ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1721
เมื่อได้ยินสิ่งที่นานาโกะพูด เย่เฉินก็พูดขึ้นทันทีว่า:”ว่ามาสิ ถ้าผมมีความสามารถพอที่จะทำได้ ผมจะตอบตกลง”
อิโตะ นานาโกะลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มองเขาอย่างมีความหวัง และพูดอย่างจริงจังว่า:”ฉันอยากจะขอให้เย่เฉินซังกลับช้าหน่อย……”
“ช้าหน่อย?”
เย่เฉินประหลาดใจเล็กน้อย และถามโดยไม่รู้ตัวว่า:”ช้าแค่ไหนล่ะ? บอกตามตรงผมวางแผนจะกลับจีนคืนนี้ และเครื่องบินยังรออยู่ที่โอซาก้า”
เปลือกตาของอิโตะ นานาโกะร้อน เปลือกตาของเธอหย่อนลงเล็กน้อย พูดเบาๆว่า:”คือ……ที่สำคัญมันต้องขึ้นอยู่กับตารางเวลาของเย่เฉินซังด้วย ถ้าเวลามีน้อย สองสามชั่วโมงก็ได้…..”
อิโตะ นานาโกะก็รีบพูดเสริมว่า:”อย่าเข้าใจฉันผิดนะ เย่เฉินซัง เพราะตอนนี้พ่อของฉันทานากะซังได้รับบาดเจ็บสาหัสและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และป้าของฉันไม่เพียงแต่ยุ่งกับงานภายนอกของตระกูลเท่านั้น แต่ยังยุ่งกับการดูแลพวกเขา…… ”
“และตอนนี้สมองของฉันก็สับสนเล็กน้อย ฉันไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี ฉันอยากให้เย่เฉินซังอยู่กับฉันอีกสองสามชั่วโมง……”
เย่เฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง และพยักหน้า:”งั้นผมจะอยู่จนถึงบ่ายโมง เพราะกลับโอซาก้าต้องใช้เวลาสี่ชั่วโมง”
อิโตะ นานาโกะถามว่า:”เย่เฉินซังจองเที่ยวบินจากโอซาก้าแล้วเหรอ?”
“เปล่า”เย่เฉินพูดตามความจริง:”เพื่อนของผมช่วยหาเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งตอนนี้จอดอยู่ที่สนามบินโอซาก้า”
อิโตะ นานาโกะถามอย่างลองเชิง:”เย่เฉินซัง งั้นให้คนที่คุณเดินทางด้วย บินมาโตเกียวก่อน จากนั้นคุณไปเจอกับพวกเขาที่สนามบินโตเกียว และบินกลับประเทศจีนด้วยกัน ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณจะได้ประหยัดเวลาเดินทางไปสี่ชั่วโมง ได้ไหม?”
พูดจบ อิโตะ นานาโกะก็รีบพูดอีกครั้งว่า”ถ้ามันไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร เย่เฉินซังไม่ต้องรู้สึกลำบากใจ……”
เย่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง แผนเดิมของเขาคือขับรถกลับไปที่โอซาก้าก่อน จากนั้นไปพบเฉินจื๋อข่าย หงห้าและเว่ยเลี่ยง แล้วบินกลับจินหลิงจากโอซาก้า
แต่ว่า วิธีการที่อิโตะ นานาโกะว่ามา ก็เป็นทางออกที่ดีเช่นกัน
ให้เฉินจื๋อข่ายและคนอื่นๆ บินตรงไปโตเกียว เขาจะได้ไม่ต้องขับรถเหนื่อย
นอกจากนี้ ตระกูลอิโตะพบภัยพิบัต ตอนนี้อิโตะ นานาโกะคงจะรู้สึกสูญเสียและหมดหนทางก็เป็นเรื่องปกติ ตนก็อยู่ที่นี่อีกวัน และสามารถสอบถามเกี่ยวกับการกระทำของตระกูลซูในโตเกียวได้อีกด้วย
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็พูดกับอิโตะ นานาโกะว่า:”ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นผมจะรอรุ่งสาง แล้วทักทายเพื่อนๆ ของผม และดูว่าทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”
อิโตะ นานาโกะกำหมัดอย่างตื่นเต้น และพูดอย่างมีความสุข “เยี่ยมมากเลย!”
อิโตะ นานาโกะที่ร่าเริง เชิญเย่เฉินไปที่ร้านอาหารของเธออย่างรวดเร็ว
บอกว่าร้านอาหารที่บ้าน แต่อันที่จริงมันมีขนาดใหญ่กว่าร้านอาหารขนาดกลางภายนอก
เย่เฉินรู้สึกเหมือนเข้าไปในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น ที่มีเชฟที่ยุ่งหลายคน และพวกเขากำลังทำอาหารสไตล์ญี่ปุ่นทุกประเภท
อิโตะ นานาโกะถามเย่เฉินอย่างคาดหวัง:”เย่เฉินซัง คุณชอบอาหารเหล่านี้ไหม? ถ้าชอบก็บอกมาได้เลย พวกเชฟจะเตรียมให้คุณทันที”