองออกว่านานาโกะชอบคุณมาก ถ้าพวกคุณสองคนสามารถมีโอกาสเป็นไปได้ ผมเองก็ยินดีจริงๆแล้ว…”
เย่เฉินเอ่ยขึ้นทันทีว่า “คุณอิโตะ คุณหนูนานาโกะยังเด็กอย่างยิ่ง เรื่องแบบนี้อย่าได้พูดพร่ำเพรื่อ หากหลุดออกไปจะถูกคนเข้าใจผิด และนี่จะทำลายชื่อเสียงของนานาโกะ”
นางาฮิโกะ อิโตะโบกมือของตน “ผมเลี้ยงลูกสาวของผมมา 22 ปีแล้ว บนโลกี้ไม่มีใครรู้จักเธอดีไปกว่าผม ผมมองออกว่าเธอชอบคุณมาก อีกทั้งยังชอบจากใจจริงด้วย หากเป็นไปได้ ฉันก็อยากแนะนำให้คุณอยู่พัฒนาต่อไปในญี่ปุ่นบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน นานาโกะมีตระกูลอิโตะ หากคุณทั้งสองสามารถตกลงปลงใจเป็นสามีและภรรยากันได้ แบบนี้ก็จะกลายเป็นผู้มีอำนาจอันดับต้น ๆ ในเอเชียหรือแม้กระทั่งในโลกอย่างแน่นอน ”
เย่เฉินยิ้มและถามกลับไปว่า “คุณอิโตะควรจะเคยตรวจสอบประวัติผมมาก่อนใช่ไหม? คุณน่าจะรู้ว่าผมแต่งงานแล้ว”