ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 1782
“นั่นก็ไม่ได้เหมือนกัน!” หม่าหลันกล่าวอย่างดื้อรั้นเป็นอย่างมาก “หมวกเขียวเหล่านั้น เป็นของวิเศษที่แม่เอาไว้ใช้ปราบคนตระกูลเซียว แม่ก็แค่อยากบีบให้พวกเขานีกถึงเรื่องที่เฉียนหงเย่นตั้งครรภ์ลูกนอกสมรสอยู่ข้างนอก!”
เวลานี้จู่ๆ หม่าหลันก็นึกอะไรได้ จึงหังเราะแล้วกล่าวว่า “แหะๆ! เดี๋ยวแม่จะเอาโคมแขวนเหล่านี้กับหมวกเขียวเหล่านั้นแขวนไว้ใกล้ๆ กันอย่างละอัน ถึงเวลาพอเปิดโคมไฟ โคมไฟสีแดงก็จะขับเน้นหมวกเขียวให้เด่นชัด สะดุดตาอย่างที่สุด! จะต้องทำเอาคนตระกูลเซียวโกรธจนตายแน่!”
เซียวชูหรันโน้มน้าวว่า “แม่คะ ปีใหม่แล้ว ให้อภัยกันได้ก็ให้อภัยเถอะ!”
หม่าหลันแค่นเสียงเย็น “แกโน้มน้าวฉันให้มันน้อยๆ หน่อย ใครโน้มน้าวก็ไม่มีประโยชน์ แกไม่รู้หรือว่าขาฉันย่าแกเป็นคนตีจนหัก? ยังมีฟันหน้าสองซี่ของฉันอีก ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เธอประทานมาให้ เรื่องนี้ฉันไม่มีทางอภัยให้เธอตลอดชีวิต!”
เซียวชูหรันมองเห็นแม่มีความเด็ดเดี่ยวเต็มใบหน้า พลันรู้สึกว่ามีใจแต่ไร้กำลังขึ้นมาพักหนึ่ง
ดูท่าคิดจะโน้มน้าวแม่ให้เปลี่ยนความคิดคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
เวลานี้ หม่าหลันก็หอบโคมแขวนสีแดงกองหนึ่ง ก้าวเท้าเดินไปทางลิฟต์เดินไปพลางกล่าวไปพลางว่า “ฉันจะเอาโคมไปแขวนเดี๋ยวนี้ แขวนด้วยกันกับหมวกเขียวกองนั้น!”
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง
คนตระกูลเซียวอยู่ใต้การจัดการของนายหญิงใหญ่เซียว ซึ่งการแขวนโคมประดับประดาบ้านตัวเองจึงไม่คึกคักนัก
คนตระกูลเซียวในตอนนี้ผิดไปจากอดีตไกลโข บริษัทเซียวซื่อในอดีตได้หยิบยืมเงินทุนของอู๋ตงไห่ หลังชำระหนี้คืนทั้งหมดแล้ว ก็รับโครงการเล็กๆ น้อยๆ ที่อู๋ตงไห่มอบให้ ตอนนี้จึงเปลี่ยนจากขาดทุนเป็นกำไรแล้ว
นายหญิงใหญ่เซียวเองก็ได้คฤหาสน์ เครื่องเคลือบลายครามรวมถึงอักษรภาพวาดที่ธนาคารยึดไปก่อนหน้านี้กลับคืนมา
เพราะว่าตอนนั้นอู๋ตงไห่รับปาก นำคฤหาสน์หรูหราของTomson Rivieraหลังนี้ ให้ครอบครัวพวกเขายืมพักอยู่อาศัยสิบปี ดังนั้นนายหญิงใหญ่เซียวจึงนำคฤหาสน์หลังเก่าปล่อยเช่าเสียเลย ยังพอจะได้กำไรค่าเช่ากลับคืนมาบ้าง
