ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1719
เมื่อเห็นเย่เฉินปฏิเสธข้อเสนอของเขาชั่วคราว นางาฮิโกะ อิโตะก็ถอนหายใจด้วยความเสียดาย
เขาหวังเป็นอย่างยิ่งจริงๆว่า เย่เฉินจะสามารถทำให้การขนส่งทางทะเลได้จัดตั้งยืนขึ้นมาได้
นั่นเพราะในตอนนี้ ตลาดการขนส่งทางทะเลของเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน
ท่าเรือที่พลุกพล่านที่สุด 10 อันดับแรกของโลกมากกว่าครึ่งเป็นท่าเรือของจีน มีเพียงการนำเข้าและส่งออกขนาดใหญ่แบบนี้เท่านั้น ที่จะสามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลขนาดใหญ่ได้
จุดนี่ อยู่ไกลเกินเอื้อมจากญี่ปุ่น
ดังนั้น แม้ว่าตระกูลอิโตะอยากจะทำมันเอง แต่ก็ไม่มีตลาดและการสนับสนุนที่มากเพียงพอ เรียกได้ว่าหากขาดปัจจัยสนับสนุนก็ไม่อาจสำเร็จขึ้นมาได้
ดังนั้น เขาจึงพูดกับเย่เฉินว่า “คุณเย่ ในอนาคตตระกูลอิโตะจะค่อยๆ ส่งมอบต่อให้กับนานาโกะเป็นคนดำเนินการและจัดการ หากคุณเปลี่ยนใจ คุณสามารถติดต่อเธอได้ทุกเมื่อ ผมเชื่อว่าพวกคุณจะต้องสร้างรากฐานในการร่วมมือที่ดีอย่างยิ่งได้แน่”
เย่เฉินพยักหน้าเบา ๆ และพูดอย่างจริงจัง “ถ้าหากผมมีความคิดนี้ ผมจะต้องติดต่อคุณหนูนานาโกะแน่”
นางาฮิโกะ อิโตะยิ้มแล้วพูดว่า “นานาโกะเป็นเด็กดี ผมกล้าพูดได้ว่า ด้วยคุณสมบัติที่ครอบคลุมของเธอ ทั่วทั้งญี่ปุ่นก็อาจไม่สามารถหาผู้หญิงที่ดีไปกว่าเธอได้อีกแล้ว ใครก็ตามที่แต่งงานกับเธอ ก็คือการแต่งงานกับยามาโตะนาเดชิโกะที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นและจะต้องเป็นที่อิจฉาของชายหนุ่มทั่วโลกอย่างแน่นอน”
เย่เฉินยิ้มอย่างความปรารถนาดีและไม่ได้ตอบอะไร
นางาฮิโกะ อิโตะรู้ว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว ดังนั้นจึงเอ่ยปากว่า “คุณเย่ คุณกับลูกสาวผมเดินทางมาตลอดทั้งคืนยังไม่ได้พักผ่อน ให้ผมสั่งคนไปส่งพวกคุณที่บ้านและพักผ่อนสักหน่อยดีไหม”
เย่เฉินโบกมือ “ไม่เป็นไรครับคุณอิโตะ ผมยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ต้องรีบกลับไปที่โอซาก้า ไม่รบกวนมากแล้ว”
“จะทำอย่างนั้นได้ยังไงกัน” นางาฮิโกะ อิโตะพูดอย่างจริงจังว่า “คุณเย่ คุณขับรถมาที่นี่ทั้งคืน ไม่ได้พักผ่อน อีกทั้งยังอาจถึงขั้นไม่ได้ทานอาหาร ถ้าคุณไปแบบนี้ การต้อนรับที่บรรพบุรุษของตระกูลอิโตะของเราถ่ายทอดกันมา จะไม่กลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะไปหรอกหรือ”
พูดไป เขาก็ไม่รอให้เย่เฉินปฏิเสธและรีบกดออดที่หัวเตียงแล้วพูดว่า “ให้เอมิและนานาโกะเข้ามา”
ครู่ต่อมา อิโตะ นานาโกะและเอมิ นานาโกะ ก็เคาะประตูเบา ๆ และเข้ามาในห้องผู้ป่วย
อิโตะ นานาโกะเอ่ยถามเสียงนุ่ม “โอโต้ซัง คุณมีอะไรจะสั่งหรือคะ?”
นางาฮิโกะ อิโตะพูดกับเอมิ นานาโกะว่า “เอมิ คุณเย่และนานาโกะเดินทางมาตลอดทั้งคืนลำบากอย่างยิ่ง เธอช่วยจัดการให้คนไปส่งพวกเขากลับบ้านเพื่อพักผ่อน อย่าลืมโทรหาพ่อครัวล่วงหน้าเพื่อเตรียมอาหารที่ดีที่สุด! ”
อเอมิ นานาโกะรีบพูด “ได้เลยค่ะพี่ชาย!”
เย่เฉินกล่าวอย่างจริงใจว่า “คุณอิโตะ ไม่ต้องลำบากแล้วจริงๆ ผมแค่ขับรถกลับโอซาก้าโดยตรงก็พอแล้ว”
อิโตะพูดอย่างเคร่งขรึมอย่างยิ่งว่า “คุณเย่ ต่อให้คุณต้องการที่จะกลับไปโอซาก้า อย่างน้อยๆก็ควรไปนั่งที่บ้านสักพัก ทานอาหาร ดื่มชาสักถ้วยก่อนไป!”
อิโตะ นานาโกะที่อยู่ด้านหนึ่งเองก็ชักชวนเช่นกัน “ใช่ค่ะเย่เฉินซัง บ้านอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ คุณทานอาหาร แล้วพักสักหน่อยค่อยไปก็ยังไม่สาย ตอนนี้ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย!”
ทั้งสองคนขับรถหลังเที่ยงคืนรถมาโตเกียวนานกว่าสามชั่วโมง ตอนนี้เพิ่งจะเป็นเวลาตีสี่กว่าๆเท่าเอง
อีกทั้งตอนนี้ก็เป็นฤดูหนาว แต่เดิมท้องฟ้าก็สว่างช้าอยู่แล้ว อย่างน้อยๆก็ยังมีเวลากว่าสองชั่วโมงก่อนรุ่งสาง
เมื่อเห็นว่าทั้งพ่อและลูกสาวต่างเกรงใจอย่างยิ่ง เย่เฉินจึงได้แต่ต้องตอบปากรับคำและกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นแบบรี้ อย่างนั้นผมก็ได้แต่ต้องเคารพเชื่อฟังแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น เอมิ นานาโกะก็รีบพูดว่า “อย่างนั้นฉันจะจัดการขบวนรถ ตอนนี้คนจากกรมตำรวจก็มากันเยอะมากแล้ว ให้คนคุ้มกันไปตลอดทาง สามารถรับประกันความปลอดภัยได้”
นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้าและเอ่ยกำชับว่า “จะต้องรับรองคุณเย่ให้ดีๆ”
…