บริษัทพอจะฟื้นคืนกลับมาใหม่ได้ เงินทุนในอดีตก็กลับมาสู่มือตนเองแล้ว นายหญิงใหญ่เซียวตอนนี้จึงเรียกได้ว่าจิตใจกำลังเร่าร้อนฮึกเหิม
ครอบครัวของเซียวฉางเฉียนรู้ว่า ชีวิตสุขสบายในอนาคตแทบทั้งหมดได้รับจากนายหญิงใหญ่เซียว ดังนั้นจึงบูชาเธอราวกับเป็นซูสีไทเฮามาตลอด
พักนี้เซียวฉางเฉียนเองชีวิตก็กำลังรุ่งโรจน์เช่นกัน บริษัทเซียวซื่อฟื้นจากความตายกลับมามีชีวิตได้ เขากับเซียวไห่หลง เซียวเวยเวยลูกชายลูกสาวสองคน ต่างกุมตำแหน่งสำคัญในบริษัท มีหน้ามีตาอย่างยิ่ง
เซียวไห่หลงกับเซียวเวยเวยได้กลับมาใช้ชีวิตแบบลูกคุณหนูอีกครั้ง ในใจย่อมจะเต็มไปด้วยความยินดี
ทั้งครอบครัวมีเพียงเฉียนหงเย่นที่น่าเวทนาที่สุด ตั้งแต่เช้าจรดเย็นไม่มีใครมอบสีหน้าดีๆ ให้เธอสักคน
เซียวฉางเฉียนกับนายหญิงใหญ่เซียวเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ แต่เพราะอู๋ตงไห่ห้ามปราม ไร้หนทางจะไล่เธอไปได้ ดังนั้นจึงมองเธอเป็นหนามแทงตา
เซียวไห่หลงกับเซียวเวยเวยเองก็รู้สึกเช่นนี้กับแม่ของตนเอง เรื่องที่เมื่อก่อนตั้งครรภ์ลูกนอกสมรส จนติดกามโรคน่าขายหน้าเกินไป ดังนั้นทุกวันพอเห็นเธอก็จะเย็นชาและไม่สนใจใยดี
โดนคนทั้งครอบครัวกีดกัน ทำให้เฉียนหงเย่นในใจเสียใจเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเมื่อเห็นพวกคนแซ่เซียวทั้งสี่มีรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้าทุกวัน ซึ่งตนเองกลับได้แต่ทำงานบ้าน ทำกับข้าว ซักเสื้อผ้างกๆ อยู่ในบ้าน เสมือนคนรับใช้ที่ไม่ได้ค่าจ้างคนหนึ่งเข้าไปทุกที ในใจเธอจึงยิ่งเสียใจมากขึ้นกว่าเดิม
ในเวลานี้ เห็นพวกเขาต่างกำลังเตรียมของประดับประดาฉลองวันปีใหม่นานาชนิด เฉียนหงเย่นก็เดินเข้าไป พูดด้วยสีหน้าประจบประแจงว่า “ตายจริง ถ้าอย่างนั้นก็ให้ฉันมาช่วยด้วยเถอะ! คุณคงลืมเมื่อก่อนตอนที่พวกเราอยู่ที่คฤหาสน์หลังเก่าไปแล้ว พอถึงวันปีใหม่การตกแต่งประดับประดาในบ้านนี่ ก็ล้วนเป็นฉันที่ทำทั้งนั้น!”
นายหญิงใหญ่เซียวถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่ง พูดขึ้นอย่างรังเกียจหาใดเปรียบ “ตรงนี้มีอะไรให้เธอทำ? รีบไสหัวไปเช็ดหน้าต่างไป! ฉันจะบอกเธอให้นะ ผ่านวันนี้ไป อีกสามวันก็ปีใหม่แล้ว หน้าต่างทั้งหมดในคฤหาสน์ เธอจะต้องเช็ดมันให้สะอาดเอี่ยมทั้งหมด!”